เมื่อบ่ายวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่เกิดขึ้นมาจากการแต่งตั้งของคณะปฏิวัติรัฐประหาร และยังคงทำงานสานต่อเจตนารมณ์เผด็จการตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ ได้จัดงานอำลาตำแหน่งในโอกาสหมดอายุการทำงานในวันนี้ พร้อมจัดพิธีส่งมอบงานต่อให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. อย่างยิ่งใหญ่อลังการ ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในงานมีการร้องเพลงปลุกระดมหลายเพลง เช่น เพลงเราสู้ หนักแผ่นดิน ฯลฯ และตามด้วยการประกาศเกียรติประวัติ คตส.ทั้งคณะที่นำทีมโดย นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคตส. ราวกับงานไว้อาลัยบุคคลสำคัญของประเทศชาติ
โดยการจัดงานครั้งนี้ดำเนินไปท่ามกลางการชุมนุมของกลุ่มประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของ คตส. ที่เป็นเครื่องมือในการเช็กบิลรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งบางคนก็ตะโกนด่าด้วยถ้อยคำรุนแรง รวมไปถึงคำวิพากษ์วิจารณ์ว่าแม้กำลังจะหมดอายุก็ยังไม่เลิกผลาญงบประมาณที่เป็นเงินของประชาชน เพราะนอกจากจะจัดงานในช่วงกลางวัน ในตอนกลางคืนยังมีงานเลี้ยงที่สโมสรกองทัพบกอีกด้วย
กรณีดังกล่าว ผศ.จรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตั้งข้อสังเกตว่าการจัดงานครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบในการจัดชุมนุม ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เนื่องจาก คตส.กับพันธมิตรฯ เป็นพวกเดียวกัน ซึ่งอาจมีเจตนาในการต่อยอดกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยมีการร้องเพลงปลุกใจ ปลุกระดมคนให้ไปร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนการกล่าวสดุดีผลงานของ คตส. ทุกคน อย่างเอิกเกริกใหญ่โตครั้งนี้ ไม่สมกับผลงานที่ทางคตส.ได้ทำมาตลอด 1 ปี 9 เดือน เพราะสามารถส่งมอบงานต่อไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เพียง 4 คดีเท่านั้น
นอกจากนี้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต้องตอบคำถามว่าเพราะเหตุใด จึงยอมให้ คตส. ใช้หอประชุมใหญ่เป็นสถานที่จัดงานอย่างง่ายดาย และมีเจตนาเข้าข้างทางการเมืองด้วยหรือไม่ ซึ่งหากเป็นจริงเช่นนั้น ก็จะเป็นการเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิด ทั้งนี้ยังมีอีก 1 ประเด็นที่น่าสงสัยว่า คตส.นำเงินที่ไหนมาจ่ายเพื่อเป็นค่าเช่าสถานที่ เพราะที่ผ่านมาคตส.ทำการชี้แจงเสมอว่า ไม่มีเงิน ซึ่งค่าใช้จ่าย หรือ งบประมาณที่ต้องใช้ในการจัดงานครั้งนี้คงมีจำนวนหลักแสน ซึ่งอาจมีใครให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
พร้อมกันนี้ ผศ.จรัล กล่าวฝากถึง ป.ป.ช.ว่า ควรที่จะทำการพิจารณาลำดับความก่อนหลังของแต่ละคดี เพราะขณะนี้คดีความที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ ป.ป.ช.มีจำนวนมาก ซึ่งภายหลังการรับช่วงต่อจากคตส.แล้ว ปรากฏว่า ป.ป.ช.ทำการรีบเร่ง หยิบยกคดีขึ้นมาเป็นกรณีด่วนพิเศษ ก็อาจจะถูกจับตามองว่าเลือกปฏิบัติ และดำเนินการแบบรับลูกกันอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามเมื่อถามถึงกรณีที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติว่าการต่ออายุของคตส.ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 นั้น ประธาน คปพร. กล่าวในฐานะอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ควรที่จะยึดใช้ พ.ร.บ. หรือกฎหมาย ที่ออกโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่มาจากการแต่งตั้ง โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เพราะหากตีความตามตัวอักษร ที่มาของ คตส. ก็ต้องชอบธรรมอยู่แล้ว
ทั้งนี้ที่หลายฝ่ายทำการวิจารณ์คือ สิทธิของผู้ถูก คตส.ตรวจสอบ เพราะที่มาของ คตส.ก็ไม่ได้เป็นไปโดยหลักนิติธรรม ตั้งมาเพื่อมุ่งหาความผิดกับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดังนั้นการสิทธิและเสรีภาพของผู้ถูกสอบสวนโดยคตส.อาจถูกลิดรอนไป ในกระบวนการยุติธรรม เพราะมีการออกกฎหมายเพื่อบังคับใช้กับคนไม่กี่คน ซึ่งอาจขัดกับ ม. 29 ที่กำหนดให้ออกกฎหมายที่จำกัดสิทธิและเสรีภาพ ที่ต้องไม่กระทบต่อสาระของสิทธิ และไม่เป็นเรื่องทั่วไป
ด้าน พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม ประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม ในฐานะอดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงการจัดเลี้ยงที่สโมสรกองทัพบกของ คตส. ที่มีการระบุว่า คมช. เป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่า จะมีอดีต คมช.บางคน อาทิ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ ซึ่งเป็นอดีตรักษาการประธาน คมช.เดินทางไปร่วมงานด้วย
เพื่อไทย
Tuesday, July 1, 2008
ขำกลิ้ง!ปัจฉิมคตส.ยกหาง-ปลุกระดมส่งไม้ต่อพันธมิตร
คตส. จัดงานอำลาบทบาททายาทเผด็จการ เปิดเวทีธรรมศาสตร์ยกหางกันเองราวกับเป็นคนสำคัญของชาติ แถมร้องเพลงปลุกระดมลั่น ส่งลูกต่อให้แก๊งข้างถนน สงสัยอ้างว่าไม่มีเงินแต่ทำไมจัดงานใหญ่โต หรือมีบิ๊ก คมช.สนับสนุนตามที่เป็นข่าว ชี้ที่ผ่านมาล้มเหลวสิ้นเชิง ส่งงานต่อให้ ป.ป.ช.ได้แค่ 4 คดี พร้อมจี้ ป.ป.ช. ต้องลำดับความสำคัญไม่เช่นนั้นคนจะเชื่อว่าเลือกปฏิบัติ