WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, June 26, 2008

สื่อเทศจวกยับ‘สนธิ'ทำลายไทย

วอลล์ สตรีทเจอร์นัล พาดหัวหน้า1 ความอาฆาตของอดีตพันธมิตรสร้างความเสียหายต่อประเทศไทย ในขณะที่มีการต่อสู้ระหว่างสนธิและทักษิณ นักลงทุนมองประเทศอื่น

การประท้วงที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในประเทศไทย และก่อให้เกิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาเป็นตัวแทนของการต่อสู้ระหว่างพวกหัวเก่าที่ชอบการเมืองแบบดั้งเดิมกับกลุ่มที่สนับสนุนเศรษฐียอดนิยม และยังอาจจะเรียกได้ว่าเป็นการต่อสู้รอบสองในการแข่งขันรุ่นเฮวี่เวตระหว่างสนธิ ลิ้มทองกุล กับทักษิณ ชินวัตร

ความบาดหมางระหว่างชายสองคนนี้ได้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศไทยเป็นเวลานานเกือบ 2 ปี และความไม่แน่นอนก็ได้สร้างความเสียหายหลายอย่าง ผู้ผลิตซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติกำลังมองหาที่อื่นเพื่อสร้างโรงงานเมื่อแรงกดดันเงินเฟ้อก่อตัวขึ้นในประเทศจีน และบางบริษัทกำลังเลือกประเทศที่มีเสถียรภาพมากกว่าอย่างเช่นเวียดนาม และแม้แต่ฟิลิปปินส์

นักลงทุนที่มีความวิตกกังวลเทขายหุ้นไทยโดยส่วนหนึ่งเกิดมาจากมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่กำลังก่อตัวมากขึ้น

เบื้องหลังการต่อต้านทุกอย่างที่เกี่ยวกับทักษิณของสนธิคือประวัติของการทะเลาะส่วนตัวของพันธมิตรที่เปลี่ยนไปเป็นศัตรู

เมื่อทั้งสองคนเป็นนักธุรกิจในช่วงปีพ.ศ. 2533 สนธิและทักษิณถือหุ้น 17% ในบริษัทอินเตอร์เนชันแนล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน) ซึ่งในขณะนั้นเป็นซัพพลายเออร์โทรศัพท์มือถือของโนเกียให้กับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของทักษิณ

ทักษิณเทขายหุ้นทันทีเพื่อทำกำไรเป็นจำนวนมากทันทีที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น และทั้งสองคนก็เริ่มแข่งกันสร้างอิทธิพล เมื่อทักษิณตั้งบริษัทดาวเทียมโทรคมนาคมสนธิทำตามทันทีและพยายามที่จะสร้างอาณาจักรสื่อระดับโลก และเริ่มเผยแพร่ไปทั่วเอเชีย

จากนั้นในปี 2540 วิกฤติการเงินเกิดขึ้นในประเทศไทย ทักษิณอยู่รอด โดยสามารถบริหารความเสี่ยงจากการล่มสลายของเงินบาทได้สำเร็จ แต่สนธิสูญเสียเกือบทุกอย่าง ศาลสั่งให้เขาล้มละลายหลังจากที่เจ้าหนี้ยื่นฟ้องจนสนธิใช้เวลาช่วงหนึ่งในวัดแห่งหนึ่ง

ในปี 2543 สนธิเริ่มสร้างอาณาจักรของเขาอีกครั้ง โดยใช้ธุรกิจสื่อที่ยังเหลืออยู่เพื่อสนับสนุนทักษิณอย่างออกนอกหน้า ในขณะนั้นทักษิณกำลังลงสมัครเลือกตั้งเพื่อเป็นนายกฯ

หลังจากพรรคของเขาชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย และได้ครองอำนาจ รัฐบาลของเขาได้มอบหมายให้บริษัทของสนธิจัดรายการทางสถานีของรัฐ แต่เมื่อสนธิเริ่มวิจารณ์นโยบายของทักษิณ สถานีโทรทัศน์ก็สั่งให้ปลดสนธิออก ในขณะเดียวกันทักษิณอนุญาตให้ธนาคารกลางปลดที่ปรึกษาทางการเงินที่ใกล้ชิดกับสนธิมากที่สุดออกจากธนาคารของรัฐแห่งหนึ่งเพราะอนุญาตให้ธนาคารดังกล่าวขยายเงินกู้ต้นทุนต่ำให้ สนธิกล่าวว่า เขารู้สึกโกรธที่เพื่อนทำเช่นนั้น

สนธิเริ่มทำรายการทีวีใหม่ตามสวนสาธารณะในใจกลางกรุงเทพฯเพื่อวิจารณ์ทักษิณอย่างรุนแรง เขาได้ถ่ายทอดรายการผ่านเครือข่ายทีวีดาวเทียมและเว็บเพจของหนังสือพิมพ์ของเขา ผู้ฟังได้ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นฝูงชนมากว่า 100,000 คน ในขณะเดียวกันสนธิได้ขายเสื้อยืดและดีวีดีการปราศัยของเขา ในตอนนั้นเขาให้สัมภาษณ์ว่า ทักษิณโกรธมากต่อกิจกรรมประท้วงต่างๆ

หลังจากที่ทักษิณถูกขับพ้นจากอำนาจ ผู้นำทหารได้เชิญสนธิมาเป็นพิธีกรรายการทีวีเพื่ออธิบายว่าทำไมจึงปลดผู้นำ ในปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้สนับสนุนทักษิณชนะเลือกตั้ง 15 เดือนหลังจากที่ปฏิวัติ ศาลอาญาตัดสินจำคุกสนธิ 3 ปี ฐานหมิ่นประมาทหลังจากที่ได้กล่าวหาทักษิณว่าไม่จงรักภักดีต่อราชวงค์

ขณะนี้ทักษิณเป็นนายกสมาคมกอล์ฟ และเป็นเจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในอังกฤษ เขาต้องเจอข้อหาคอรัปชั่นหลายคดีในขณะที่รัฐบาลของทหารปกครองประเทศ

สนธิและคนอื่นๆกล่าวว่า พวกเขาเห็นมือทักษิณอยู่เบื้องหลังรัฐบาลใหม่ โดยที่เห็นได้ชัดที่สุดคือในการหาเสียงของนายสมัครที่ได้กล่าวว่าเขาเป็นตัวแทนของทักษิณ

กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นกลุ่มที่สนธิตั้งขึ้นร่วมกับฝ่ายตรงข้ามทักษิณคนอื่นๆ อีก 4 คน ได้ชุมนุมบนถนนในเดือนที่ผ่านมา และโทรทัศน์ดาวเทียมของสนธิก็ถ่ายทอดสดในขณะที่เขาขึ้นเวที รัฐบาลขู่ว่าจะระงับผู้ประกอบการเคเบิ้ลที่ถ่ายทอดสัญญาณต่อ

นักวิเคราะห์การเมืองกล่าวว่า เป้าหมายที่แท้จริงของสนธิคือเพื่อถอนรากถอนโคนในสิ่งที่เขาเห็นว่าเป็นอิทธิพลของทักษิณที่มีต่อรัฐบาลอย่างต่อเนื่องแม้ว่าผู้ลงคะแนนจำนวนมากยังคงชอบทักษิณและนโยบายของเขา นั่นทำให้แนวโน้มที่จะเกิดความสมานฉันท์ริบหรี่ระหว่างพวกหัวเก่า กับ พวกที่คิดว่าประเทศชาติต้องมีการกำหนดนโยบายสไตล์ทักษิณเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ


จาก thai-grassroots