ที่มา ไทยรัฐ ยุทธศาสตร์แห่งสงครามกำหนดแผนการรบแตกหักไว้ 4 ขั้นตอน 1, ปิดล้อม 2, กระชับวงล้อม 3,ใช้กำลังเข้าตี 4, ยึดพื้นที่คืน "แม่ลูกจันทร์"
สงครามรบแตกหักระหว่างทหารกับกลุ่มเสื้อแดง ก็ใช้ยุทธวิธี 4 ขั้นตอนดังที่ได้กล่าวมา
เพียงแต่ว่า...สงครามเกิดขึ้นใจกลางกรุงเทพมหานคร
เพียงแต่ว่า...เป็นสงครามที่คนไทยกับคนไทยฆ่ากันเอง
เป็นสงครามไม่จำกัดขอบเขต ไม่ เลือกวิธีการ สื่อต่างชาติรายงานตรงกันว่าเป็นสงครามกลางเมืองที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย
"แม่ลูกจันทร์" เศร้าใจที่บ้านเมืองของเราต้องกลายเป็นดินแดนมิคสัญญี
นี่คือ "เพาเวอร์เกม" ที่ใช้ชีวิตประชาชนเป็นเดิมพัน ใช้อาวุธสงครามเป็นเครื่องมือ ใช้ความเสียหายของประเทศเป็นต้นทุน
ถึงแม้สงครามกลางเมืองครั้งนี้รัฐบาลชนะ ก็เป็นชัยชนะบนกองศพ กองเลือดของพี่น้องเพื่อนร่วมชาติเดียวกัน
เป็นชัยชนะบนความพ่ายแพ้ยับเยินของประเทศไทย
เป็นชัยชนะบนบาดแผลแห่งความขัดแย้งฝังลึกเข้ากระดูกดำ
ส่วนฝ่ายพ่ายแพ้ก็บ่มเพาะความเจ็บแค้นเพื่อรอเอาคืน
นี่คือสัญญาณแห่งความน่ากลัวที่ก่อตัวขึ้นในสังคมไทย
"แม่ลูกจันทร์" ผ่านเหตุการจลาจล ผ่านเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารกับประชาชนมามากมาย
แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ต่อสู้กันดุเดือดยืดเยื้อเท่าครั้งนี้เลย
ไม่น่าเชื่อว่าสงครามกลางเมืองครั้งนี้เกิดขึ้นในยุครัฐบาลประชาธิปไตย
แถมเป็นรัฐบาลที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นพลเรือน
น่าเสียดายที่นายกรัฐมนตรีพลเรือนคนนี้ ไม่มีความอดทนมากพอที่จะใช้แนว ทางสันติวิธีแก้ปัญหาขัดแย้งทางการเมือง
กลับเลือกแนวทางยุติปัญหาด้วยความเข้มข้นเฉียบขาดรุนแรง
ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าการใช้ความรุนแรงจะต้องเกิดความสูญเสียตามมา
ยอดตัวเลขความสูญเสียจากเหตุทหารปะทะกลุ่มเสื้อแดง หลังจากนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สั่งใช้กำลังทหารติดอาวุธปิดล้อมสี่แยกราชประสงค์ ตั้งแต่ วันที่ 14 พ.ค. ถึงเย็นวันที่ 17 พ.ค.
มีผู้เสียชีวิตแล้ว 35 ราย บาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 254 คน
ถ้านับยอดความสูญเสียตั้งแต่เกิดเหตุสลายการชุมนุมที่สี่แยกคอกวัวเมื่อวันที่ 10 เม.ย.
มีผู้สังเวยชีวิตไปแล้ว 65 ราย
ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 1,675 คน
ยอดคนเจ็บคนตายสูงกว่าเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 เกือบเท่าตัว
ข้อสำคัญ ถ้าสงครามกลางเมืองยังยืดเยื้อต่อไป ยอดคนเจ็บคนตายจะต้องเพิ่มขึ้นๆ ทุกชั่วโมงทุกนาที
"แม่ลูกจันทร์" เชื่อว่ายังไม่สายที่จะยุติสงครามไทยฆ่าไทย ยังไม่ช้าเกินไปที่รัฐบาลกับกลุ่มเสื้อแดง จะกลับสู่การเจรจาแก้ปัญหาอย่างสันติวิธีเพื่อนำไปสู่ความปรองดอง และความสงบสุขของบ้านเมืองเป็นสำคัญ
"แม่ลูกจันทร์" เห็นใจพี่น้องประชาชนที่ต้องอยู่อาศัย ต้องทำมาหากินในพื้นที่ที่กลายเป็นสนามรบของทหารกับ ม็อบเสื้อแดง
พี่น้องนับหมื่นคน หลายพันครอบครัว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมือง
พี่น้องประชาชนที่อยู่ย่านทุ่งมหาเมฆ ลุมพินี บ่อนไก่ สาทร คลองเตย วิทยุ สีลม ราชประสงค์ ประตูน้ำ ราชปรารภ ดินแดง ฯลฯ
พี่น้องเหล่านี้เหมือนตกนรกทั้งเป็น เพราะต้องใช้ชีวิตกลางห่ากระสุนปืน
โดยเฉพาะหลายพื้นที่ที่ถูกตัดน้ำตัดไฟ ต้องอยู่ท่ามกลางความมืดและท่ามกลางอันตราย
แม้แต่จะออกไปซื้ออาหารประทังชีวิตก็ทำไม่ได้เพราะอยู่ในคิลลิ่งโซน
จะอพยพครอบครัวไปอยู่ที่อื่นชั่วคราวก็เป็นห่วงบ้านตัวเอง
นี่แหละกรุงเทพฯ นรกมีจริง.