ในที่สุด ก็อดไม่ไหว ห้ามใจไม่อยู่ ต้องเขียนบทเชิดชูคมช. เจ้าพ่อเผด็จการตกยุค อีกสักยก ก่อนจากกันด้วยแค้นฝังใจที่ยากจะลบเลือน
ผมอยากจะรู้นัก ว่ามีใครเอ่ยปากถาม คมช. บ้างไหม ว่าอยากได้ใครเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ผมอยากจะรู้นัก ว่าคนที่คมช. เสนอมาไม่ได้เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คมช.จะทำอย่างไร จะปฏิวัติ จะรัฐประหาร จะยึดอำนาจ จะฉีกรัฐธรรมนูญ หรือจะไปฟ้อง “ป๋า” ที่เคารพ ให้มาช่วยวางแผนล้มรัฐบาลอีก
ผมอยากจะรู้นัก ว่ามีใครไปชักชวนคมช. มาร่วมแสดงความเห็นหรือไม่ ว่ารัฐบาลใหม่ต้องทำอะไร และต้องทำตามคำแนะนำของคมช. มากน้อยแค่ไหน
ผมอยากจะรู้นัก ว่าคมช. เคยดูเงาหัวตัวเองหรือไม่ หากเคยดู แล้วเคยคิดหรือไม่ว่าเงาลูกกลมๆ ที่อยู่เหนือบ่าขึ้นไปนั้น เป็นกระโหลก หรือ กะลา กันแน่
ผมอยากจะรู้นัก ว่าคมช. เข้ามาเกี่ยวข้อง (แบบสุภาพ) หรือ เข้ามาเสือก (แบบไม่สุภาพ) อะไรกับการจัดตั้งรัฐบาลด้วย
พรรคพลังประชาชนจะจัดตั้งรัฐบาลกันอย่างไร ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี ใครจะเป็นรัฐมนตรีว่า การกระทรวงกลาโหม ใครจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใด ใหญ่ หรือ เล็ก ก็เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่ได้รับฉันทานุมัติมาจากประชาชน ให้มาดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล บริหารประเทศ เป็นการได้มาซึ่งอำนาจเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ด้วยความชอบธรรมอย่างยิ่ง
ในสถานการณ์เช่นนี้ คมช. ซึ่งรู้จักแต่การปล้นอำนาจ ใช้อำนาจเป็นธรรม ไม่เคยรู้จักใช้ธรรมเป็นอำนาจ ควรจะหุบปาก แล้วสงบปากสงบคำ ได้แล้ว ไม่ใช่มาเสนอชื่อนายทหารคนนั้น นายพลคนนี้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ใช่มาชี้แนะ มาเจรจาต่อรองผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ กระทั่งมากำหนดสเปกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องมีคุณสมบัติเช่นไร
นายพลทั้งหลาย ชื่อคนทั้งหมดที่ คมช.เสนอมานั้น มีประชาชนคนไหนเลือกให้มาเป็นผู้บริหารประเทศบ้าง
ไม่มีเลยสักชื่อ ไม่มีเลยสักคน
ในขณะที่ พรรคพลังประชาชน คือ พรรคการเมืองที่ประชาชนพิจารณาแล้วว่ามีความเหมาะสมจะมาเป็นผู้บริหารประเทศ ในฐานะรัฐบาล เพราะเหตุว่าประชาชนไม่เห็นด้วยกับ คมช. และต่อต้านคมช.
หากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเห็นด้วยกับคมช. เห็นชอบกับวิธีการแก้ไขปัญหาของประ เทศด้วยการใช้กำลัง ด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร ของคมช. ว่าเป็นวิธีการที่ถูกต้อง พรรคพลังประชาชน ก็คงไม่ได้รับเลือกตั้งมาด้วยคะแนนสูงสุด และ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง คมช.สนับสนุนอยู่ ก็คงจะได้เป็นรัฐบาล ไปแล้ว
พิจารณาผลคะแนนเลือกตั้งที่ปรากฎ ก็จะเห็นนัยยะ หรือ สัญญาณที่ประชาชนส่งให้แก่คมช. ได้โดยไม่ยาก และคมช. ก็น่าจะรู้ตัวดีว่า ควรจะวางตัวเช่นไรในสถานการณ์เช่นนี้
การเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่ผ่านมา มีพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวที่ยืนตรงข้ามกับคมช. คือ พรรคพลังประชาชน และ ถูกคมช.กำหนดให้เป็นปฏิปักษ์ทางการเมือง เป็นศัตรูที่จะมาแย่งอำนาจไปจากกระบวนการสืบทอดอำนาจของคมช. ซึ่งวางเครือข่ายโยงใยไว้ในหลายพรรคการเมือง
เมื่อการเลือกตั้งสิ้นสุดลง พรรคการเมืองพรรคเดียวที่ไม่เอาคมช. และคมช. ไม่เอา คือ พรรคพลังประชาชน ชนะการเลือกตั้ง ได้จำนวนส.ส.มากที่สุด จึงเท่ากับว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ต้องการคมช. และ ปฏิเสธการใช้อำนาจของคมช. อย่างสิ้นเชิง
เพราะฉะนั้น คมช.จึงควรรู้ตัวเอง และควรไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่ อย่าสะเออะมาเสนอแนะ มาชี้นำ มากำหนดอะไรอีกต่อไป
เวลาของเผด็จการหมดแล้ว ยุคสมัยของคมช.ผ่านพ้นไปแล้ว
ต่อจากนี้ไปคือเวลาของประชาธิปไตย เป็นยุคสมัยของพลังประชาชน
หากข้อเสนอแนะของคมช. ดีจริง ปฏิบัติตามแล้วบังเกิดสัมฤทธิผลจริง 1 ปี 4 เดือนที่ผ่านมาประเทศไทยภายใต้การนำของรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ภายใต้การปกครองของระบอบเผด็จการคมช. คงไม่นำพาความพินาศฉิบหายมาสู่ประเทศชาติหนักหนาสาหัส เช่นนี้หรอก
สถานการณ์ในขณะนี้ คมช.ควรจะช่วยกันคิดว่าจะหาทางเยียวยาประเทศชาติ ให้บรรเทาความเสียหายอย่างไร เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำด้วยความบ้าอำนาจของตนเอง ในฐานะที่ยังรับราชการเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพกันอยู่เกือบครบถ้วน ทั้ง บก เรือ อากาศ และ ตำรวจ ขาดไปก็เพียง หัวหน้าใหญ่ใจกบฎ “บังชายกระโปรง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เพียงคนเดียว
สถานการณ์ในขณะนี้ คมช.ควรจะเลิกคิดเรื่องการต่อรองหาบุคคลที่สามารถเจรจาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อความปลอดภัยในชีวิตราชการและตำแหน่งของตนเอง
สถานการณ์ในขณะนี้ คมช. ควรจะเห็นแก่ประเทศชาติ มากกว่าเห็นแก่ตัว
ไม่ใช่มัวแต่ข่มขู่ว่าหากรัฐบาลไม่ทำตามคำแนะนำของคมช. ไม่ทำตามที่คมช. กำหนด อาจจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นอีก หรือ ไม่รับรองว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกในอนาคตหรือไม่
สเปกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แบบ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ ดีอย่างไร เป็นที่ประทับใจพล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก มากมายจนอยากให้เป็นต่อเนื่องอีกสมัย เพราะอะไร
เพราะตามใจกองทัพ อากาศ อนุมัติเงินซื้อเครื่องบินรบจากสวีเดน มูลค่าหลายพันล้านบาท มีคอมมิชชั่นหล่นแถวดอนเมืองจำนวนมากพอที่จะทำให้ชีวิตบั้นปลายของทหารเกษียณ มีกินมีใช้สบายไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ใช่หรือไม่
คมช. ควรจะต้องยอมรับความพ่ายแพ้ และยอมรับความเป็นจริงได้แล้วว่าประชาชน ไม่ต้องการให้คมช.มีอำนาจปกครองประเทศ ไม่ต้องการให้คมช.ยุ่งเกี่ยวกับการบริหารประเทศ อีกต่อไป
หากประชาชนมีความประทับใจ และต้องการให้คมช.มีบทบาทปกครองบ้านเมืองบริหารประเทศต่อไปไม่หยุดยั้ง ก็คงจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรัฐบาลแล้ว เพราะรู้กันล่วงหน้าอยู่แล้วว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ก็คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ คมช. ก็จะช่วยบริหารประเทศกันครบถ้วนหน้าทุกตัวคน
แต่เมื่อประชาชนเจ้าของประเทศ ได้แสดงความต้องการออกมาแล้วว่าอยากเห็นรัฐบาลเป็นอย่างไร อยากเห็นประเทศไปในทิศทางใด และไม่อยากให้คมช. เข้ามาเกี่ยวข้องอีก ก็เป็นเรื่องที่คมช. จะต้องรู้ตัว ต้องสำนึกบ้างว่าจะอยู่อย่างไรในสังคมประชาธิปไตย ที่ไม่มีที่ว่างให้แก่คมช. เว้นแต่ที่สำหรับทำสุสานเผด็จการเท่านั้น
หากยังไม่รู้สึก ไม่มีสำนึก เพราะไม่รู้ตัวว่าตายไปแล้ว ผมก็อยากจะสะกิดเตือน คมช. (ทุกคน) ให้ได้รู้ตัวว่า ณ บัดนี้ คมช.ได้ตายไปแล้ว เพราะถูกประชาชนรวมพลังกันฆ่าตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550
เมื่อท่านตายไปแล้ว ก็ควรจะอยู่ในโลกแห่งความตาย อย่าได้มายุ่งเกี่ยว อย่าได้ตามมาหลอกหลอนกันอีกเลย เว้นเสียแต่ อยากจะ “ตายซ้ำตายซาก”
สำหรับผมแล้ว วันนี้ คมช.ตายไปแล้ว และผมก็ได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้แล้ว
ที่เหลืออยู่ทุกวันนี้ ก็เป็นเหล่าทหารของกองทัพ ที่ผมได้แต่ภาวนาให้เป็นทหารที่ดี เป็นทหารของประเทศ เป็นทหารของประชาชน ไม่ถูกชักนำไปในทางที่ผิด เหมือน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อีก
หากสำนึกได้ ผมเชื่อว่าประชาชนพร้อมจะให้อภัยแก่ทหารทุกคน
แต่หากยังไม่รู้สำนึก ยังหวนระลึกที่จะใช้อำนาจเป็นธรรม และละเลยที่จะเรียนรู้การใช้ธรรมเป็นอำนาจ กันอีก
วันหนึ่งข้างหน้า ท่านจะต้องเสียใจ เพราะประชาชนจะไม่อภัยให้แก่ท่านอีกแล้ว
ประดาบ
จาก hi-thaksin