ที่มา ประชาไท
13 ม.ค. 2554 - หลังจากที่ชาวตูนีเซียอาศัยช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์กเรียกอย่างเฟสบุ๊คและทวิตเตอร์เรียกรวมตัวกัน เพื่อประท้วงเรียกร้องแก้ปัญหาการว่างงานและประท้วงเรื่องอื่น ๆ โดยมีเหตุปะทะอยู่เนื่อง ๆ ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
กระทั่งล่าสุดในวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา กองกำลังทหารตำรวจได้เข้าล้อมปราบปรามผู้ชุมนุมตามที่ต่าง ๆ ในเมืองด้วยกระบอง, แก็สน้ำตา และกระสุนจริง นอกจากนี้ทางรัฐบาลได้สั่งประกาศเคอร์ฟิวช่วงกลางคืน มีรายงานว่าญาติบางส่วนของประธานาธิบดีตูนีเซีย Zine el-Abidine Ben Ali ได้หนีออกจากประเทศเพื่อความปลอดภัยของตนเองไปแล้ว
ในการชุมนุมแห่งหนึ่ง มีผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ยิงสังหารผู้ชุมนุม 4 ราย บ้างบอกว่าพบเห็นสไนเปอร์บนหลังคายิงเข้าใส่ฝูงชน กลุ่มนักสิทธิฯ ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่แล้ว 30 ราย ก่อนหน้านี้
ในช่วงบ่ายรัฐบาลก็ประกาศเคอร์ฟิวภายใต้เวลา 20.00 น. โดยประธานาธิบดี Ben Ali และเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนอื่น ๆ ยังได้กล่าวหาว่าเหตุความไม่สงบในครั้งนี้เป็นฝีมือของผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ หรือไม่ก็กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง โดยอ้างความไม่พอใจจากการไม่มีงานทำ แต่จากรายงานข่าวพบว่า การประท้วงในครั้งนี้มีหลักฐานการอ้างถึงพระเจ้าหรือสิ่งที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลามน้อยมาก และผู้ชุมนุมบางคนบอกว่าข้อกล่าวหานี้ถือเป็นการดูแคลนพวกเขา
"พวกนั้นบอกว่าประชาชนเป็นผู้ก่อการร้าย แต่พวกเขา Ben Ali และครอบครัวเองนี่แหละที่เป็นผู้ก่อการร้ายตัวจริง" นักศึกษาอายุ 18 คนหนึ่งกล่าว
อย่างไรก็ตามในช่วงต้นของวันนี้รัฐบาลก็พยายามทำให้ผู้ชุมนุมสงบด้วยการสัญญาว่าจะเปลี่ยนตัว รมต. มหาดไทย ผู้เป็นเบื้องหน้าในการสั่งปราบปรามผู้ชุมนุม และสัญญาว่าจะปล่อยตัวนักโทษที่ถูกจับในการชุมนุม รวมถึงมีการสืบสวนการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่และการคอร์รัปชั่นในรัฐบาล
แต่การสั่งปลด รมต. มหาดไทยก็ไม่ได้ทำให้ผู้ชุนุมสงบลง พวกเขายังคงออกมาตามท้องถนนในเมืองและในย่านชุมชนของชนชั้นแรงงานในแถวชานเมืองด้วย
นิวยอร์กไทม์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเทศตูนีเซียว่า เป็นประเทศที่มีความคล้ายคลึงยุโรปมากที่สุดในหมู่ประเทศทวีปแอฟริกาเหนือ มีชนชั้นกลางอยู่เป็นจำนวนมาก มีค่านิยมแบบเสรีนิยม กว้างขวางในเรื่องความเท่าเทียมกันทางเพศ และมีสถานที่แบบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ขณะเดียวกันก็เป็นประเทศที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ให้คะแนนสูงจากการที่พวกเขาดำเนินการปราบปรามผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายอย่างรุนแรง
นิวยอร์กไทม์รายงานอีกว่า ตูนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีรัฐบาลที่เน้นการปราบปรามมากที่สุดในภูมิภาคที่เต็มไปด้วยรัฐตำรวจ ประชาชนตกอยู่ภายใต้การจับจ้อง มีการละเมิดสิทธิเสรีภาพพลเมือง และมีการใช้วิธีการทรมาน จนกระทั่งพิษเศรษฐกิจของยุโรปใต้ลามมาถึง จนเกิดปัญหาการว่างงานและความไม่พอใจของประชาชนก็พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก
ที่มา
Protests Spread to Tunisia’s Capital, and a Curfew Is Decreed, 13-01-2011, New York Times