WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, January 24, 2008

'นพดล' ยก 'หมอเลี๊ยบ' มืออาชีพ ไม่ใช่ลูกแหง่

ที่ทำการพรรคพลังประชาชน นายนพดล ปัทมะ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน แถลงตอบโต้กรณีที่นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการด้านวิจัยเศรษฐกิจส่วนรวมและการกระจายรายได้ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ออกมาวิจารณ์ว่า

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชนไม่เหมาะดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง พร้อมระบุว่ารมว. คลัง ต้องไม่ใช่ลูกแหง่ ที่มีพี่เลี้ยงตลอดเวลา ว่า ถ้าท้ายที่สุดพรรคพลังประชาชนเลือก นพ.สุรพงษ์ เป็นรมว.คลังจริง นพ.สุรพงษ์ ก็ไม่ใช่ลูกแหง่ แต่เป็นผู้มีความรู้มีประสบการณ์ เพราะเคยทำธุรกิจของตนเอง และเคยเป็น รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจกิจมาแล้ว จึงไม่ใช่รัฐมนตรีมือสมัครเล่น

คนที่เป็นหมอย่อมต้องมีความรู้ความสามารถและทำอะไรได้หมายอย่าง ไม่ใช่คนธรรมดา และการจะติใคร ควรให้เขาทำงานเสียก่อนค่อยมาตัดสิน หากอยากวิจารณ์ก็ให้ไปดูนายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง ที่ทำงานมาหลายเดือนผลงานเป็นอย่างไร

นายนพดล กล่าวอีกว่า ในส่วนของกระทรวงการคลัง เราจะทำงานใกล้ชิดกับภาคเอกชน รับฟังความเห็นของนักวิชาการ ภาคอุตสาหกรรมและหอการค้า จึงไม่มีปัญหาในเรื่องขององค์ความรู้ อีกทั้งเราก็ทราบดีว่าเวลานี้ประเทศประสบกับปัญหาเศรษฐกิจด้านใดบ้าง ทั้งนี้หลังจากที่ม ีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชาชนจะเชิญตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาลมาพุดคุยในเรื่องนโยบาย รัฐบาล คาดว่าจะมีขึ้นในเช้าวันที่ 29 ม.ค.นี้

ในส่วนของพรรคพลังประชาชนเห็นว่ารัฐบาลต้องเร่งผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ยังติดค้างอยู่คณะกรรม การส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อกระตุ้นให้ภาคเอกชนลงทุนตาม พร้อมกับประกาศให้ปี 2551 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยว การสร้างรถไฟฟ้าและการขยายสนามบินสุวรรณภูมิรองรับการท่องเที่ยว และการแก้ไขปัญหาพลังงาน

นายนพดล กล่าวถึงถึงความคืบหน้าในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีในพรรคพลังประชาชน ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าค่อนข้างมาก โดยพรรคจะขอดูแล ใน 9 กระทรวงหลักได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกลาโหม

สำหรับกระทรวงพลังงานยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา รวมถึงกระทวงท่องเที่ยว และกีฬาก็ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพรรคชาติไทยเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งสองกระทรวงนี้พรรคพลังประชาชน อยากขอดูแลเอง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้ เพราะกระทรวงที่เกี่ยวกับรายจ่ายไปอยู่กับพรรคอื่นมากแล้ว

นายนพดล กล่าว สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นโควตาของพรรคชาติไทย ส่วนกระทรวงแรงงานให้เป็นโควตาของคนที่มีชื่อเป็นปลาปักเป้า ส่วนที่มีข่าวส.ส.อีสานต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น ในภาคอีสานได้รับเลือก ส.ส.จำนวนมากเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ดังนั้นพรรคจะพิจารณาด้วยความเป็นธรรม ส่วนตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เราไม่อยากตั้งขึ้นมาลอยๆ เพื่อมีรถประจำตำแหน่ง

จึงคาดว่าจะรองนายกฯดูแลงานหลักๆคือ ด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง กฎหมายและสังคม ซึ่งตำแหน่งรองนายกฯ เป็นตำแหน่งที่เราสร้างได้และควบได้ สำหรับรมช.กลาโหมต้องดูอีกทีว่าควรมีหรือไม่ แต่รมช.มหาดไทยคงมีจำนวนมากหน่อย ขณะที่ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักคาดว่าจะมีประมาณ 2-3 คน

นายนพดล กล่าวถึงกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เสนอว่าการแบ่งโควตา รัฐมนตรี ีต้องใช้สูตร ส.ส.5-6 คนต่อรัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง ว่า ตามหลักการแรกเมื่อนำจำนวนรัฐมนตรีทั้งหมด 35 คนมาหารด้วย จำนวนส.ส.315 คน ต้องใช้สัดส่วน ส.ส.9 คนต่อรัฐมนตรี 1 ตำแหน่งไปก่อน แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ความขัดแย้ง ซึงในภาวะไม่ปกติเราสามารถอะลุ้มอะล่วยกันได้ไม่มีปัญหา

โดยจะนำความสนใจงานของแต่ละพรรคมาพิจารณาด้วย แต่ไม่ใช่การให้สิทธิพิเศษเฉพาะพรรคชาติไทย หากมีการปรับเปลี่ยนจริงพรรคพลังประชาชนจะใช้เกณฑ์นี้กับทุกพรรค

นายนพดล กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 ม.ค.) ตนได้โทรศัพท์ไปพุดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพำนักอยู่ที่เกาะฮ่องกงโดยได้พูดคุยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวที่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาบวชบ้างเล็กน้อย ซึ่งตนปฏิเสธว่าไม่ใช่เรื่องจริง เพราะท่านยังมีภารกิจที่ต้องทำอีกมาก

โดยเฉพาะงานด้านการศึกษาและสาธารณกุศล ทั้งนี้ความจริงพ.ต.ท.ทักษิณ เคยบวชเรียนศึกษาพระธรรม มาแล้ว จึงคิดว่าท่านจะไม่บวชแน่ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าได้มีแกนนำและส.ส.บางส่วนเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ตามรายงานข่าวจริงแต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องขอตำแหน่ง แต่ไปเพราะคิดถึง

เมื่อถามถึงรายงานข่าวที่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกรมว.กลาโหม นายนพดล กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เป็นการคาดเดาไปเอง พ.ต.ท.ทักษิณ วางมือแล้ว ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง กับการจัดสรรคณะรัฐมนตรี ตนขอให้ยุติการปล่อยข่าวเพราะพรรคพลังประชนจะถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินีอีก พ.ต.ท.ทักษิณ

เพียงแต่คาดหวังให้บ้านเมืองสงบและเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนสาเหตุที่เลื่อนการเดินทางกลับจากเดิม ในเดือนเม.ย.เป็นเดือนพ.ค.นั้น ไม่ถือว่าเป็นการเลื่อนเพราะกำหนดการยังคาบเกี่ยวกันและยังเกี่ยวข้อง กับกระบวนการทางศาลตามที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อศาลว่า ต้องใช้เวลาในการตรวจเอกสารประมาณ 3 เดือน อย่างไรก็ตามต้องพิจารณาในประเด็นความปลอดภัยด้วย

เมื่อถามถึงกรณีพล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และในฐานะปฏิบัติหน้าที่ประธาน คมช.ระบุสเปกรมว.กลาโหมคงรเป็นทหารเพราะจะเข้าใจกิจการภายในกองทัพได้ดีกว่า นายนพดล กล่าวว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ ทั้งนี้เชื่อว่าหากรัฐบาลบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์ ไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ก็เชื่อว่าทหารอาชีพส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ ส่วนท่านพล.อ.อ.ชลิต อีกไม่นานก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว