ที่มา thaifreenews
โดย lovethai
ไม่เห็นแก่ชีวิต
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย เภรี กุลาธรรม
นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจราชประสงค์ นำพนักงานและผู้ประกอบการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหว เรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายการชุมนุมในที่สาธารณะโดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องไม่ให้ใช้พื้นที่ราชประสงค์ในการชุมนุม
นายชายยังอ้างว่าการชุมนุมเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 ทำให้ผู้ประกอบการย่านราชประสงค์จำนวน 2,088 รายเสียหาย
คิดเป็นเงิน 11,275 ล้านบาท กระทบต่อความมั่นคงในอาชีพของพนักงานในธุรกิจจำนวน 30,661 คน
พร้อมกับออกแถลงการณ์ว่าการชุมนุมกันอย่างเรื้อรังต่อไปเดือนละ 1-2 ครั้ง ส่งผลโดยตรงต่อผู้ประกอบการ
กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว สูญเสียรายได้ การจราจรมีปัญหา และเกิดความไม่มั่นคงในอาชีพของผู้ประกบอการ
น่าสลดใจก็คือ แถลงการณ์และข้อเรียกร้องของนักธุรกิจกลุ่มนี้ ไม่มีข้อใดเลยที่แสดงความห่วงใยและเห็นใจต่อผู้สูญเสียและผู้ได้รับบาดเจ็บ
หรือเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม
ทั้งๆ ที่ความจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้ตายกว่า 91 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2 พันชีวิต
โดยเฉพาะที่ราชประสงค์นั้น เป็นพื้นที่ที่มีการสั่งใช้กำลังความรุนแรงจากรัฐบาล
มีคนตายและได้รับบาดเจ็บ
เป็นที่รับรู้ไปทั่วโลก
การออกมาชุมนุมและทวงถามความรับผิดชอบของผู้คนนับหมื่นๆ ก็เพื่อทวงถามความรับผิดชอบ
ทวงความยุติธรรมให้ผู้ตายและผู้ได้รับบาดเจ็บ
ถ้าไม่ชุมนุมที่ราชประสงค์แล้วจะให้ไปชุมนุมที่ไหน
ราชประสงค์ในปัจจุบัน จึงเป็นพื้นที่ทางการเมืองโดยสมบูรณ์ไปแล้ว ตั้งแต่มีการปราบปรามประชาชน
ท่าทีของนักธุรกิจกลุ่มนี้ จึงเป็นการมองเฉพาะด้านมากเกินไป ยิ่งพูดแต่ตัวเลขธุรกิจ โดยมองข้ามชีวิตคนตาย ยิ่งดูแห้งแล้งไร้หัวจิตหัวใจ
อันที่จริงชาวราชประสงค์ต้องช่วยกันจี้รัฐบาลให้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้มากกว่า
อย่ารำคาญแต่การชุมนุมของชาวบ้าน ต้องมองไปที่ต้นตอปัญหาคือผู้มีอำนาจไม่ยอมรับผิดชอบ
ถ้ามีความเป็นธรรมเมื่อไร การชุมนุมที่ราชประสงค์ย่อมไม่ต้องมีอีกแน่นอน
(ที่มา ข่าวสดรายวัน , 13 มกราคม 2554)