ที่มา บางกอกทูเดย์ สื่อสิ่งพิมพ์นั้น..แตกต่างจากสื่อออนแอร์ทั้งหลายแต่ละมือที่ยื่นออกมาคว้า สื่อสิ่งพิมพ์ออกไปจากแผงหนังสือ..คือประชาชนคนหนึ่ง..เขาเหล่านั้นซื้อสื่อสิ่งพิมพ์เพราะเขาเชื่อถือในสื่อส่วนนั้น..สื่อสิ่งพิมพ์..จึงเดินห่างไม่ได้จาก..ความคิดการอ่านของประชาชน..ประชาชนปราถนาอะไร..สื่อสิ่งพิมพ์จะต้องโอนอ่อนผ่านตาม..แต่ว่ากันไปแล้ว..ประชาชนส่วนใหญ่จะโคจรความปราถนาของเขาไปบนความถูกต้อง..ความถูกต้องของคนส่วนใหญ่..ดำรงสถานะของประเทศไว้..และให้กำเนิดผู้นำที่สร้างชาติในทันทีที่..คนส่วนใหญ่...มองเห็นว่า..นี่มันไม่ใช่ความถูกต้อง นี่คือผู้นำที่ใช้ไม่ได้..เขาก็จะลุกขึ้นมาต่อต้านขัดขวาง..เขาจะไม่ ยอมศิโรราบให้กับสิ่งนั้นอีกต่อไป..ถึงวันนี้..หลังจาก..ศพของประชาชนกองพ้นจากหลักสิบวิ่งเข้าหาหลักร้อย..ไม่ว่าสื่อสิ่งพิมพ์นั้นจะเห็นด้วยคล้อยตามรัฐบาลหรือผู้นำประเทศ..แบบไหนเช่นไร..เขาจะต้องปล่อยวางความรู้สึกนึกคิดของเขา และรับเอาความรู้สึกนึกคิดของประชาชนส่วนใหญ่..มาเป็นหลักเพราะประเทศคือประชาขชนส่วนใหญ่เขียนขึ้นมาเพื่อที่จะบอกกับ.. เบบี้ทุช ว่า..จงสังเกตุการณ์เปลี่ยนแปลงของสื่อสิ่งพิมพ์..เพราะการเปลี่ยนแปลงนั้นจะสท้อ นให้เห็นถึงความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่..หรืออาจจะเรียกได้ว่า...มหาประชาขชนเหมือนพรานป่าที่ชำนาญป่า จะรู้ว่า..สรรพสัตว์ทั้งหลายในราวป่า สัมผัสถึงอันตรายและความอุดมสมบูรณ์ได้อย่างไร และนำความรู้นั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับตนเอง..นักการเมืองที่สามารถ..จะรับรู้ถึง..ความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่..และเขาจะไม่ดึงดันฟันฝ่า..หรือสร้างกำแพงหนาขึ้นมาต่อต้าน..เพราะ นักการเมืองที่สามารถ.. เขาจะโอนอ่อนผ่อนตาม..เหมือนผู้ชำนาญในการเล่นเรือ ใบ..แล่นใบต้านลมนักการเมืองที่สามารถ..ต้องรู้ว่า..มหาประชาชน กับ มหาสมุทร์นั้น..เป็นเรื่องสุดหยั่งคาด..ทันทีที่มันป่วนคลั่งขึ้นมา..จะไม่มีอะไรหรือแสนยานุภาพใดๆ หยุดยั้งมันได้..จนกว่ามันจะสงบตัวของมันเองไม่สงสารตนเองก็สงสารประเทศชาติเถิดครับ..ประชาชนเคลื่อนที่ไปแล้ว สื่อสิ่งพิมพ์กำลังเคลื่อนตัวตามไป..ยอมไปยอมผ่อนปรนเถิด..เพื่อให้ประเทศอยู่