WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, June 30, 2008

งัดเอกสารตอกหน้า‘มาร์ค-ชวน’ จี้แจงพูดในสภา’เสนีย์’ไม่รับเงิน

“จตุพร” ย้ำเอกสารราชการระบุชัดเจนค่าใช้จ่ายทนายความเขาพระวิหารของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ชี้ทั้งพรรคประชาธิปัตย์-กระทรวงการต่างประเทศ ต้องออกมาแจงให้ชัด โดยเฉพาะกรณีเงินที่ประชาชนช่วยกันบริจาค ด้าน “อ.จรัล” แนะชำระประวัติศาสตร์ให้หายกังขา ระบุเรื่องเงินไม่ใช่สาระสำคัญ แค่เป็นการจับโกหก “มาร์ค-ชวน” แนะประชาชนใช้สิทธิขอดูเอกสารได้

สืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายค้านเพียงหนึ่งเดียว ได้พยายามพุ่งเป้ากรณีเขาพระวิหารถล่มเข้าใส่รัฐบาล และในบางช่วงบางตอน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ออกมาปกป้อง ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมทนายความที่ไปแพ้คดีที่ศาลโลก ว่าไม่ได้รับเงินจากรัฐบาลแม้แต่บาทเดียว จนมีการออกมาตอบโต้กันอย่างกว้างขวางนั้น

กรณีดังกล่าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ได้เปิดประเด็นไว้ในสภา ระหว่างการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ว่ามีเอกสารราชการยืนยันได้ว่ามีการจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้กับ ม.ร.ว.เสนีย์ ในการเดินทางไปทำงาน ซึ่งไม่ตรงกับที่นายอภิสิทธิ์ และ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอ้างในสภา

นายจตุพร กล่าวว่า การออกมาพูดเรื่องดังกล่าว เพราะเล็งเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว เพื่อไขข้อสงสัยของประชาชนทั้งประเทศในสมัยนั้น ที่ร่วมกันบริจาคคนละ 1 บาท ว่าได้มีการจับจ่ายใช้สอยไปในกรณีใดบ้าง ซึ่งในวันนี้ไม่ใช่เป็นการพูดถึงเรื่องคุณงามความดีของใคร แต่เป็นการชี้แจงความจริงในเอกสารหลักฐานทางราชการจากกระทรวงการต่างประเทศ ถึงกรณีค่าใช้จ่ายของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช และทีมทนายไทย ที่ไปต่อสู้คดีเขาพระวิหารในขณะนั้น

ทั้งนี้เรื่องเขาพระวิหารควรที่จะได้รับการเปิดเผยทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง ควรเร่งทำการชำระประวัติศาสตร์ เพื่อไขความกระจ่างสู่ประชาชน ตนเป็นเพียงผู้จุดประเด็น ด้วยการพูดในสภาเท่านั้น จากนี้ต่อไปต้องรอดูท่าทีของทางกระทรวงการต่างประเทศว่าจะสมัครใจเปิดเผยเอกสารทางราชการเมื่อไร

“นี่ไม่ใช่เวลาที่ต้องมาพูดว่าใครดีใครเลว แต่จากหลักฐานที่ปรากฏในเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งเบี้ยเลี้ยง ค่ารับรอง ค่าเดินทาง มันเด่นชัดว่ามีการใช้จ่ายจริง ซึ่งขัดกับที่ฝ่ายค้านบอกว่า ม.ร.ว.เสนีย์ ไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ เราไม่ได้พูดถึงเรื่องค่าทนาย แต่สาระสำคัญอยู่ที่เงิน 1 บาทที่คนทั้งประเทศช่วยกันลงขันให้ในช่วงนั้น หายไปไหน วันนี้ไม่มีใครปฏิเสธ เพราะทุกอย่างมีการบันทึกอยู่ในเอกสารทางราชการ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้ากระทรวงว่าจะมีท่าทีอย่างไร จะนำหลักฐานออกมาชี้แจงต่อสาธารณะหรือไม่" นายจตุพร กล่าว

ด้าน ผศ.จรัล ดิษฐาอภิชัย ประธานคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) และอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงการที่ประเทศกัมพูชาจะขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ว่าโดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกนั้น ประเทศไทยควรให้การสนับสนุน เพราะการได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกก็หมายถึงไทยได้รับประโยชน์ร่วมด้วย นอกจากนี้หากมองในทางประวัติศาสตร์แล้ว ปราสาทเขาพระวิหารคนขอมในสมัยโบราณเป็นผู้สร้าง เช่นเดียวกับปราสาทหินพิมาย นอกจากนี้โลกในยุคสมัยใหม่เป็นโลกใบเดียวกัน การแบ่งเขตรัฐไม่ค่อยมีความหมายเช่นอดีต จึงไม่ควรให้เกิดปัญหา

พร้อมกันนี้รัฐบาลควรเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน โดยการนำคำพิพากษาของศาลโลกเกี่ยวกับคดีปราสาทเขาพระวิหาร พ.ศ.2505 มาตีพิมพ์เผยแพร่ รวมทั้งท่าทีของรัฐบาลตั้งแต่ไทยแพ้คดีให้กับเขมร ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องควรมีการหยิบยกเรื่องประวัติศาสตร์มาพูดคุยกันใหม่อีกครั้ง เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน

ส่วนกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคพลังประชาชน หยิบยกเรื่องค่าใช้จ่ายในคดีเขาพระวิหาร พ.ศ.2504-2505 มากล่าวในที่ประชุมสภาสมัยวิสามัญนั้น ตนเข้าใจว่าสาเหตุที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน หยิบเรื่องนี้มาพูด เพราะต้องการให้เกิดข้อเท็จจริง ภายหลังที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรค และที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์สมัยนั้นว่าความฟรี ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว การว่าความต้องมีการใช้จ่ายอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม กระทรวงต่างประเทศควรที่จะทำการชี้แจงเอกสารให้คลายข้อสงสัยของประชาชน และเพื่อแสดงให้เห็นว่า ผู้ใดทำการพูดเท็จในที่ประชุมสภา ทั้งนี้ประชาชนที่ต้องการรับทราบสามารถกระทำได้ ตามรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยสิทธิในการรับรู้ข่าวสารของทางราชการ

“เป็นความต้องการชี้แจงหักล้างว่านายอภิสิทธิ์ และนายชวน พูดจริงหรือเท็จ เพราะหากพูดเท็จก็เป็นเรื่องได้ว่า พรรคฝ่ายค้านพยายามพูดโดยไม่มีข้อมูล และต้องการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาโจมตีรัฐบาลจริงหรือไม่ และที่นายจตุพร บอกว่ากระทรวงต่างประเทศมีเอกสารข้อมูลนั้น หากใครอยากรู้ก็ใช้อำนาจสิทธิในรัฐธรรมนูญได้ บอกให้ทางกระทรวงเปิดเผยเลย ประชาชนจะได้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์พูดเท็จหรือไม่" ผศ.จรัล กล่าว

สำหรับข้อมูลเอกสารราชการที่ระบุถึงค่าใช้จ่ายของ ม.ร.ว.เสนีย์ ในการทำคดีเขาพระวิหาร ปรากฏ ดังนี้

1.ค่าเดินทางไปกรุงลอนดอนเพื่อประชุมกับเซอร์แฟรงก์ ซอสคิส ทนายความคดีเขาพระวิหาร เมื่อ 5 มกราคม 2504 ตามหนังสือสำนักงบประมาณ 17 มกราคม 2504 และบันทึกหัวหน้ากองกฎหมาย 30 ธันวาคม 2503 และหนังสืออธิบดีกรมการเมือง 29 ธันวาคม 2503 ระบุเป็นค่าเครื่องบินของ ม.ร.ว.เสนีย์ และ นายสมปอง สุจริตกุล 1,562.40 ดอลลาร์สหรัฐ เบี้ยเลี้ยง ม.ร.ว.เสนีย์ 7 วัน รวม 252 ดอลลาร์สหรัฐ และค่ารับรองอีก 200 ดอลลาร์สหรัฐ

2.ค่าใช้จ่ายไปราชการที่มิลาน ตามหนังสือ สอท. ณ กรุงเฮก ที่ 74/2505 ลงวันที่ 23 มกราคม 2505 ระบุเป็นค่าเครื่องบินของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช 403.65 กิลเดอร์

3.ค่าพาหนะและค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดของ ม.ร.ว.เสนีย์ อีก 150 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งหมดนั้นยังไม่รวมค่าใช้จ่ายของคณะทนาย ในการเดินทางไปแถลงคดีที่กรุงเฮก