คอลัมน์ : ละครชีวิต
“เมื่อบางคนใน ‘โรงเรียนของพระราชา’ หยุดยั้งการชุมนุมของประชาชน ที่ยืนหยัดพิทักษ์ปกป้องราชบัลลังก์!”
ผมไม่เข้าใจว่า คุณคำนูณ สิทธิสมาน ต้องการสื่อสารอะไรกับผู้อ่านของตนเอง และสื่อเครือข่ายผู้จัดการ จึงเขียนบทความตำหนิคณะครูและนักเรียนโรงเรียนราชวินิตมัธยม ด้วยหัวเรื่องอย่างที่ผมยกมาข้างต้น
กับ คุณคำนูณ สิทธิสมาน ก็เคยรู้จักมักคุ้น และแลกเปลี่ยนทรรศนะทางการเมืองกันหลายครั้ง ในช่วงเวลาที่คุณคำนูณถูก สนธิ ลิ้มทองกุล ปลดออกจากทุกตำแหน่งในเครือผู้จัดการ และบีบให้ออกจากงาน ทำให้คุณคำนูณต้องระหกระเหินไปพึ่งพาอาศัยใบบุญของใครหลายคน ทั้งนักการเมือง และนักธุรกิจการเมือง ก่อนที่จะวกกลับมาอยู่ใต้ร่มชายคา “ผู้จัดการ” อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ สนธิ ลิ้มทองกุล อภัยโทษให้แล้ว
คุณคำนูณ สิทธิสมาน เป็นตัวแทนของม็อบพันธมิตรฯ ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าเป็นตัวแทนอยู่ในวุฒิสภา และได้รับการยกย่องว่าเป็น ส.ว. น้ำดีคนหนึ่ง ทั้งๆ เป็นคนหนึ่งที่ร่วมเชื้อเชิญ คมช. เข้ามาทำลายระบบรัฐสภา ทั้งแอบอ้างว่าเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย แต่ไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งให้ประชาชนได้มีโอกาสลงคะแนน
มากที่สุดสำหรับ คุณคำนูณ สิทธิสมาน ก็เป็นได้แค่ตัวแทนของคน 7 คน ที่ทำหน้าที่แทนเผด็จการ คมช. คัดสรรคนมาเป็น ส.ว. เพื่อคานอำนาจรัฐบาลที่มาจากประชาชนเท่านั้น
กลับมาที่หัวเรื่องบทความของคุณคำนูณที่ผมยกมาไว้ข้างต้นกันดีกว่า
ผมไม่เข้าใจว่า เหตุใดคุณคำนูณจึงยกระดับการโต้ตอบคณะครูและนักเรียนโรงเรียนราชวินิตมัธยม กับม็อบพันธมิตรฯ ที่เป็นกรณีความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ของนักเรียนที่จะได้เรียนอย่างสงบ กับม็อบพันธมิตรฯ ที่กำลังใช้ความเดือดร้อนของประชาชน และนักเรียน เป็นเครื่องต่อรองกับรัฐบาล โดยมีเจตนาที่จะลากจูงให้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับ “สถาบันเบื้องสูง” อย่างไม่มีเหตุผลอันควร หรือแม้แต่จะมีเหตุผลก็ไม่ควรกระทำ
การใช้คำว่า ‘โรงเรียนของพระราชา’ แทน ‘โรงเรียนราชวินิตมัธยม’ คุณคำนูณมีเจตนาจะบอกอะไรเป็นพิเศษหรือไม่
ผมไม่ได้เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนราชวินิตมัธยมเช่นคุณคำนูณ แต่ก็รู้ประวัติโรงเรียนแห่งนี้ดีว่า เป็นโรงเรียนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างขึ้น เพื่อเป็นสถานศึกษาอบรมกุลบุตรกุลธิดาของข้าราชบริพาร
การได้เป็นศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของโรงเรียนที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเป็นความภาคภูมิใจของนักเรียน รวมไปถึงคณะครู และผู้ปกครองทุกคน ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โดยที่ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศว่า เป็นโรงเรียนของพระราชา เนื่องจากตราสำคัญของโรงเรียนบ่งบอกอยู่แล้ว
จึงไม่มีเหตุอันใดเลยที่คุณคำนูณจะต้องยกฐานะความเป็น “โรงเรียนของพระราชา” มาเป็นเครื่องมือหรือเป็นประเด็นตำหนิคณะครูและนักเรียน ที่แสดงออกถึงการปกป้องสิทธิของตนเอง ไม่ให้ถูกกระทบจากการชุมนุมของม็อบพันธมิตรฯ
คุณคำนูณรู้จักรักษาและปกป้องสิทธิของม็อบพันธมิตรฯ ที่ให้การสนับสนุนคุณคำนูณ และเป็นบันไดให้คุณคำนูณก้าวขึ้นไปเป็น ส.ว. แต่กลับไม่ปกป้องรักษาสิทธิของนักเรียนรุ่นน้อง และโรงเรียนที่เป็นแหล่งประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้แก่ตนเอง อีกทั้งยังนำความภาคภูมิใจของประชาคมราชวินิต มาทำร้ายคณะครูและนักเรียนอีกด้วย
พฤติกรรมของคุณคำนูณเป็นการตอกย้ำให้เชื่อว่า ม็อบพันธมิตรฯ ชอบที่จะแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง และใช้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือทำร้ายผู้อื่น ดังเช่นที่ศาลเคยพิพากษาลงโทษจำคุก สนธิ ลิ้มทองกุล นายใหญ่ของคุณคำนูณ โดยไม่รอลงอาญา เพราะมีพฤติกรรมแอบอ้างและใช้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือทางการเมือง ทำให้เกิดความแตกแยกของประชาชน เป็นภัยต่อประเทศชาติ
คุณคำนูณ สิทธิสมาน นี่แหละ ที่เป็นคนเขียนหนังสือเรื่อง ปรากฏการณ์เสื้อสีเหลืองถึงผ้าพันคอสีฟ้า สดุดีการปลุกระดมประชาชนของ สนธิ ลิ้มทองกุล ด้วยการแอบอ้างและใช้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อความเท็จ กระทั่งประเทศชาติแตกเป็นเสี่ยง ประชาชนแตกแยกเป็นฝั่งฝ่าย หาความสงบไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้
ถามว่าวันนี้ สนธิ ลิ้มทองกุล ใส่เสื้อสีเหลืองที่มีข้อความ “เราจะสู้เพื่อในหลวง” และผูกผ้าพันคอสีฟ้าอีกหรือไม่
หากมีเจตนาบริสุทธิ์ที่จะทำเพื่อปกป้องราชบัลลังก์ดังที่คุณคำนูณกล่าวอ้างไว้ในหัวเรื่องบทความ แล้วเหตุใดคุณสนธิจึงไม่กล้าใส่สีเหลือง “เราจะสู้เพื่อในหลวง” และไม่ผูกผ้าพันคอสีฟ้า
คุณคำนูณเชื่อจริงๆ หรือว่า การปลุกระดมประชาชนของม็อบพันธมิตรฯ เป็นการทำเพื่อปกป้องราชบัลลังก์ หรือเป็นการใช้ราชบัลลังก์เพื่อปกป้อง และหาประโยชน์ให้แก่ตนเอง กันแน่
ผมเสียใจจริงๆ กับโรงเรียนราชวินิตมัธยม ที่มีศิษย์เก่าอย่างนี้
เสียใจกับนักเรียนคนหนึ่งที่เรียนในโรงเรียนของพระราชา แต่กลับใช้พระราชาเป็นเครื่องมือทางการเมืองของตนเอง อย่างไม่ลืมหูลืมตา
เพียงเพื่อให้ “นายเงิน” ของตนเอง ประสบความสำเร็จในเป้าหมาย โดยไม่ได้คำนึงเลยว่า พระราชาจะได้รับความเสียหายอย่างไรจากการกระทำของตน และนายเงินผู้มีพระคุณ
มันช่างบังอาจจริงๆ!!