WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, June 23, 2008

สภาประชาชนปราศรัยเชียงใหม่ ยันปกป้องประชาธิปไตย

คอลัมน์: ฮอตสกู๊ป

เมื่อเวลา 16.00 น. วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา ข่วงประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีกลุ่มประชาชนในนามสมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย องค์กรเครือข่ายสภาประชาชน ซึ่งเป็นเครือข่ายสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 จัดกิจกรรม “ร่วมฟัง ร่วมคิด กับสภาประชาชนภาคเหนือ”

โดยมีกิจกรรมทั้งหมดคือ ออกแถลงการณ์จากสมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย และสภาประชาชนภาคเหนือ มีการนำหม้อดินมาทำพิธีสาปส่ง 5 แกนนำพันธมิตรฯ และผู้ประสานงาน มีการปราศรัยคัดค้านการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตร สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 และคัดค้านการรัฐประหาร นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรีสลับกับการปราศรัย นอกจากเพลงเพื่อชีวิตบนเวทีแล้ว มีการร้องเพลงปณิธานแห่งเสรีชนก่อนปิดเวทีด้วย

นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล นักธุรกิจ เจ้าของวิทยุชุมชน FM 92.5 MHz แกนนำ เปิดเผยว่า หลังจากทำพิธีนำผงกระดูกผีจากป่าช้ามาใส่หม้อ และนำภาพของแกนนำพันธมิตรฯ ปิดฝาหม้อดินแล้ว พวกตนก็ได้ให้หมอผีมาทำพิธีสาปแช่งกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ และจะได้นำหม้อดินดังกล่าวไปถ่วงน้ำแม่ปิง เพื่อไม่ให้พวกนี้ได้ผุดได้เกิดหากต้องตายไป เพราะทำให้ประเทศชาติเสียหาย สำหรับการปราศรัยของพวกตนจะทำทุกวันเสาร์ที่ข่วงประตูท่าแพ โดยจะเริ่มตั้งแต่ 18.00 น. ไปสิ้นสุดในเวลา 22.00 น. จนกว่าฝ่ายพันธมิตรที่กรุงเทพฯ จะเลิกชุมนุม

นาย สมชัย ชนะวรรณ์ ผู้ปฏิบัติงานสมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าที่กลุ่มต้องจัดกิจกรรมที่ข่วงประตูท่าแพ เนื่องจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนขบวนไปล้อมทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเขาเห็นว่าการชุมนุมแม้เป็นสิทธิตามหลักการประชาธิปไตย แต่ควรมีขอบเขต ควรเคารพกติกา เคารพกฎหมายบ้านเมือง ถ้าพันธมิตรจัดการชุมนุมโดยไม่ปิดถนน ไปจัดที่สวนลุมพินี คงไม่มีใครว่าอะไร

เขากล่าวว่า แนวทางของพันธมิตรฯ ไม่นำไปสู่หนทางประชาธิปไตย แกนนำพันธมิตรฯ ชอบแอบอ้างประชาธิปไตย แต่สิ่งที่ทำ ทำโดยใช้กฎหมู่ ระบอบประชาธิปไตยเขาสู้กันในระบบรัฐสภา ประชาชนทุกคนมีสิทธิแสดงออก แต่ต้องไม่รบกวนสิทธิของผู้อื่น ไม่ควรกีดขวางทางจราจร ไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน และการชุมนุมไม่ควรทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และกระทบต่อความเชื่อมั่นของต่างประเทศ

สิ่งที่แกนนำพันธมิตรฯ กระทำเป็นไปเพื่อความสะใจ อ้างเรื่องประชาธิปไตย แต่ไม่ยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ทั้งที่พรรคพลังประชาชนรณรงค์หาเสียงอยู่แล้วว่าจะเข้าไปแก้รัฐธรรมนูญ 2550 เพื่อเอาประชาธิปไตยกลับคืนมา มาตราไหนไม่เป็นประชาธิปไตยก็แก้ ส่งคืนรัฐธรรมนูญ 2550 ให้เผด็จการ เพราะคุณยึดอำนาจมา ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน

นายสมชัยยืนยันว่าถ้าได้รัฐบาลจากการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด พลังประชาชน หรือประชาธิปัตย์ เขายอมรับได้ทั้งนั้น พรรคชาติไทยก็รับได้ ขอให้มาตามครรลอง ไม่ได้ตั้งป้อมว่าต้องเป็นพลังประชาชน ใครก็ได้ ขอให้เข้ามาอย่างถูกต้อง เขาจะสนับสนุน

*โต้สนธิ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ทำให้เป็นสาธารณรัฐ ย้อนถามสนธิคิดอะไรอยู่
ต่อกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่า หากมีแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 จะทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงการปกครองไปสู่ระบอบสาธารณรัฐนั้น นายสมชัยกล่าวว่า ความเห็นของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นข้อกล่าวอ้างในการให้ร้ายป้ายสี เขาเห็นว่าคนที่ต้องการประเทศเป็นสาธารณรัฐคือสนธิ ลิ้มทองกุลต่างหาก ทุกครั้งที่นายสนธิอยากทำอะไร เขาจะป้ายสีสิ่งที่เขาอยากทำไปให้คนอื่นเสมอ เช่น ให้ร้ายอดีตนายกฯ ทักษิณ ว่าคอร์รัปชั่น ขายหุ้น ไม่ยอมเสียภาษี

ทั้งที่เราก็รู้ว่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไม่เสียภาษี มติชนขายหุ้นไม่เสียภาษี อากู๋ซื้อไม่เสียภาษี กรณ์ จาติกวนิชแห่งพรรคประชาธิปัตย์ขายหุ้นของพ่อเขาเป็นพันล้านไม่เสีย แต่สนธิไม่พูดเรื่องนี้ นายสนธิให้ร้ายทักษิณว่าทุจริต ตัวเองกู้เงินธนาคารมาแล้วไม่ยอมจ่าย ทำเป็นล้มบนฟูก “ประเทศจะกลายเป็นสาธารณรัฐเป็นไปได้อย่างไร ประเทศของเรายังมีสถาบันพระมหากษัตริย์ ยังมีรัฐธรรมนูญ ยังมีการเลือกตั้ง มันเป็นไปไม่ได้ มีแต่นายสนธิคิดอย่างนี้ต้องการเป็นอย่างนี้ คนที่ไม่รู้ทัน รับฟังเขาโดยที่สมองไม่กรองก็จะคล้อยตาม กลายเป็นพวกเป็นพ้อง”

เขาหาว่าทักษิณไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วตัวนายสนธิเป็นอย่างไรครับ แอบอ้างพระเจ้าอยู่หัว แอบอ้างพระราชินี เอาผ้าพันคอสีฟ้า สีเหลืองมาผูกคอไว้ เพื่ออะไร เพื่อให้คนที่ไม่รู้ หรือรู้ไม่ทัน เข้าใจว่าสถาบันอยู่เบื้องหลังเขา ผมยังจำได้ที่เขาพูดก่อนการรัฐประหาร 19 กันยา ว่าเขาสังกัดพรรคจักรี ถือเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แล้วก่อนการเคลื่อนขบวนไปทำเนียบ ยังเอารูปพระเจ้าอยู่หัวไปติดบนโล่อีก

นายสมชัย ยืนยันว่าการชุมนุมของกลุ่มจะยึดหลักอหิงสา จะไม่มีการปิดถนน เขากล่าวว่า จะรอเวลาที่แกนนำพันธมิตรฯ คิดได้และยอมรับว่าได้กระทำผิดไปแล้ว กลุ่มของเขาทุกคนยอมรับได้ ไม่มีปัญหา เพราะชาวพุทธให้อภัยกันอยู่แล้ว

*“วิภูแถลง” ยันต่อสู้เพื่อรักษาประชาธิปไตย อภิสิทธิ์มาจากการเลือกตั้งก็ต้องปกป้อง
ที่เวทีในเวลา 18.00 น. เริ่มมีการปราศรัย โดยมีผู้ชุมนุมราว 200 คน โดยนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน แกนนำสภาประชาชนซึ่งเดินทางมาจาก กทม. มาร่วมปราศรัยด้วย นายวิภูแถลง กล่าวว่า ตอนพฤษภาคม 2535 คน ที่ตายในเหตุการณ์ก็เป็นลูกหลานคนยากคนจน คนขายดอกไม้ คนขายพวงมาลัย แม่ค้าที่จิตใจบริสุทธิ์ ไม่ใช่ พล.ต.จำลอง กินผักไม่กินเนื้อ แต่กินเลือดประชาชน ดังนั้นเขาเป็นห่วงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เกรงว่าจะเหมือนปี 2535 เพราะตอนนั้น พล.ต.จำลอง ได้ยินเสียงปืนแล้วยิ้ม เพราะอยากให้คนตาย รัฐบาลจะได้หมดความชอบธรรม ให้ทหารเข้ามายึดอำนาจ

นาย วิภูแถลง กล่าวว่า ไม่ได้รัก สมัคร สุนทรเวช เพราะหล่อ แต่เพราะนายสมัครมาจากกติกา เขายังเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเลิกกล่าวหาฝ่ายต่อต้านว่าเป็นไข่ทักษิณ เพราะจะเป็นไข่ใครไม่สำคัญ สำคัญที่ต่อสู้เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย ถ้านายอภิสิทธิ์มาจากการเลือกตั้ง นายวิภูแถลงยืนยันว่าจะไปปกป้องนายอภิสิทธิ์ให้ แต่ทุกวันนี้ที่นายอภิสิทธิ์ถูกเกลียดเพราะคิดจะเล่นนอกกติกา คิดใช้สถาบันเป็นเครื่องมือ

*ชวนสังคมไทยยึดหลักไม่เอารัฐประหารเป็นวิธีแก้ปัญหา
เขากล่าวต่อไปว่า สังคมไทยต้องยึดหลัก “ไม่ยอมรับรัฐประหารให้เป็นวิธีแก้ปัญหาทางการเมือง” เพราะโลกไม่ยอมรับ ถ้ามีการทำรัฐประหารอีกจะเกิดผลเสียหนักกว่าการรัฐประหารปี 2549 เขายังกล่าวว่าบ้านเมืองต้องการคนดีมาปกครองบ้านเมือง แต่บ้านเมืองนี้ก็แปลกเพราะไม่ยอมให้ตรวจสอบคนดี คนที่ถูกกล่าวหาว่าชั่ว ก็ปล่อยให้ถูกตรวจสอบจนแทบจะแก้ผ้า แต่คนดีๆ กลับไม่ยอมให้ตรวจสอบ “ส.ส. ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน แต่ทำไมผู้บัญชาการเหล่าทัพไม่แสดงทรัพย์สินบ้าง อย่าเลือกปฏิบัติ ผู้พิพากษา ป.ป.ช. คตส. ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องแสดงทรัพย์สินเช่นกัน อย่าทำข้างเดียว แต่นี่ด่านักการเมืองเหมือนหมูหมา ตรวจสอบเขาถี่ยิบ แต่ฝั่งตนไม่ยอมให้ตรวจสอบ บางคนบ้านอย่างกับวังขนาด 1 ไร่ บอกว่าราคาแค่ 4.4 ล้าน” นายวิภูแถลงกล่าว

*คนเหนือน้อยใจถูกด่า ยืนยันเป็นคนกินข้าวเป็นอาหารเหมือนกัน
ต่อมามีชาวเชียงใหม่วัยกลางคนผู้หนึ่งขอขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวว่า ผู้นำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ควรใช้คำผรุสวาท ทั้งที่บอกว่าตัวเองมีศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม อย่างนี้หรือคุณธรรม นี่มันคุณธรรมบนความเดือดร้อนของคนไทยทั้งประเทศแล้ว เชียงใหม่มีรายได้จากการท่องเที่ยว แต่ประสบปัญหาเพราะภาวะน้ำมันขึ้นราคา และสภาพเศรษฐกิจแบบนี้อีก ดังนั้นประเทศชาติจึงต้องการความรัก ความสมานฉันท์ ความสามัคคี เหตุไฉนประเทศไทย 63 ล้านคนจึงตกอยู่ภายใต้การกดดันของคนไม่กี่คน

แล้ว ที่แกนนำพันธมิตรฯ บอกว่าต้องการประชาธิปไตย แล้วตอนรัฐประหารแกนนำเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหน แล้วที่บอกว่าไทยจะเสียดินแดน เสียเขาพระวิหาร ขอถามว่าแล้วสามจังหวัดภาคใต้มีขบวนการแบ่งแยกดินแดน แกนนำเหล่านี้ไปมุดรูอยู่ที่ไหน เขายังกล่าวว่าทำไมแกนนำพันธมิตรฯ จึงว่าคนภาคเหนือ ทั้งที่คนเหนือก็เป็นคน กินข้าวเป็นอาหารเหมือนกัน

เขายังกล่าวว่า ขอให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ยึดแนวทางครูบาศรีวิชัย นักบุญล้านนา ครั้งหนึ่งครูบาศรีวิชัยถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ ถูกขังที่วัดศรีดอนไชย จ.เชียงใหม่ และวัดเบญจมบพิตร ใน กทม. เป็นเวลา 3 ปี จนความจริงปรากฏว่าครูบาศรีวิชัยเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้น พวกเราอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล อย่าให้คนดีต้องต่อสู้ตามลำพัง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พวกเรารักศรัทธา แต่ทำไมพันธมิตรฯ เอาพระบรมฉายาลักษณ์ไปติดที่โล่ ชายผู้นี้กล่าว
โดยการปราศรัยดำเนินไปจนถึงเวลา 22.00 น. จึงเลิกเวที โดยแกนนำประกาศว่าจะจัดกิจกรรมเช่นนี้ทุกสัปดาห์


แถลงการณ์จากสมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย และสภาประชาชนภาคเหนือ

วันที่ 21 มิถุนายน 2551

การ เกิดรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ได้ทำลายความเชื่อมั่นในด้านการลงทุนอย่างรุนแรงต่อประเทศไทย เนื่องจากการรัฐประหารถือเป็นสิ่งแสดงความไม่สมบูรณ์และบกพร่องของระบอบการ ปกครองแบบประชาธิปไตย ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันที่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย “ชุมนุมก่อกวน” ทาง การเมืองโดยอ้างสิทธิในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญของประเทศจนทำให้เกิดความ เสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ นอกจากนี้การชุมนุมดังกล่าวยังทำให้การบริหารงานและแก้ไขปัญหาของรัฐบาลทำ ได้ยากขึ้น การกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นตัวอย่างของการใช้สิทธิและเสรีภาพแบบไม่ถูกต้อง ดังนั้นสมาพันธ์ฯ ขอต่อต้านวิธีการชุมนุมประทวงดังกล่าว และจะพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ประชาชนทั่วไปของประเทศ โดยเฉพาะในเขตภาคเหนือเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับประชาธิปไตย เพื่อไม่ให้ประเทศเสียหายเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้

สมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตยมีมติร่วมกันในการเคลื่อนไหวดังนี้


1.ร่วมกันต่อต้านกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกรูปแบบ

2.ร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดรัฐประหารครั้งล่าสุด เพื่อให้ประชาชนเข้าใจที่มาที่ไปของสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน

3.ร่วม รณรงค์ให้ประชาชนในเขตภาคเหนือเข้าใจเกี่ยวกับระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย โดยจะพยายามส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงหน้าที่ สิทธิ และเสรีภาพที่ถูกต้องของประชาชน เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศในอนาคต