ที่มา บางกอกทูเดย์ หลังจากวันนี้ เป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาลที่จะต้องเยียวยาสถานการณ์ความบอบช้ำ และความคับข้องใจของประชาชนทั้งหลายอย่างรีบเร่ง โดยจะต้องระมัดระวังไม่ให้มีการซ้ำเติมใดๆ ขึ้นมาอีก เพราะไม่เพียงกลุ่มคนเสื้อแดงจับตามองอยู่ แต่คนทั่วโลกเองก็จับตามองอยู่ด้วยเช่นกัน ว่า ประชาธิปไตยของไทยและกฎหมายไทยจะยังสามารถเป็นที่พึ่งพาในการเยียวยาความบอบช้ำในครั้งนี้ได้หรือไม่ เพราะสิ่งที่เป็นความจริงในวันนี้ ต้องยอมรับว่า สำหรับกลุ่มคนเสื้อแดง ทั่วโลกทั้งหมดคือสิ่งที่หลายๆ ฝ่าย รวมทั้ง บางกอกทูเดย์ ห่วงใยมาโดยตลอดว่าจะเกิดขึ้น... แล้วสุดท้ายก็เกิดขึ้นจริงๆอนิจจา... แตกต่างทางความคิด จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ต่างสี และบานปลายไปสู่การเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรง... ไม่สมควรเลยสักนิดที่จะเกิดขึ้นกับแผ่นดินไทยซึ่งสุดท้ายหลังการตัดสินใจเด็ดขาดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ ศอฉ. ในการยึดคืนพื้นที่แบบเบ็ดเสร็จในสลายการ ชุมนุมจนทำให้เกิดการปะทะแตกหักยังดีที่เมื่อถึงที่สุดแล้วได้นำไปสู่การตัดสินใจยุติการชุมนุมของแกนนำ นปช.รวมทั้งการตัดสินใจเข้ามอบตัวของแกนนำ นปช. หลายคน เพื่อยุติภาพของความรุนแรงของทั้ง 2 ฝ่าย ถือเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมที่สุดถ้าไม่มอบตัว ก็ไม่รู้ว่าจะเสียหายอีกมากน้อยเท่าไร จะต้องสลดใจกันอีกสักเพียงไหน!!!เพราะการต่อสู้บนวิถีทางประชาธิปไตยนั้น สามารถที่จะดำเนินการได้หลายวิถีทาง หากยึดติดกับทิฐิ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม ย่อมไม่เกิดผลดีด้วยกันทั้งสิ้นหากแกนนำ นปช. ดันทุรังไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าบรรดาผู้ร่วมชุมนุมก็ยืนยันแล้วว่าจะปักหลักสู้ไม่มีถอย นั่นหมายความจะต้องสูญเสียไม่รู้จักเท่าไร...ยอดผู้คนที่จะล้มตายและบาดเจ็บ อาจจะเป็นหลักร้อยหลักพันดังนั้น ต้องบอกว่า การตัดสินใจของแกนนำที่ยอมมอบตัว และประกาศยุติการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ถือว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว... เป็นผลงานการตัดสินใจที่เหมาะสมที่สุดแล้วของแกนนำและแน่นอนว่าเรื่องนี้ส่วนหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ต้อง ถือว่าเป็นผลงานของกลุ่มวุฒิสภาที่มีวุฒิภาวะสมเป็นสภาสูง ทั้ง นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ที่อาสาจะเป็นคนกลางในการเจรจา แม้ว่าสุดท้ายจะไม่ได้ผลเพราะนายอภิสิทธิ์ยืนยันการตัดสินใจไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกันกับ เสธ.อู้- พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สว. ผู้วิ่งประสานงานการเจรจาอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นผู้ที่ช่วยหยุดสถานการณ์ความรุนแรงเพราะเมื่อเห็นว่ารัฐบาลขีดเส้นตายและเอาจริงขั้นเด็ดขาด จึงได้มีการเจรจาให้มีการมอบตัวณ วินาทีนี้ เมื่อแกน นำ นปช. เลือกที่จะมอบตัว เพื่อพิสูจน์ระบบยุติธรรมว่า ไม่ได้มี 2 มาตรฐานจริงอย่างที่สงสัย หน้าที่จากนี้ไปก็ย่อมตกเป็นของรัฐบาล ตกเป็นของฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการและแม้แต่กระทั่งกองกำลังทหารและตำรวจ ซึ่งถูกมองว่าดำเนินการอย่างเฉียบขาดผิดปกติ คงจะต้องพิสูจน์ความจริงว่า จริงๆ แล้วทหารไทยไม่ได้กระหายเลือดอย่างที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใดหลังจากวันนี้ เป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาลที่จะต้องเยียวยาสถานการณ์ความบอบช้ำ และความคับข้องใจ ของประชาชนทั้งหลายอย่างรีบเร่ง โดยจะต้องระมัดระวังไม่ให้มีการซ้ำเติมใดๆ ขึ้นมาอีก เพราะไม่เพียงกลุ่มคนเสื้อแดงจับตามองอยู่แต่คนทั่วโลกเองก็จับตามองอยู่ด้วยเช่นกัน ว่า ประชาธิปไตยของไทยและกฎหมายไทย จะยังสามารถเป็นที่พึ่งพาในการเยียวยาความบอบช้ำในครั้งนี้ได้หรือไม่เพราะสิ่งที่เป็นความจริงในวันนี้ ต้องยอมรับว่า สำหรับกลุ่มคนเสื้อแดง และรัฐบาล อาจจะไม่มีใครแพ้ใครชนะ ... ที่แพ้ยับเยินแน่ๆ ก็คือประเทศไทยของคนไทยทุกคนนั่นเองจริงๆ แล้วหากที่ผ่านมา เป็นเหมือนบรรยากาศในบ้านของ เสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า มีความแตกต่างทางความคิดระหว่างการเป็นสีเหลือง กับการเป็นสีแดง ในบ้านเดียวกันแต่ก็ไม่ได้ทำลายความผูกพันระหว่างสายเลือดเลยแม้แต่น้อยในวันที่ เสธ.แดง ประกาศตัวเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง จนทำให้ถูกลอบสังหาร คนในครอบครัวไม่ว่าจะมีความแตกต่างทางความคิดอย่างไร ยังไง...สายเลือดก็ข้นกว่าความคิดต่างอยู่ดี
และรัฐบาล อาจจะไม่มีใครแพ้ใครชนะ...ที่แพ้ยับเยินแน่ๆ ก็คือ ประเทศไทยของคนไทยทุกคน ควันดำขโมงท่วมน่านฟ้ากรุงเทพฯ บริเวณพื้นที่ชุมนุมย่านศาลาแดง ย่านบ่อนไก่ย่านสามเหลี่ยมดินแดง...ล้วนเป็นภาพที่น่า สลดใจการเคลื่อนรถหุ้มเกราะและกำลังทหารเข้าเคลียร์พื้นที่บริเวณศาลาแดง ทลายบังเกอร์ของกลุ่มคนเสื้อแดง...ล้วนเป็นภาพที่สร้างความอัดอั้นตันใจไปทั่วทั้งหมดคือ ภาพสะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย และถูกเผยแพร่ปรากฏออกไป