ที่มา มติชน ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 พ.ค. นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน)พร้อมด้วยส.ส.พรรคเพื่อไทยกว่า 100 คน ยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อส.ส.พรรคเพื่อไทย 175 คน ต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้วุฒิสภามีมติตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ 50 เพื่อถอดถอนนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลฝ่ายความมั่นคงและพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีพฤติการณ์ที่ส่อว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้มีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และนายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี อดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่วมรับหนังสือด้วย นายวิทยา กล่าวว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้ติดตามการทำงานของรัฐบาลมาตลอดในการดำเนินการกับประชาชนที่มาชุมนุมในนามแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และแม้จะมีการพยายามให้มีการประนีประนอมและเจรจาเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย แต่ก็ต้องพบกับความล้มเหลว และดูเหมือนว่านายกฯ นายสุเทพ และพล.อ.อนุพงษ์ จะไม่ยอมปฏิบัติตามที่ศาลมีคำสั่งคุ้มครองการชุมนุมของนปช. แต่กลับออกคำสั่งให้ทหารพร้อมอาวุธใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ปฏิบัติการณ์ล่าสุดคือเมื่อเช้าวันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งการใช้อำนาจเช่นนี้ถือว่ามีพฤติการณ์ที่ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ด้านนายประสพสุข กล่าวว่า ต้องจะนำรายชื่อของส.ส.ทั้งหมด 175 รายชื่อไปตรวจสอบก่อนภายใน 15 วัน จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการโดยจะส่งให้ป.ป.ช.ต่อไป จากนั้น นายวิทยา ได้สอบถามความคืบหน้าที่ประธานวุฒิสภาถึงการเป็นคนกลางเจรจาระหว่างรัฐบาลกับแกนนำนปช. แม้จะเป็นแสงริบหรี่เพราะเมื่อเช้ามีการสลายการชุมนุมแล้ว ซึ่งนายประสพสุข กล่าวเพียงว่า “ผมจะพยายามอย่างเต็มที่ ผมอยากให้มีการเจรจากันทั้ง 2 ฝ่าย และจะพยายามเต็มที่และจะพยายามต่อไป” จากนั้น นายวิทยา กล่าวว่า ขอให้กำลังใจประธานวุฒิสภา เพื่อช่วยกันทำให้บ้านเมืองกลับมาสงบสุข โดยหากมีทางไหนช่วยได้พวกตนก็พร้อมที่จะช่วย และพร้อมรับฟังคำชี้แนะ และนำส.ส.พรรคเพื่อไทยปรบมือให้กำลังใจ ด้านร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยพยายามทำทุกวิถีทาง เพราะขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรพึ่งพาอาศัยอะไรไม่ได้ เพราะตกเป็นเครื่องมือของรัฐบาล จะเห็นว่าการนัดประชุมหลายครั้งยกเลิกโดยไม่ทราบสาเหตุ ดังนั้นพวกตนจึงขอพึ่งวุฒิสภา และน่าจะไว้วางใจได้มากกว่าสภาฯ ขณะที่พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ซึ่งมาร่วมยื่นหนังสือด้วย กล่าวว่า ประเทศไทยเดินมาถึงจุดมิคสัญญี เนื่องจากสภาฯไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้ จึงเห็นว่า วุฒิสภาจะสามารถบรรเทาความสูญเสียของประชาชนได้ ยินดีที่ประธานวุฒิสภาตั้งคนมาเป็นคนกลาง แต่น่าเสียดายที่เมื่อเช้านี้ตนได้โทรศัพท์ประสานนายดิเรก และพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา ที่เป็นตัวแทนเจรจา ได้ทราบว่าขณะนี้รัฐบาลจะสลายการชุมนุมอย่างชัดเจนแล้ว ขอเรียกร้องนายกฯและนายสุเทพ และกองทัพ ให้ชะลอการตัดสินใจการสลายการชุมนุม เพื่อลดการสูญเสียไปมากกว่านี้ หวังว่าการเจรจาน่าจะสำเร็จได้ ไม่อยากให้มีการเลือดตกยางออก หรือเกิดสงครามกลางเมืองในประเทศไทย การที่นายกฯและกองทัพใช้อาวุธหนักและการสุ่มยิงบุคคลที่ไม่มีอาวุธและใส่ร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม พฤติกรรมดังกล่าวเรียกร้องหมาลอบกัด ซึ่งทั่วโลกทราบกันดี หวังว่านายกฯคงจะเปลี่ยนใจ