ที่มา ข่าวสด
วงค์ ตาวัน
นอกจากตัวเลขผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการของรัฐบาลนับตั้งแต่ 10 เม.ย.จนถึง 19 พ.ค. จะสูงเกิน 80 ศพแล้ว อันเป็นความสูญเสียของประชาชนในเหตุการณ์ทางการเมืองที่หนักหนาสาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์
ยังมีปัญหาความเสียหายของย่านการค้าในเมืองหลวง ธนาคาร ศาลากลางในต่างจังหวัด
ทั้งสองประเด็นนี้ สุดท้ายจะย้อนกลับมาหานายกรัฐมนตรีผู้สั่งการทั้งหมด!
แม้รัฐจะพยายามขยายภาพผู้ก่อการร้าย เพื่อโยนความรับผิดชอบที่มีประชาชนล้มตายมากมาย ไปจนถึงการเผาทำลายเสียหายมหาศาล
แต่ถ้าสังคมไม่หลงเคลิ้มไปกับถ้อยแถลงของศอฉ.
จะต้องถามถึงความรับผิดชอบของรัฐบาลด้วย!!
แน่นอนแกนนำม็อบต้องมีความผิด และบัดนี้ก็เข้ามอบตัวโดนคุมขังไปแล้ว
แต่รัฐบาลนั้นผิดยิ่งกว่า เพราะเป็นผู้ดูแลความสงบสุขของบ้านเมือง กลับตัดสินใจแก้ไขปัญหา ในหนทางที่จะทำให้เกิดความรุนแรงติดตามมา
อย่างการเผาบ้านเผาเมือง ตอนนี้ก็ประโคมว่า มีการวางแผนล่วงหน้า
ทั้งที่ไม่ต้องมีใครวางแผนหรอก แค่เอารถเกราะบุกตะลุยยิงกันแหลก ไม่ว่าใครก็มองออกว่า จะนำมาซึ่งอารมณ์โกรธแค้นบ้าคลั่งขาดการควบคุม
หันซ้ายหันขวา ล้วนย่านการค้าทั้งนั้น
เป็นเรื่องที่ศอฉ.ต้องรู้ ถ้ากองกำลังทหารเข้าถึงที่ชุมนุมเมื่อไร ก็วอดวายทั้งราชประสงค์เมื่อนั้น!?!
นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ พูดชัดเจนว่า ถึงแม้แกนนำนปช.จะเข้ามอบตัว แต่เหตุการณ์ต่างๆ จะไม่จบ
เคยเตือนรัฐบาลมาตลอดว่า การใช้กำลังจะสามารถระงับเหตุการณ์ได้แค่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่ในระยะยาวจะเกิดความไม่สงบขึ้นทั่วทุกภูมิภาค
หากสลายการชุมนุมโดยใช้อาวุธจนมีคนเสียชีวิตจะนำไปสู่ความโกรธแค้น การเผาอาคารต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯและต่างจังหวัดก็เห็นชัดแล้วว่า มันจะนำไปสู่ความไม่สงบในระยะยาวอย่างแน่นอน
นั่นคือคำพูดของนายดิเรก ซึ่งรัฐบาลยิ่งต้องรู้ดีกว่า
แต่ก็ยังสั่งทหารและรถเกราะ
แล้วปัดความรับผิดชอบเมื่อมีการเผาทำลายและมีคนตาย
ตอนนี้แกนนำทยอยเข้าคุกแล้ว
นายกฯยังเฉยชาอยู่อีกหรือ!?
ถ้าไม่แสดงความรับผิดชอบ
ความโกรธแค้นจะไม่จบ!
เพื่อไทย
Saturday, May 22, 2010
ย้อนกลับมาสู่นายกฯ
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม