ที่มา เดลินิวส์
ได้มีการยิงปะทะเป็น จุด ๆ ระหว่างประชาชนกับทหารตำรวจอย่างดุเดือด รอบถนนที่พุ่งเข้าสู่สี่แยกราชประสงค์ ที่มั่นของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่ง ศอฉ. ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เปิดปฏิบัติการ “กระชับวงล้อม” ตั้งแต่ ตัดน้ำ ตัดไฟ ปิดการเดินทางสาธารณะ ตัดสัญญาณมือถือ ขนแท่งซีเมนต์ รั้วลวดหนาม ขวางทางเข้า-ออกทุกทิศ
ฝ่ายผู้ชุมนุมเอายางรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถขยะ มาจุดไฟเผา ควันสีดำพวยพุ่ง ขณะที่ทหารในชุดอาวุธครบมือ มีเอ็ม 16 ปืนทาวอร์ ตั้งแถวประจันยิงต่อสู้ เสียงปืนดังหูดับตับไหม้ สลับด้วยเอ็ม 79 เป็นระยะ ๆ
หนังสือพิมพ์บางฉบับแปลคำ กระชับวงล้อม ว่า หมายถึง การปิดประตูตีม็อบ ขณะที่ก่อนหน้านั้น คำว่า ขอพื้นที่คืน หมายถึง การใช้กำลังเข้าสลายม็อบ จนตาย 26 ศพ เจ็บกว่า 800 คน จากเหตุการณ์ 10 เม.ย.
สงครามกลางเมืองครั้งล่าสุด เกิดหลังจากที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง นายทหารนอกคอก ที่ทำตัวเป็นหัวหน้าการ์ดคนเสื้อแดง ถูกมาร์กตัวใช้ปืน “สไนเปอร์” ยิงเจาะศีรษะนัดเดียว ล้มตึงต่อหน้านักข่าวต่างชาติที่ยืนสัมภาษณ์อยู่แถวสีลม การลอบสังหารในครั้งนี้ บอกว่า
เป็นมืออาชีพ ที่ได้รับการฝึกฝนมาดีเยี่ยม
สื่อบางฉบับชี้ว่า นี่เป็นการ “เอาคืน” หลังเหตุการณ์ 10 เม.ย. ที่ทหารกลุ่ม “บูรพาพยัคฆ์” ต้องสูญเสียอย่างหนัก โดยกองกำลังไม่ทราบฝ่ายครั้งนั้น ฝ่ายคุมกำลังเชื่อว่า เสธ.แดง อยู่เบื้องหลัง จึงเป็นแค้นที่ต้องชำระ
เหตุการณ์ 13-14 พ.ค.ที่ปะทะเดือด ปรากฏว่ามีประชาชนต้องเสียชีวิตอีก 17 คน บาดเจ็บกว่า 150 คน มีผู้สื่อข่าวทั้งไทยและเทศ ถูกปืนยิงบาดเจ็บด้วย มาถึงวันนี้ตัวเลขคนตาย และคนเจ็บ คงเพิ่มขึ้นอีกมากแล้ว
ที่ยังคาใจคือ เสื้อแดงมีอาวุธร้ายแรงหรือไม่ บอกตรง ๆ ไม่รู้เช่นกันแต่ที่เห็นด้วยตาเปล่า ตอนไปสังเกตการณ์ที่สี่แยกราชประสงค์ ก็เห็นชาวบ้านมี ไม้ ไผ่ปลายแหลม โล่ไม้กระดาน อิฐตัวหนอนที่ทุบให้เล็กลง เป็นอาวุธป้องกันตัว
มีเท่านั้นจริง ๆ
แต่ต่อให้มีอาวุธตามที่ถูกกล่าวหาจริง ผู้ชุมนุมก็ไม่มีทางสู้รบปรบมือกับกองกำลังมหึมา ของทหาร และตำรวจ ที่ทั้งได้ฝึกฝน และมีอาวุธครบมืออยู่ดี สู้กันเมื่อไหร่ ฝ่ายที่จะถูกปราบปรามอย่างหนัก ไม่พ้นผู้ชุมนุมมือเปล่า
เค้าไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากสิทธิทางการเมืองที่เท่าเทียมกับอภิสิทธิ์ชน แต่ที่ได้คือ ข้อหาผู้ก่อการร้าย และ ล้มล้างสถาบัน กับชีวิตที่ถูกปลิดทิ้ง
ต้องบันทึกไว้ภายใต้นายกฯ ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แค่ปีกว่า ๆ ต้องมีผู้สังเวยชีวิตจากคำสั่ง “ขอคืนพื้นที่” ไปแล้วเกือบ 60 ศพ วิญญาณของคนเหล่านี้ คงไม่ไปไหน แต่คงวนเวียนอยู่ข้าง ๆตัว อภิสิทธิ์ นี่แหละ.
ดาวประกายพรึก
เพื่อไทย
Tuesday, May 18, 2010
บันทึกไว้ในหัวใจ
ประวัติศาสตร์ต้องบันทึกไว้ว่า ได้เกิด สงครามกลางเมือง ขึ้นกลางใจเมืองหลวงของประเทศที่เคยได้ชื่อว่า สยามเมืองยิ้ม หลังพระอาทิตย์ตกดินของวันที่ 13 พ.ค ต่อเนื่องถึงวันอาทิตย์ที่ 17 พ.ค. 2553 (ที่ต้องปิดต้นฉบับ)