ให้รู้กันไปเลยว่า เซียนตัวจริง กับลีลาของ “ลุงหมัก” นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้จังหวะจัดรายการ “ชิมไปบ่นไป” แนะสูตรผสมข้าวเก่ากับข้าวใหม่หุงให้นุ่มอร่อยขึ้นหม้อ โชว์ความเป็นเจ้าตำรับข้าวถุงยี่ห้อประชากรไทย ลงลึกถึงแก่นว่าด้วยปัญหาราคาข้าวที่ฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ เปิดฉากถล่มนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจวันสุดท้าย พูดกันแบบเปิดอก เอาข้อมูลลึกออกมาแฉ ประเภทไปตกลงกับผู้นำอาเซียน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ จะขายข้าวให้ในฐานะเพื่อนบ้าน แต่ถึงเวลาจริงโดนเล่ห์เหลี่ยมพ่อค้าหักหน้า โก่งราคาทำกำไร ไม่รักษาเครดิตผู้นำประเทศ หรือกับคิวข้าวถุงธงฟ้าที่ต้องสั่งยกเลิกเพราะฟังข้อมูลจากข้าราชการประจำมากเกินไป บ่นไป ก็ตำหนิพวกเดียวกันเองไป “ลุงหมัก” พูดตรงๆ รมว.พาณิชย์ ดำเนินการผิดอยู่บ้าง เพราะฟังข้าราชการประจำมากเกินไป รวมทั้งยอมรับว่า การดำเนินการขายข้าวถุงธงฟ้า ทำให้ราคาข้าวตกจริง จึงได้สั่งหยุดขายข้าวถุงธงฟ้าที่ 300,000 ถุง เจอมุกนี้เข้าไป ประชาธิปัตย์ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ ไม่ใช่แค่ชกฉาบฉวย “ลุงหมัก” พูดแบบคนทำการบ้านมาดี เอาเป็นว่า เรื่องข้าวเป็นประเด็นที่ชาวไร่ชาวนา ชาวบ้านร้านตลาดสนใจมากกว่าเรื่องไหน ในคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเป็นอะไรที่ใกล้ตัวที่สุด ฟังแล้วเข้าใจได้ง่ายๆเลย “ลุงหมัก” ออกหมัดได้แต้มก็แล้วกัน และยังได้ใจกันไปเต็มๆ โดยเฉพาะคิวนายมิ่งขวัญ คนที่ถูกจับตากันว่าจะได้คะแนนโหวตไว้วางใจน้อยที่สุด เพราะไม่มี ส.ส.หางเครื่องอยู่ในสังกัด แถมยังมีเรื่องหักดิบกับนายกฯสมัครหลุดเป็นข่าวออกมา ห่วงว่า “มือใหม่” จะคว่ำกลางสภา ปรากฏถึงเวลา “ลุงหมัก” เล่นบทลูกพี่ใหญ่ลุกขึ้นกางปีกป้อง รมว.พาณิชย์ ย้ำแล้วย้ำอีก 3-4 รอบ “รัฐมนตรีมิ่งขวัญเป็นพวกผม” แต่ไปหลงเชื่อข้าราชการประจำมากไป ไม่ใช่แค่นายมิ่งขวัญ “ลุงหมัก” ยังถือโอกาสประกาศเลยว่า รัฐมนตรีทั้ง 35 คน เป็นพวกเดียวกัน ถึงจะขัดขากันบ้าง แต่สุดท้ายก็คุยกันรู้เรื่อง โชว์ความเป็นปึกแผ่นใน ครม. แต่คนที่ตัวลอยก็คือ “เสี่ยตือ” นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ ลูกน้องสายตรงของ “บิ๊กเติ้ง” นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ “ลุงหมัก” เอ่ยปากชมดังๆกลางสภา ยอให้เป็นกุนซือเรื่องข้าวประจำรัฐบาล ทำผลงานได้เข้าตานายกฯ “ลุงหมัก” ยังยกให้ฝังตรงข้ามอย่าง “สามสี ภูเขาทอง” นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อภิปรายได้โดนใจที่สุด และมีแนวทางตรงกับรัฐบาลในการรับไปดำเนินการ ปกป้องลูกน้องในสังกัด ยกก้นคนของพรรคร่วมรัฐบาล ยอวาทีฝ่ายตรงข้าม สรุปคิวนี้ “ลุงหมัก” ได้ไปทั้งแต้ม ได้ทั้งใจ แต่ที่รู้ว่าคงไม่ได้ดั่งหวัง “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่า เป็นเรื่องยากที่รัฐบาลจะมีการปรับเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีที่ถูกฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะรัฐมนตรีทั้ง 7 คน ถือเป็นสายตรงของนายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ถ้านายกฯตัดสินใจปรับเปลี่ยน ก็เชื่อว่าจะช่วยยืดอายุการทำงานของรัฐบาลออกไปได้อีกระยะหนึ่ง แต่ก็เหมือนจะรับมุกกันทันควัน ล่าสุด “บิ๊กเติ้ง” นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย สั่งเรียกประชุมลูกพรรคในเวลา 08.00 น. วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน ก่อนลงมติที่รัฐสภา โดยพูดเป็นนัยๆ “คิดว่ามีความจำเป็นต้องปรับ ครม. เพราะมีหลายอย่างที่ควรปรับปรุงแก้ไข ส่วนจะปรับกี่ตำแหน่งนั้นคงบอกไม่ได้ แต่ต้องดูว่าการอภิปรายครั้งนี้มีผลกระทบอะไรบ้าง อีกทั้งขณะนี้ก็มีตำแหน่งรัฐมนตรีว่างอยู่ 1 ตำแหน่ง คือ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” ส่งซิกบี้เกลี่ยโควตากันใหม่แล้ว. ทีมข่าวการเมือง รายงาน