สอท.ห่วงเศรษฐกิจครึ่งปีหลังย่ำแย่ทั้งจากสถานการณ์ภายนอกและปัญหาการเมืองในประเทศ ขณะที่หอการค้าเชื่อมั่นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะปัญหาปากท้องประชาชน ไม่ส่งผลกระทบความเชื่อมั่นการลงทุน เพราะรัฐบาลเพิ่งทำงานได้เพียง 4 เดือน และทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้ถือว่ามีความเข้าใจในโครงสร้างเศรษฐกิจดีอยู่แล้ว
จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติของโลกที่ได้รับผลกระทบกันไปทั่ว ผนวกกับปัญหาในประเทศที่สะสมมาตั้งแต่การปฏิวัติรัฐประหาร มาจนถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นั้น
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยอมรับว่า ภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีหลังปีนี้มีความน่าเป็นห่วงกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีทิศทางที่อาจจะชะลอตัวลงได้อีก หากปัญหาน้ำมันแพงยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นอาจกระทบการส่งออกไทย ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศเองก็ยังต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่แรงซื้อในประเทศกลับยังคงมีการขยายตัวต่ำอยู่
"เมื่อพิจารณาแล้ว ครึ่งปีหลังนี้ก็น่าห่วงกว่า เพราะปัญหาจะมีทั้งจากปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายในของไทย คือ การเมืองที่เริ่มไม่ชัดเจน ทำให้กำลังซื้อคนไทยลดไปมาก โรงงานไม่กล้าขยายการลงทุน โชคดีที่ส่งออกยังโตอยู่จึงช่วยได้มากในช่วงที่ผ่านมา"
สำหรับมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของรัฐบาลที่จะมีโครงการแจกคูปองคนจนนั้น ก็ถือว่าเป็นจุดที่ดีในการดูแลค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อย แต่ต้องระวังไม่ให้คูปองนั้นเป็นเงินสด เพราะอาจจะนำไปใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่ควรจะใช้ คูปองควรเป็นการนำไปแลกสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น ข้าวสาร เป็นต้น และควรจะมีระยะเวลาที่ชัดเจน และจะต้องลงทะเบียนผู้ที่จะมีสิทธิ์ใช้คูปองให้ดี เพื่อให้ถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง
ด้านนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีครั้งนี้ มีเนื้อหาครอบคลุมหลายเรื่อง เป็นโอกาสที่ฝ่ายค้านจะได้แสดงความเห็น และรัฐบาลจะได้อภิปรายชี้แจง และคงมีประเด็นที่ตรงกับความต้องการของภาคเอกชน โดยนักธุรกิจนักลงทุนจะจับตาในภาพรวม รวมถึงข้อมูลที่นอกเหนือจากที่รัฐบาลได้เคยเปิดเผยมา
ทั้งนี้ ในฐานะตัวแทนภาคเอกชน จะไม่เสนอความเห็นไปยังรัฐบาลผ่านช่องทางทั่วๆ ไป แต่จะขอพบรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ผ่านการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน 3 สถาบัน คือ กกร. หลังจากการอภิปรายสิ้นสุดแล้ว เพื่อรับฟังนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่อไป
นายธนวรรธน์ พลวิชัย คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านพยายามชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลดำเนินนโยบายต่างๆ โดยไม่เข้าใจโครงสร้างเศรษฐกิจ ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงการคลัง ที่ประกาศใช้ก่อนหน้านี้ต้องอาศัยเวลาจึงจะเป็นผล และรัฐบาลเพิ่งบริหารประเทศเพียง 4 เดือน จึงยังไม่สามารถชี้ข้อผิดพลาดให้ชัดเจนได้