คอลัมน์ : รายงานพิเศษ
ช่างเป็น “ตัว” และ “เงา” ที่ทาบสนิทแนบแน่น ดูรักกันแน่นแฟ้นเสียจริง...
เปล่า...ไม่ได้หมายถึงฝ่ายค้าน ที่ประกาศตัวเป็น “รัฐบาลเงา” ตามติด “รัฐบาลหมัก”
แต่ดันเป็น “พันธมิตรฯ” กับ “ประชาธิปัตย์” ที่เหมือนกันจนไม่รู้ว่าตกลงใครเป็นตัว ใครเป็นเงากันแน่
ไม่ใช่แค่เพราะมี ส.ส. อดีต ส.ส. ผู้สมัคร ส.ส. (สอบตก) ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ที่เรียงหน้าไปทำผลุบโผล่ เปิดเผย กันอยู่ในม็อบพันธมิตรฯ หากแต่ “ประเด็น” ที่นำมาโจมตีรัฐบาล ก็เหมือนถอดกันมาเป๊ะๆ จะมีก็แต่ “โมเดลการเมืองใหม่” แนวคิดล่าสุดของพันธมิตรฯ ที่รังเกียจการเลือกตั้งนี่ล่ะมั้ง ที่อาจทำให้ประชาธิปัตย์กลืนไม่ลงอยู่สักหน่อย
แต่นอกนั้น...ก็ “สำเนาถูกต้อง” ทั้งสิ้น
และที่สุดของที่สุดเวลานี้ ต้องเรื่อง “เขาพระวิหาร” แบ่งงานยั่วยุมวลชนด้วยกระแส “คลั่งชาติ” กันทั้งนอกและในสภา
ออกจากปากพันธมิตรฯ มายังไม่ค่อยเท่าไร เพราะขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องเล่นสกปรกน่ารังเกียจ แต่นี่ดันมีผู้ทรงเกียรติอย่าง “ฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร” ผสมโรงกับเขาด้วย...จะไปกันใหญ่
ตั้งแต่ปี 2505 ที่ศาลโลกตัดสินให้เขาพระวิหารเป็นพื้นที่อธิปไตยของกัมพูชา ก็ปามากว่า 46 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ประชาธิปัตย์ก็เคยได้เป็นรัฐบาลมาแล้วหลายหน แต่คนอะไรความรู้สึกช้า จึงเพิ่งมาเต้นเอาตอนนี้
และเพราะเพิ่งมาสำแดงความหวงแหนกันตอนนี้ ใครต่อใครเขาจึงมองว่า นี่เป็นแค่ “เกมการเมือง” มากกว่าเรื่องอื่นที่อ้างมา
และเพราะมัวแต่หวังผลทางการเมืองจนหน้ามืด จึงสร้างประเด็น “ชาตินิยม” ที่จะกลายเป็นความ “คลั่งชาติ” ที่มีแต่ความรุนแรงเลวร้าย เล่นการเมืองภายในจนไม่คำนึงสักนิดว่าจะถูกขยายเป็นรอยร้าวระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ซึ่งถ้าถึงเวลานั้น ความเสียหายจะมากเกินกว่าที่ฝ่ายค้านหรือพันธมิตรฯ หน้าไหน จะแสดงรับผิดชอบต่อประเทศชาติได้
มวลชนบางกลุ่มก็ช่างกระไร ไม่ลืมหูลืมตาว่านี่เขากำลัง “เล่นการเมือง” กันอยู่ เพียงถูกเป่าหูเบาๆ ว่า รัฐบาลขายชาติ ก็บ้าจี้ลุกขึ้นมาใส่ฟืนใส่ไฟกันยกใหญ่ ทั้งที่ความรู้ความเข้าใจในการเมืองมีแค่หางอึ่ง
แห่กันไปประท้วงถึงที่ จนกัมพูชาต้องสั่งปิด พ่อค้าแม่ค้าทั้งเราและเขาขาดแคลนรายได้ หวุดหวิดจะตีหัวกันก็คราวนั้น
มวลชนใครจัดตั้งมาก็รับผิดชอบกันให้ดีด้วย
แต่อย่าลืมว่า ถึงที่สุดคนที่จะ “ซวย” คือคนที่ยืนอยู่ในที่แจ้งอย่าง “ฝ่ายค้าน” ยิ่งประกาศปาวๆ ว่าจะทวงคืนเขาพระวิหาร...ป่านนี้กัมพูชาเขาจำชื่อจำหน้าไปกี่คนแล้วไม่รู้
จำไปเผื่อว่าต่อไปไอ้ฝ่ายค้านพรรคนี้ได้จัดตั้งเป็นรัฐบาล จะได้เตรียมรับมือในทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถูก และถ้าประชาธิปัตย์จับพลัดจับผลูได้เป็นรัฐบาลสมใจจริง ก็คงต้องเคลียร์กับเขายาวล่ะคราวนั้น...
เว้นแต่ทางเดียวที่ไม่ต้องปวดหัวเรื่องการดำเนินนโยบายความสัมพันธ์ อีกทั้งยังเรียกร้องทวงคืนได้เรื่อยๆ โดยไม่กระทบกระเทือนมิตรประเทศ
นั่นคือ ประชาธิปัตย์ก็ต้องเป็นฝ่ายค้านไปเลยตลอดกาล
ท่าจะดี...