ล่าสุดคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยร่วมในความผิดฐานทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาภิเษก มูลค่า 772 ล้านบาท ได้ยืนยันต่อหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
อดีตนายกฯทักษิณในฐานะจำเลยที่ 1 จะกลับมาต่อสู้คดีในเดือนพฤษภาคม 2551
คลอดโปรแกรมกลับบ้านอย่างเป็นทางการ
ซึ่งก็บังเอิญเงื่อนเวลาใกล้เคียงกันกับที่เซียนการเมืองคาดการณ์ รัฐนาวาภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน น่าจะมีการขยับปรับหมากกันอีกครั้งหลังผ่านไป 4-5 เดือน
ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ การเมืองพลิกผันได้ตลอดเวลา
“ทักษิณ” กลับมาทันคุมเกมพอดี
ยิ่งประเมินจากอาการเพี้ยนของคะแนนที่เลือกนายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร คนของพรรคร่วมรัฐบาลส่อแววลองของกันตั้งแต่แมตช์แรก
หนทางข้างหน้าดูท่าจะขรุขระเอาการอยู่
ที่สำคัญดูยังไงก็ไม่ลงตัวง่ายๆ กับสัดส่วน 9 ต่อ 1 ตามสูตรที่ “หมอเลี้ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ชงเงื่อนไขโควตารัฐมนตรีล่าสุด
ไอ้ที่ตกลงกันไว้เบื้องต้นคร่าวๆ ต้องคุยกันใหม่
เพราะตามเงื่อนไขใหม่ 9 ต่อ 1 จากต้นทุนของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนามีอยู่ 9 เสียงก็ได้ไปเก้าอี้เดียว เท่ากับพรรคมัชฌิมาธิปไตยที่ได้เสียงเทเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพิ่มมาเป็น 9 ที่นั่ง พรรคประชาราชของ “ป๋าเหนาะ” นายเสนาะ เทียนทอง มีต้นทุนอยู่แค่ 5 เสียง หย่อนไป 4 เสียงไม่ครบโควตา ก็น่าจะได้แค่เก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกรดบี
นี่ว่ากันตามโควตาเป๊ะๆ
ไม่พูดถึงเงื่อนไขใครมาก่อนมาหลัง เพราะทางฝ่ายพรรคพลังประชาชนออกมาส่งสัญญาณแล้วว่า เรื่องโควตาต้องคุยกันหลังโหวตเลือกนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี
ส่งซิกเคลียร์หน้าเสื่อ นับหนึ่งกันใหม่
ไล่เลี่ยๆกับคิวที่ “บิ๊กเติ้ง” นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เรียก แกนนำใกล้ชิดถกเกลี่ยโควตารัฐมนตรี หลังเกิดแรงกระเพื่อมหนักจากกระแสแว่วๆ นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ทำท่าจะหลุดโผเก้าอี้ รมว.เกษตรฯ เพราะไม่จ่ายต๋งกองกลางในการเลือกตั้งที่ผ่านมา พร้อมๆกับคนที่ชื่อหายไปอย่างนายจองชัย เที่ยงธรรม ก็โผล่มาทวงโควตา
ขาใหญ่เล่นบทเฮี้ยว
ขณะที่ฟากของ “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ก็อิดออดจะขอบายเก้าอี้รองนายกฯ เปิดทางให้เด็กในคาถาอย่างนายอรรคพล สรสุชาติ กินโควตารัฐมนตรี แต่บังเอิญชื่อนี้ไม่ผ่านเซ็นเซอร์จากทีมงานสายตรงฮ่องกง เพราะผลงานในอดีต ด่า “นายใหญ่” ไว้เยอะ
พรรคชาติไทยป่วนถึงขั้นที่ “บิ๊กเติ้ง” ต้องยื้อเกมออกไปฟันธงหลังตรุษจีน
ส่วนค่ายมัชฌิมาธิปไตยก็กำลังป่วนกับปัญหาลักลั่น อำนาจการนำแท้จริงอยู่กับใคร เพราะโดยสถานะของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ จะว่าเป็นหัวหน้าพรรคในนามก็ไม่เชิง เพราะก่อนหน้านี้ได้ยื่นใบลาออก แล้วพลิกกลับไปกลับมา
ที่สำคัญแม้แต่ผู้แทนฯก็ไม่ได้เป็นกับเขา
ขณะที่โควตารัฐมนตรีล็อกไว้ที่ “เจ๊เป้า” นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เลขาธิการพรรค เมียรักของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน มีอำนาจในการต่อสายเจรจาร่วมรัฐบาล
แต่งานนี้มีหรือที่เศรษฐีหมื่นล้านจะยอมจบง่ายๆ
ล่าสุดแว่วๆตัวเลข 20 ล้านบาท ล่อใจ ส.ส.พรรคมัชฌิมาฯให้กลับมาอยู่ในสังกัด เป็นกองทัพงูเห่าคอยเปิดเกมป่วนรัฐบาล
ดึงราคาเพิ่มน้ำหนักต่อรองให้คนชื่อ “ประชัย”
ส่วนที่ยังมีโอกาสพลิกนาทีต่อนาทีก็อยู่ที่คิวของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา แม้จะลงตัวที่ 2 เก้าอี้ แบ่งโควตากันไประหว่างนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กับนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์
โดยใช้สิทธิของผู้มาก่อน
แต่บังเอิญว่า ปัญหามันดันไปคาบเกี่ยวกับพรรคเพื่อแผ่นดินที่ล็อกเป้ากระทรวงพลังงานไว้เหมือนกัน
และโดยสมการตัวเลข 24 ที่นั่งกับ 9 เก้าอี้ บนเงื่อนไขสัดส่วนโควตา 9 ต่อ 1
คนมาทีหลังน่าจะเสียงดังกว่า.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
ข่าวการเมือง(วิเคราะห์)