WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, June 27, 2008

สุดทน!ม็อบป่วน นร.เข้าชื่อร้องศาล

* ตร.เข้ม‘คอมมานโด’สกัดพันธมิตรบุกสภา

“ครู-นักเรียน” สุดทนพฤติกรรมม็อบพันธมิตรฯ ทำเสียงดัง-รถติด-ชักชวนร่วมวงไล่รัฐบาล แถมอุจจาระ-ปัสสาวะเหม็นคลุ้งจนเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ซ้ำยังอ้างหน้าตาเฉยทุกฝ่ายต้องอดทนเพื่อชาติ ร่วมกันลงชื่อส่งตัวแทนพร้อมทนายความร้องขอความคุ้มครองจากศาลวันนี้ “คุณครู” ระบุพูดดีด้วยหลายครั้งแต่คุยกันไม่รู้เรื่อง ย้อนถามทำเพื่อชาติหรือทำเพื่อใครกันแน่ แต่ยังไม่วายโดนพันธมิตรฯ ป้ายสี กล่าวหาเป็นเครื่องมือรัฐบาลกลั่นแกล้งผู้ชุมนุม ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังเข้ม ทั้ง “อรินทราช-พลร่ม-ตชด.” ประกาศกร้าวไม่ยอมให้ม็อบบุกสภาตามแผนป่วนการพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณแน่

การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สร้างความเดือดร้อนต่อการสัญจรไปมา รวมทั้งสร้างปัญหาให้การเรียนการสอนของโรงเรียนในย่านนั้น อย่างเช่นโรงเรียนราชวินิตมัธยม โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพาณิชย์พระนคร ยังคงดำเนินไปอย่างวต่อเนื่อง โดยไม่สนใจไยดีความเดือดร้อนของผู้คน

แม้ว่าครู อาจารย์ และนักเรียน จะมีการขอร้องให้มีการเปิดทางบางส่วนให้สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น และลดเสียงของเครื่องขยายเสียงบนเวทีลงบ้าง เพื่อให้การเรียนการสอนดำเนินต่อไปได้ แต่ก็ไม่ได้รับการสนองตอบ
โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำการชุมนุม ออกมาระบุว่าการเปิดเส้นทางอาจทำให้เกิดอันตรายกับผู้ชุมนุมได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นยังควรเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายควรเสียสละเพื่อบ้านเมือง

นักเรียนขอศาลคุ้มครองวันนี้

จากความเดือดร้อนดังกล่าวนี้เองได้ทำให้ครู นักเรียน และผู้ปกครองได้ตัดสินใจที่จะพึ่งอำนาจศาลเพื่อคุ้มครองในเรื่องดังกล่าว

โดยในเวลา 09.00 น.วันนี้ (27 มิ.ย.) กลุ่มครู อาจารย์ และนักเรียนที่เดือดร้อนจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมด้วยทนายความจะเดินทางไปยังศาลแขวงดุสิต เพื่อยื่นฟ้องแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กรณีได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุม

แหล่งข่าวครูโรงเรียนราชวินิตมัธยม ระบุว่าเหตุที่ต้องไปยื่นฟ้องที่ศาลยุติธรรมซึ่งเป็นศาลแพ่ง เนื่องจากแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ใช่บุคคลในหน่วยงานราชการ โดยประเด็นหลักในการยื่นฟ้อง เพื่อให้แกนนำยุติการชุมนุม หรือย้ายไปชุมนุมที่อื่น เนื่องจากขณะนี้ โรงเรียนและสถานศึกษาใกล้เคียง ได้รับความเดือดร้อนหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเสียงที่รบกวนสมาธิในการเรียนการสอนในเวลากลางวัน ใช้ถ้อยคำหยาบคายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชน เรื่องการค้าขายของพ่อค้า แม่ค้ารอบบริเวณการชุมนุม ที่ส่งกลิ่นรบกวนและมีขยะสกปรกในสถานที่โดยรอบ เรื่องการจราจรที่มีปัญหาเนื่องจากถนนสายหลัก 2-3 สายถูกปิดกั้นทำให้การเดินทางไปโรงเรียนลำบากมาก และส่งผลโดยรวมทางสภาพจิตใจ มีผลกระทบมากมาย

ชี้สภาพจิตแย่-เรียนไม่รู้เรื่อง
“ขณะนี้ครู นักเรียนโรงเรียนราชวินิตมัธยม รวมทั้งสถานศึกษาใกล้เคียง เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพาณิชย์พระนคร มีสุขภาพจิตที่ค่อนข้างแย่ เนื่องจากมีความเครียดจากผลกระทบดังกล่าว และขณะนี้ ใกล้สอบอีกด้วย จึงจำเป็นต้องดำเนินการเรียกร้องขออำนาจศาลเรียกร้องความเป็นธรรมดังกล่าว ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการอาจารย์และนักเรียนได้ไปเจรจาและยื่นหนังสือขอความร่วมมือกลุ่มพันธมิตรฯ แล้ว แต่ถูกไล่กลับ โดยอ้างว่า การชุมนุมเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า ขอให้นักเรียนอดทนไปก่อน”

ครูโต้เดือดร้อนจริงไม่ได้แกล้ง
อ.ธาราริน บุตรแสงดี อาจารย์โรงเรียนราชวินิตมัธยม กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ออกมากล่าวตอบโต้เรื่องการที่บรรดาครู ผู้ปกครอง และนักเรียนที่เดือดร้อนจะไปยื่นฟ้องที่ศาลแพ่ง ว่าเป็นแผนการกลั่นแกล้งของรัฐบาล และออกมาเรียกร้องให้บรรดาครูผู้ปกครองเห็นแก่การทำประโยชน์ของชาติที่พวกพันธมิตรฯ กำลังทำอยู่ในขณะนี้ ว่าการที่พวกตนรวมตัวกันเพื่อที่จะไปฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอความเป็นธรรมนั้น เป็นเพราะพวกตนกำลังประสบปัญหาที่เกิดขึ้นจากการกระทำของพวกพันธมิตรฯ จริงๆ ทั้งสิ้น ไม่ได้เป็นการคิดจะทำร้ายเลยแม้แต่น้อย และยังเป็นสิทธิของผู้ที่เดือดร้อนพึงจะกระทำได้อีกด้วย

พันธมิตรฯ เคยมารู้สึกเดือดร้อนกับพวกตนหรือไม่ ถึงได้มาพูดจาแบบนี้ เคยรู้หรือไม่ว่าการปิดถนนนั้นสร้างความเดือดร้อนให้กับเด็กนักเรียนมากแค่ไหน บรรดาเด็กที่ยังเล็กๆ ที่ผู้ปกครองต้องเดินทางมาส่งด้วยตนเอง เพราะต่างก็เป็นห่วงความปลอดภัย ซึ่งเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ผู้ปกครองไม่ต้องการให้ลูกหลานถูกพวกพันธมิตรฯ ชักจูงไปให้ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ย้อนถามม็อบทำเพื่อใคร
ส่วนที่ พล.ต.จำลอง ออกมาบอกให้คิดถึงการกระทำเพื่อผลประโยชน์ของชาตินั้น อยากจะถามว่าพันธมิตรฯ เคยคิดถึงเรื่องนี้จริงหรือเปล่า เพราะการออกมาขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนั้นมันถูกต้องและเห็นแก่คนในชาติแล้วหรือไม่ และที่ออกมาทำลายสมาธิและปลูกฝังจิตสำนึกวิถีทางการประชาธิปไตยที่ผิดๆ ให้กับเด็กนักเรียนที่จะต้องเป็นอนาคตของชาติมันเป็นสิ่งที่เรียกว่าทำเพื่อชาติตรงไหน

ดังนั้นพวกตนจึงมีสิทธิทุกอย่างที่จะออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม และไม่อยากที่จะปล่อยให้พันธมิตรฯทำตัวยิ่งใหญ่คับถนน เพราะว่าเป็นของสาธารณะ ทุกคนมีสิทธิใช้ได้

ห่วง พธม. ดึงนักเรียนร่วมวง
ขณะเดียวกัน นางวรรธนันท์ พรวนต้นไทร อาจารย์โรงเรียนเดียวกัน กล่าวว่า สิ่งที่ตนและบรรดานักเรียนเดือดร้อนมากที่สุดคือ การเดินทางมาโรงเรียน เพราะเนื่องจากตนอายุมากแล้ว อีกทั้งยังมีปัญหาในเรื่องน้ำหนัก จึงส่งผลให้เหนื่อยง่าย ตั้งแต่ที่พันธมิตรฯ มารวมตัวกันแล้วปิดถนนส่งผลอย่างมาก มีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนได้ส่งจดหมายมาร้องเรียนมาแล้วหลายราย

อ.วรรธนันท์ กล่าวต่ออีกว่า พยายามตั้งข้อสังเกต ว่าจากที่พันธมิตรฯ มีการชุมนุมนั้น ในแต่ละครั้งที่มีการย้ายสถานที่จะต้องอยู่ใกล้สถานศึกษา ซึ่งทำให้อดคิดไม่ได้าว่าพันธมิตรฯ ต้องการนำเยาวชนมาเป็นเครื่องต่อรองในการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ด้วย

นอกจากนี้พฤติกรรมของผู้ชุมนุมยังพยายามพูดชักจูงปลูกฝัง เสี้ยมสอนให้พูดถ้อยคำที่พันธมิตรฯใช้ด่ารัฐบาล และหลอกล่อให้เด็กนักเรียนซื้อผ้าโพกหัวและผ้าพันคอสีเหลือง จึงรู้สึกเป็นห่วงเด็กนักเรียนอย่างมาก ผู้ปกครองเองก็กังวลอยู่เช่นกัน

อีกประการหนึ่งที่สำคัญ มีการเรียกร้องให้พวกตนเห็นแก่ประโยชน์ของชาติ และกล่าวหาว่าการที่พวกเราจะไปยื่นฟ้องศาลเป็นแผนกลั่นแกล้ง ถือว่าเป็นคำพูดของคนที่ไม่มีความคิด มีสิทธิอะไรมาห้ามไม่ให้คนอื่นเรียกร้องความชอบธรรมที่ ถูกลิดรอนไป การที่ออกมาทำเช่นนี้ยิ่งแสดงให้เห็นชัดว่าเป็นพวกที่ชอบตะแบง หากพูดจากันต่อไปคงจะไม่รู้เรื่องแน่

นักเรียนรุมฉะรถติด-เหม็นฉี่
ขณะเดียวกันนักเรียนและครูก็ได้ร่วมกันลงชื่อเพื่อนำไปร้องต่อศาลในครั้งนี้ด้วย โดยในส่วนของนักเรียนบางห้อง นอกจากลงชื่อแล้วยังได้แสดงความคิดเห็น และชี้แจงความเดือดร้อนเอาไว้ด้วย อย่างเช่น

ก่อความเดือดร้อน เรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะมีเสียงดัง ส่งกลิ่นเหม็นมาก มาปิดถนนการสัญจรไม่สะดวก กลุ่มประท้วงก่อความเดือดร้อน ปิดถนนสัญจรไปมาของประชาชน ทำให้เกิดความลำบากในการสัญจร รบกวนสมาธิในการเรียนและส่งกลิ่นเหม็นอุจจาระ ปัสสาวะ ทำให้เกิดมลภาวะ รถติดเปลืองน้ำมัน เดินทางไม่สะดวก

เดินทางยากมาก ต้องวนรถตั้งนานกว่าจะถึง เรียนไม่รู้เรื่อง รถติดมาก เหม็นฉี่ ต้องเดินจากบ้านมาโรงเรียน เหม็นและต้องเดินไกล ทำให้มาโรงเรียนไม่สะดวก หาทางกลับบ้านไม่ได้ ทำให้การจราจรสับสน เหม็นปัสสาวะ ฯลฯ

ม็อบถ่อยอหังการบุก บชน.
ขณะเดียวกันกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ยังแสดงอำนาจบาตรใหญ่ โดยในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ นายแสงธรรม ชุนชฎาธาร ประธานนักเรียนโรงเรียนสาธิตมัฆวานฯ แห่งมหาวิทยาลัยราชดำเนิน ได้พากันเดินไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่ออ่านแถลงการณ์ตอบโต้การให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ที่ระบุไว้ตอนหนึ่งว่า “สำหรับการชุมนุมที่จะส่งผลกระทบต่อสถานศึกษาโดยรอบทำเนียบ อยากให้ผู้ปกครองนำเด็กนักเรียน นำดอกบัวมากราบแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ แล้วบอกว่าหนูอยากเรียนหนังสือ ไม่อยากโง่ เพราะว่าถ้าโง่ก็กลัวว่าจะต้องมานั่งชุมนุมแบบนี้ ซึ่งหากกลุ่มพันธมิตรฯ ยังนิ่งเฉย และปล่อยให้ลูกหลานเป็นคนโง่ก็ตามใจ”

โดยคำตอบโต้ระบุว่าการใช้คำพูดของ ผบช.น. ในลักษณะนี้ ถือเป็น ภาพสะท้อนซึ่งขาดวุฒิทางปัญญา โดยการที่ใช้นักเรียนเป็นเครื่องมือเพื่อประชดประชันกลุ่มพันธมิตรฯ ถือเป็นการดูถูกสติปัญญาของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งไม่ใช่วิสัยของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

ตร.พร้อมรับมือม็อบบุกสภา
ขณะเดียวกันท่ามกลางกระแสข่าวว่า พันธมิตรฯ จะเคลื่อนพลบุกรัฐสภา เพื่อกดดันการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่

พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีนโยบายหรือมาตรการสลายกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปักหลักหน้าทำเนียบรัฐบาล แต่ได้สั่งเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นในวันลงมติญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวที่รุนแรงขึ้น และจะไม่อนุญาตให้ลุกล้ำเข้าไปในเขตรัฐสภาเด็ดขาด

ส่วน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เผยว่า ขณะนี้ได้จัดกำลังตำรวจไว้คอยรักษาความปลอดภัยบริเวณรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว หลังมีกระแสข่าวกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเตรียมใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจายส่งกลุ่มผู้ชุมนุมมากดดันการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ

สำหรับกำลังตำรวจที่จะใช้ในการรักษาความปลอดภัยครั้งนี้ ประกอบด้วย ตำรวจตระเวนชายแดนจากค่ายนเรศวร หน่วยพลร่ม และหน่วยอรินทราช หน่วยละ 2 กองร้อย