WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, July 2, 2008

สหภาพ กฟน.แฉเหตุทิ้งพันธมิตร มีนักการเมืองเบื้องหลังล้มรัฐบาล

“เพียร ยงหนู” เผยสาเหตุไม่ร่วมวงชุมนุมพันธมิตรฯ เหมือนคราวปี 2549 ระบุเงื่อนไขเปลี่ยนไป แฉครั้งนี้มีกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลังชัดเจน แถมการชุมนุมไม่มีเหตุผลเพียงพอ เพราะรัฐบาลเพิ่งทำงานแค่ 4 เดือน และยังยอมถอยแล้วตั้งหลายเรื่องแต่ก็ยังเล่นกันไม่เลิก ห่วงคนที่แพ้คือประเทศชาติ โต้ข้อกล่าวหารับเงิน “เฉลิม” ชี้ถ้าคิดรับเงินคงรวยไปแล้วตั้งแต่แปรรูปรัฐวิสาหกิจ

ความสำเร็จของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อปี 2549 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจถือเป็นกำลังสำคัญในการเกณฑ์คนมาร่วมการชุมนุม เพราะจะมีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นหลัก ในครั้งนั้น สหภาพแรงงานการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) ที่มีนายเพียร ยงหนู เป็นประธานสหภาพ เป็นสหภาพแรงงานฯแรกที่เข้ามาร่วม หลังจากนั้นก็มีสหภาพแรงงานฯอื่นๆตามมาสมทบ

นายเพียร ยงหนู ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) กล่าวว่าในการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรฯในครั้งนี้ ตนไม่ได้เข้าร่วม เนื่องจากประเด็นข้อเรียกร้องไม่ชัดเจน และมีคนที่อยู่เบื้องหลังเกี่ยวข้องกับการเมืองมาร่วมเสียมากกว่า ประกอบกับตนไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้ากันของทั้งฝ่ายกลุ่มพันธมิตรฯและ นปก.

“การชุมนุมเหตุผลไม่เพียงพอ รัฐบาลเพิ่งทำงานมาแค่ 4 เดือน จะให้แก้รัฐธรรมนูญทางรัฐบาลก็ยอมแล้ว รัฐมนตรีก็ออกแล้ว แบบนี้คิดว่าควรจะจบไหม” นายเพียรกล่าวและว่า ต่อจากนี้ไปรัฐบาลต้องหันมาสนใจแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนอย่างจริงจัง ถ้าทำได้อย่างนี้จะไม่มีใครออกมาเคลื่อนไหวแน่

นอกจากนี้ นายเพียรยังได้ปฏิเสธที่ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาโจมตีว่า การที่ตนไม่มาร่วมชุมนุมประท้วงในครั้งนี้ เพราะตนรับเงินจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จำนวน 300 ล้านบาท และบอกไปถึงกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ถ้าตนจะรับเงินก็สู้รับตั้งแต่ออกมาคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจไม่ดีกว่าหรือ ป่านนี้คงสบายไปแล้ว ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

“เมื่อผมไม่ไปร่วมชุมนุมประท้วงก็โยนเผือกร้อนมาให้ ซึ่งไม่เป็นธรรมเลย สหภาพต่างๆก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผมเสียๆหายๆเพราะผมไม่ได้ไปร่วมกับพันธมิตรฯ การพยายามผลักมิตรให้เป็นศัตรู ผมเชื่อว่าการต่อสู้จะยิ่งลำบากมากขึ้น คนที่ชอบผมก็มาก คนที่เกลียดผมก็มี โรงไฟฟ้าเขาเชื่อมือผมเพราะไม่เคยทรยศต่อหน้าที่”

ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวงกล่าวอีกว่า การขาดพลังจาก สหภาพแรงงานฯการไฟฟ้านครหลวง จะทำให้พลังลดลงแน่นอน เพราะความชำนาญในพื้นที่สู้ตนไม่ได้ และยังบอกด้วยว่า การใช้คนมาดูแลคนมาเป็นการ์ดเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ต้องรู้ถึงจิตใจของเขาว่าเขาลำบากเขาเครียดขนาดไหน คนที่อยู่บนเวทีต้องเข้าใจเรื่องนี้ด้วย

นายเพียรกล่าวถึงทางแก้ปัญหาว่า คนที่อยู่เบื้องหลังเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาได้ ตอนนี้เวทีที่สนามหลวงก็ยังอยู่ มีการโจมตีกันไปมา ฝ่ายรัฐบาลต้องจัดการเลย ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ไม่มีวันสิ้นสุด รัฐบาลต้องไปหาว่าแบ็กของแต่ละฝ่ายคือใคร เท่าที่รู้ทั้งสองฝ่ายมีนักการเมืองหนุนหลัง และตนเชื่อว่าสามารถคุยทำความเข้าใจกันได้ ให้มองเห็นปัญหาและความเสียหายของประเทศชาติที่ตามมา ถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้เศรษฐกิจก็ไปไม่ได้ เพราะแต่ละฝ่ายจ้องเอาชนะกันอย่างเดียว

“วันนี้ขอฝากไปถึงแบ็กทั้งสองฝ่าย ถ้าวางตัวเป็นกลาง เอาประเทศชาติเป็นหลัก บ้านเมืองจะไม่ลำบากอย่างนี้ แต่ตอนนี้แบ็กไม่เป็นกลาง แต่ละคนตกงานทั้งนั้น บ้างอยากเป็นรับมนตรี เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี เป็นบอร์ดต่างๆ แต่จะมีใครยอมพูดความจริง รัฐบาลกก็มีแบ็ก พันธมิตฯก็มีแบ็ก ผมรู้เพราะอยู่มาทั้งสองฝ่าย แต่ผมไม่ใช่คนของใคร แต่ผมว่ารู้มาก รู้แล้วก็ต้องท้วงติงให้ถูกต้อง”

ที่มองกันว่าเป็นการช่วงชิงอำนาจรัฐนั้น ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวงกล่าวว่า ฝ่ายที่ได้เปรียบคือรัฐบาล เพราะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน เป็นฝ่ายที่ประชาชนมอบความไว้วางใจให้มาทำงานบริหารประเทศ ดังนั้นคนที่คิดลิดรอนอำนาจรัฐจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ถ้ารัฐบาลอยู่มานานก็อาจมีปัจจัยทำให้ได้เปรียบได้เหมือนกัน วันนี้กลุ่มพันธมิตรฯมองว่ารัฐบาลทำอะไรก็ขาดความชอบธรรมไปหมด

“วันนี้เชื่อไหม ม็อบที่เอาคนมา คนพวกนี้แทบไม่มีงานทำ ม็อบพันธมิตรฯล้วนแต่คนต้องทำงาน แต่คนไม่มีงานทำมาจากต่างจังหวัด เข็นกันมาถูลู่ถูกังกันมาก็รู้นะ คนที่เคยทำม็อบมาอย่างเรารู้กันอยู่เห็นกันอยู่ ถ้ายังเป็นแบบนี้เศรษฐกิจก็เดินไปไม่ได้ วันนี้จ้องจะเอาชนะกันเท่านั้น” นายเพียรกล่าวในตอนท้าย