ที่มา บางกอกทูเดย์ มีคนเคยกล่าวว่า “สยามเมืองยิ้ม” หรือ Land of smile แต่วันนี้ดินแดนแห่งนี้กำลังพบว่า “รอยยิ้ม”ของผู้คนกำลังจะเลือนหายไปทุกขณะ ทั้งนี้ เนื่องจากมาจากความขัดแย้งทางความคิดของคนที่รุนแรงที่สุดในรอบ 18 ปี หลังจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ความขัดแย้งที่สะสมมานานกว่า 5 ปี หลังการยึดอำนาจ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 นับเป็น “ปฐมบท” ของการเผชิญหน้าระหว่าง “อำนาจรัฐ” และ “อำนาจของประชาชน”แต่คงไม่มีใคร คิดว่า...ประเทศไทยจะเดินมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญเช่นนี้ และคงไม่มีใครคิดมาก่อนว่า...คนไทยจะออกมาเผาบ้านเผาเมืองของตัวเอง และเป็นการออกมาสร้างความเสียหายครั้งเลวร้ายที่สุดของประวัติศาสตร์ชาติไทย นับตั้งแต่ก่อนตั้งกรุงรัตนโกสินธุ์ วันนี้เมืองหลวงของไทยกลายเป็นดินแดน “มิคสัญญี” ผู้คนออกมาเข่นฆ่ากันเอง เผาบ้านเรือน อาคารสถานที่สำคัญ ปล้นสะดม ทหารต้องออกมาปราบปราบประชาชน วันนี้กรุงเทพฯจึงไม่ต่างจากสมรภูมิ! ความเสีย หายที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็นผลพวงจากวิกฤตการเมืองที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมให้กันและกัน กล่าวคือ ฝ่ายรัฐเอง เชื่อมั่นว่าจะสามารถบังคับใช้กฎหมายได้เหมือนทุกครั้งที่เคยทำมา แต่ลืมไปว่า การชุมนุมของนปช.ในช่วงที่ผ่านมา “ไม่ได้หมู” เหมือนการชุมนุมเช่นทุกครั้งเพราะตลอดเวลา 5 ปี ที่ นปช.ก่อเกิดขึ้นมาในสนามการเมืองนั้น แต่ละครั้งที่ออกมาเคลื่อนไหวล้วนแต่เก็บเกี่ยวชั่วโมงบินไม่ว่าจะเป็นการออกมาเคลื่อนไหวครั้งแรกที่ต่อต้านคมช. โดยเรียกร้องให้คมช. ออกไปหรือแม้แต่การออกมาชุมนุมระหว่างการประชุมอาเซียนเมื่อปีเม.ย. 2552 จนทำให้รัฐบาลไม่สามารถจัดการประชุมผู้นำอาเซียนได้การควบคุมสถานการณ์ของรัฐบาลในแต่ละครั้ง พบว่า มีการประเมินสถานการณ์ที่ต่ำไป จนไม่สามารถยับยั้งความสูญเสียที่เกิดขึ้น การชุมนุมครั้งนี้ก็เช่นกัน แม้รัฐบาลจะประกาศใช้กฎหมายพิเศษที่อยู่ในมือ ทั้ง พ.ร.บ.ความมั่นคง และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ยังไม่สามารถเข้าระงับยังยั้งเหตุการณ์ที่กำลังบานปลายในขณะนี้ได้แม้แกน นำนปช.บางส่วนจะประกาศยุติการชุมนุมที่เวทีราชประสงค์แล้วก็ตาม แต่แนวร่วมที่กระจายกำลังรอบนอกยังคงต้องการต่อสู้กับอำนาจรัฐต่อไปวันนี้ แนวร่วมเหล่านี้ได้ร่วมตัวเป็น แนวร่วมอิสระ ที่ไร้แกนนำนปช. การต่อสู้ของแนวร่วมเหล่านี้จึงเหลือใช้ความรุนแรงเข้ามาต่อสู้ เพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่ในทุกรูปแบบทำให้สถานการณ์ในกรุงเทพฯในเวลานี้กลายเป็นจราจล และกำลังขยายไปยังต่างจังหวัด นั้นหมายถึงแนวร่วมนปช.ในทุกภูมิภาคกำลังจะออกมาตอบโต้รัฐบาลที่ เลือกใช้ความรุนแรงเข้าล้อมปราบประชาชน สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด เป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยนเกิดขึ้นมาก่อน และกำลังเพิ่มดีกรีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หากวันนี้รัฐยังเลือกใช้ความรุนแรงเพื่อยุติปัญหา หากสถานการณ์บ้านเมืองยังเป็นเช่นนี้ “ไทยแลนด์”กำลังเข้าสู่ดินแดนไม่ “สไมล์”