WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, January 23, 2008

บทความคฑาวุธ: รวมกันตายหมู่...แยกอยู่ตายเดี่ยว

โดย คฑาวุธ
ที่มา
เว็บไซต์เสรีชน
22 มกราคม 2551

ในที่สุด แผนบันได 4 ขั้น แล้วขยายมาเป็น 6 ขั้น ตามคำเปิดเผยของ พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ก็เดินมาถึงจุดหมายปลายทาง และพิสูจน์ให้เห็นในวันนี้ว่า ล้มเหลวในภารกิจลับที่ดำเนินมาปีเศษๆ ลงอย่างสิ้นเชิง

พรรคพลังประชาชนได้เสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด ได้เป็นพรรคที่รวบรวมอีก 5 พรรคมาจัดตั้งรัฐบาลผสม 6 พรรค 315 เสียง ยึดตำแหน่งสำคัญๆ ไว้ได้ทั้งหมดอย่างไม่มีตกหล่น และมีท่าทีตามที่ คุณสมัคร สุนทรเวช ประกาศแล้วว่าจะไม่ใช่รัฐบาลชั่วคราว จะอยู่ยาวจนครบวาระไปเลย

ทำเอาแก๊งค์ 19 กันยาทุกระดับชั้นครวญครางด้วยความเสียวสยอง เมื่อคนที่ถูกรุมทำร้ายเริ่ม “ตั้งหลัก” ได้ และยังอยู่กัน “ครบทีม”

พล.อ.สนธิ บุณรัตกลิน ผู้แย่งผลงานการยึดอำนาจมาจากผลงานการลงมือของ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ขึ้นมาเป็นหัวหน้าผู้ก่อการ รู้ชะตาว่าอยู่ในบัญชี “หมายหัว” ในอันดับต้นๆ ก็กลายเป็นผู้ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน ต้องหลบไปอาศัยสถานะขององค์กรมุสลิมโลก ทั้งในอิหร่านและดูไบ เพื่อเป็นเกราะกำบังตัว

ส่วนจอมบงการใหญ่ ที่ส่งสัญญานขัดขวางไม่ให้ คุณสมัคร สุนทรเวช ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเพียงสัญญานที่เบี่ยงเบนความกลัวในหัวใจที่แท้จริงซะมากกว่า เพราะอำนาจบารมีของจอมบงการหัวขาวนี้ ทั้งสิ้นทั้งปวง ล้วนมาจากการแอบอ้างสถาบัน ถ้าหลุดจากการแอบอิงสถาบันเมื่อใด จอมบงการรายนี้ก็ไร้ราคาในหมู่บริวาร

ตำแหน่ง “ประธานสภา” คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ขันทีจอมบงการ หลุดพ้นจากการเกาะอ้างสถาบันอย่างเด็ดขาด และชอบด้วยรัฐธรรมนูญทุกประการ โดยเฉพาะเป็นรัฐธรรมนูญที่จอมมารบงการให้สมุนมือกฏหมายวางฝังไว้เป็น “ไม้ตาย “ เพื่อรักษาสถานะและอำนาจของตัวเอง

ตามมาตรา 13 ของรัฐธรรมนูญปี 50 ระบุไว้ว่า

"การเลือกและแต่งตั้งองคมนตรีหรือการให้องคมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย ให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานองคมนตรีหรือให้ประธานองคมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งองคมนตรีหรือให้องคมนตรีอื่นพ้นจากตำแหน่ง"

นั่นคือไม้ตายที่ว่า การปลดประธานองคมนตรีออกจากตำแหน่ง อยู่นอกเหนือพระราชอำนาจตามพระราชอัธยาศัยตามความในวรรคแรก ต้อง”ประธานสภา”เท่านั้นที่จะทูลเกล้าเสนอแต่งตั้ง หรือ ปลดประธานองคมนตรี เพื่อให้ทรงมีพระปรมาภิไธยเพื่อโปรดเกล้า “แต่งตั้ง” หรือ ”ถอดถอน” ตามความในวรรคสอง

ในขณะร่างรัฐธรรมนูญปี 50 ประธานรัฐสภาคือ “นายมีชัย ฤชุพันธ์” แต่ในวันนี้ ประธานสภาซึ่งจะเป็นประธานรัฐสภาด้วยชื่อ “ นายยงยุทธ ติยะไพรัช” ที่จอมบงการสั่งไล่ล่าอย่างเอาเป็นเอาตาย

การดื้อดึงแข็งข้อ ดันทุรังไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง แล้วออกนอกประเทศด้วยเหตุผลไปรักษาสุขภาพ ตามที่ผู้ใหญ่เปิดทางให้ แต่กลับหันมากดดัน กกต.หนักขึ้น ให้สั่งยุบพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคชาติไทย ที่ส่งผลให้นายบรรหาร ศิลปะอาชา ไม่กล้าโผล่หน้ามาร่วมแถลงข่าวการเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ยอมให้ลูกสาวรับตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาล เป็นเพียงความหวังสุดท้ายว่า จะมีความเปลี่ยนแปลงข้อตกลงใดๆ กับผู้ใหญ่เท่านั้น

มีข่าวว่า พล.อ.เปรม สุขภาพแย่ ป่วยหนัก โดยเฉพาะอาการป่วยด้วยความตรอมใจ ที่”นักฆ่าลุ่มน้ำเจ้าพระยา” ผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ปราบศัตรูคู่แข่งทางการเมืองที่หาญกล้ามาเทียบบารมีอย่างราบคาบ คนแล้วคนเล่า ทั้ง พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก, พล.อ.สัณห์ จิตรปฏิมา, นายประมาณ อดิเรกสาร มาถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาถูกคู่ชกเก่ารุ่นลายครามอย่างคุณสมัคร สุนทรเวช ถลุงจนบอบช้ำหมดทางสู้ ต้องร้องขอให้ลูกน้องพรรคการเมืองช่วยประคอง ก็กลับมาเจอมวลชนผู้รักประชาธิปไตยเผด็จศึก ด้วยการไม่เลือกพรรคการเมืองพรรคนั้นเสียอีก ตามมาด้วยเสียงก่นด่าจากมวลชนที่รู้ความจริง จะไปไหนมาไหนลำพังในประเทศนี้ ก็ไม่ปลอดภัย ไร้ความเคารพยำเกรงเหมือนเช่นที่ผ่านมาในอดีต

ในที่สุดฟ้าก็ลิขิต หมดสิ้นแล้วสำหรับยุค “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ”


จาก Thai E-News