เมื่อบ่ายวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้อ่านแถลงการณ์กรณีของทนายความส่วนตัว มีคำสั่งศาลให้จำคุก ความว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคารพในดุลพินิจของศาลฎีกา ในการฟังข้อเท็จจริง และขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่ทนายความ เสมียนทนาย และผู้ประสานงานถูกกล่าวหา
พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทย เพื่อต่อสู้คดีที่ดินย่านรัชดาภิเษก ซึ่งคุณหญิงพจมาน ชินวัตรประมูลซื้อจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา โดยเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตนเอง และพร้อมต่อสู้คดีภายใต้กลไกกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศาลยุติธรรม
การกระทำที่มีการกล่าวหาไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใดเลยแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทางเจ้าหน้าที่ธุรการของศาลก็ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาพิพากษาคดี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รู้สึกกดดันกับเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า "โดยส่วนตัวแล้วท่านไม่ได้รู้สึกเครียดอะไร เพราะเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตนเองอยู่แล้ว และท่านก็เคารพในดุลพินิจของศาลด้วย"
ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อไปว่า ประเด็นดังกล่าวจะเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองของอดีตนายกฯ ทักษิณหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากอดีตนายกฯ ทักษิณ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง เพราะว่าได้เว้นวรรคทางการเมืองไปนานแล้ว และรัฐบาลชุดปัจจุบันภายใต้การนำของท่านนายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตนายกฯ ทักษิณแต่อย่างใด
ผู่สื่อข่าวถามอีกว่า ทำไมอดีตนายกฯ ทักษิณไม่ออกมาแถลงการณ์ด้วยตัวเอง นายพงศ์เทพกล่าวว่า ทั้งตนและ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ (โฆษกมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย) ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว เพราะอดีตนายกฯ ทักษิณ ไม่อยากทำให้ตัวเองตกอยู่ในกระแสที่สื่อมวลชนให้ความสนใจมากจนเกินไป เพราะเดี๋ยวจะถูกข้อครหาอื่นๆ อีกมากมาย
ส่วนที่มีประเด็นออกมาว่า มูลนิธิ 111 ไทยรักไทย กดดันให้เกิดการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายนพดล ปัทมะ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ นั้น ตนอยากบอกว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เมื่อวันพุธที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตนได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย ในส่วนของการหารือเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน และยุทธศาสตร์เรื่องข้าว ถึงกระบวนการดำเนินงานว่าจะมีขั้นตอนเป็นอย่างไร ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจเลย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่เกิดขึ้นทำให้สังคมมีมุมมองด้านลบ และมีทัศนะคติที่ไม่ดีต่ออดีตนายกฯ ทักษิณ นายพงศ์เทพกล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้น สังคมคงมองเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ดีอย่างแน่นอน ตนอยากให้ทุกคนรวมถึงสื่อมวลชน ได้ลองไปอ่านคำพิพากษาของศาลดู ก็จะทราบว่า ทีมทนายและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ชี้แจงและอธิบายถึงเรื่องดังกล่าว แต่ในเมื่อศาลเชื่อความอีกอย่าง ก็ต้องเชื่อและเคารพในดุลพินิจของศาล
นายพงศ์เทพ ได้ย้ำอีกครั้งว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตนายกฯ ทักษิณ และเรื่องดังกล่าวก็ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรกับคดีความของอดีตนายกฯ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจการตัดสินใจของศาล ส่วนใครจะเข้ามาดำเนินการดังกล่าวเพื่อสืบหาต้นตอ ตนมองว่าปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมจะดีกว่า
ส่วนที่มีประเด็นออกมาว่า นายธนา ตันศิริ หนึ่งในทีมทนายความ ที่ถูกศาลสั่งพิพากษาได้หลบหนีออกนอกประเทศตามที่ข่าวได้นำเสนอออกไปนั้น ตนอยากบอกว่า ข้อเท็จจริงแล้ว นายธนาไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศตามที่เป็นข่าว แต่ตอนนี้ไม่สบาย และกำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และตอนนี้ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลอยู่ด้วย
ด้าน นายสิทธิโชค ศรีเจริญ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ สภาทนายความ กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ได้มอบหมายให้ นายสมชัย โรจน์วณิชย์ รองประธานกรรมการมรรยาททนายความ ดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ศาลฎีกา เพื่อขอคำสั่งศาล ก่อนเร่งนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการมรรยาททนายความ เพื่อพิจารณามีมติให้ลบชื่อของทนายความทั้ง 3 คน ออกจากทะเบียนทนายความต่อไป
อย่างไรก็ตามในการประชุมลงมติชี้ขาดคดีมรรยาท ด้วยการลบรายชื่อของทนายทั้ง 3 คนนั้น จะใช้มติเสียงเกินกึ่งหนึ่ง หรือ 8 ใน 15 ของคณะกรรมการมรรยาท ตามมาตรา 63 ของพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2528 หมวด 6 ว่าด้วยมรรยาททนายความ ส่วนในมาตรา 71 ที่ระบุว่า บุคคลที่ถูกลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ จะขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตอีกมิได้ เว้นแต่เวลาได้ผ่านพ้นไปแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันถูกลบชื่อนั้น แต่ในทางปฏิบัติสภาทนายความยังไม่เคยอนุญาตให้ทนายคนใดกลับมาว่าความได้อีก
ประธานกรรมการมรรยาททนายความ กล่าวถึงคดีละเมิดศาลที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วยว่า ส่วนใหญ่จะเป็นเหตุทะเลาะวิวาทกันในศาล เช่น กรณีทนายความทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งศาลห้ามแล้วก็ยังกระทำอีก แม้แต่ประชาชนทั่วไปหากกระทำการ เช่น ส่งเสียงดังรบกวนการทำหน้าที่ของศาล การเมาสุรา การขายหวยในบริเวณศาล ก็ถือเป็นการกระทำที่ละเมิดด้วย
ทางด้าน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า แม้จะรู้จัก พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่ทราบว่าให้ใครสู้คดีให้ เพราะระยะหลังไม่ได้ติดต่อกัน และเชื่อว่าการพิพากษาลงโทษทนายความของอดีตนายกรัฐมนตรี จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะนำกรณีดังกล่าวไปขยายความเชื่อมโยงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมนั้น นายสมพงษ์ กล่าวว่า จะไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างไร เมื่อศาลฎีกาซึ่งเป็นผู้วินิจฉัยอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ฝ่ายบริหารไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องและจะไม่เข้าไปก้าวก่ายโดยเด็ดขาด
เพื่อไทย
Friday, June 27, 2008
ทักษิณแถลงเสียใจทีมทนายโดนจำคุกยันสู้คดีตามกติกา
“พงศ์เทพ” เผย “ทักษิณ” ยืนยันเคารพดุลพินิจศาล และแสดงความเสียใจกรณีทนายความถูกตัดสินจำคุก ระบุตั้งใจเข้ามาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้วไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องทำอย่างที่มีข้อกล่าวหา โดยเฉพาะธุรการศาลก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดี