อดีตรมว.คลังเห็นว่า นายวีรพงษ์ รามางกูร เป็นหน.ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลผู้ที่เหมาะสมที่สุด
หม่อมราชวงศ์ปรีดียาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาวิชาการเรื่อง "รัฐบาลใหม่ต้องทำอะไรต่อไป" โดยกล่าวว่า ปัญหาซับไพร์มของสหรัฐฯ จะไม่กระทบต่อประเทศไทยมาก ตราบใดที่ภาคการผลิตยังสามารถขยายตัวต่อไปได้ ส่วนการส่งออกแม้จะชะลอตัว แต่หากรัฐบาลใหม่พยายามเร่งให้เกิดการลงทุนภายในประเทศ เพื่อเพิ่มการบริโภค เศรษฐกิจก็จะเดินหน้าต่อไปได้ แต่สิ่งที่เป็นห่วงมาก คือ ปัญหาซับไพร์มจะส่งผลกระทบต่อภาคการเงิน เนื่องจากปัจจุบัน สถาบันการเงินไทยมีการนำเงินในลงทุนในกองทุนต่างๆ ทั่วโลก
ดังนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องเลือกผู้ที่จะเข้ามาเป็นหัวหน้าทีมบริหารเศรษฐกิจที่ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ สามารถรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตลาดการเงินได้ดี โดยเห็นว่า นายวีรพงษ์ รามางกูร มีความเหมาะสมมากที่สุดที่จะเข้ามาช่วยเหลือรัฐบาลดูแลภาวะเศรษฐกิจได้ โดยอาจไม่จำเป็นต้องเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่อาจเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจก็ได้
ส่วนมาตรการกันสำรองเงินทุน 30 เปอร์เซ็นต์ หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เห็นว่า รัฐบาลไม่ควรด่วนตัดสินใจยกเลิกมาตรการเร็วเกินไป แต่ควรรอจังหวะที่เหมาะสม เพื่อให้ค่าเงินของประเทศอื่น ๆ แข็งค่าขึ้นมาใกล้เคียงกับเงินบาทก่อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาคส่งออก
สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจในปีนี้ เชื่อว่า ยังมีความหวังที่จะเห็นเศรษฐกิจขยายตัวต่อไปได้ แต่รัฐบาลต้องเร่งผลักดันการลงทุนที่ค้างคาอยู่ 11 โครงการ มูลค่า 2 แสนล้านบาท ให้เดินหน้าต่อไปได้ รวมทั้ง เร่งประมูลโครงการระบบขนส่งมวลชน และโครงการลงทุนเซาท์เทริน์ ซีบอร์ด ซึ่งจะทำให้การลงทุนในประเทศปีนี้ขยายตัวได้เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ จากที่ติดลบในปีที่แล้ว
ข่าว ช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ