• ท่านผู้อ่านที่รักทั้งหลาย เพื่อไม่ให้จำเจกับลีลาแบบเดิมๆ ประดาบ จึงมามาดใหม่ เขียนกันแบบสั้นๆ ให้ได้ใจความ กระชับ ฉับไว ต่อการทำความเข้าใจข้อมูลข่าวสารอีกด้านหนึ่งของประเทศไทย ไม่เยิ่นเย้อ ยืดยาว แบบที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่น่าเห็นใจสำหรับผู้อ่านที่มีเวลาน้อย ประดาบ จึงต้องปรับตัวเข้ากับสภาพอันจำกัดของผู้อ่าน ด้วยลีลาแบบนี้
• ขอแสดงความยินดีกับท่านประธานที่เคารพ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ใครจะบอกว่าคนคนนี้คบยาก แต่พฤติกรรมที่เห็นมาตลอด 6 ปี ไม่ว่าจะยามทุกข์ ยามสุข ประดาบ กลับเห็นแย้ง และเห็นว่า ยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่น่าเคารพ และยกมือไหว้ได้โดยไม่ต้องฝืนใจ คนเรายามทุกข์ไม่ทิ้งกัน ยังร่วมสู้ ร่วมฝ่าฟันอุปสรรคนาๆ ก็ถือได้ว่าน่าคบหาและน่าเคารพแล้วล่ะครับ
• อีกไม่กี่วัน เราก็จะมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทย ชื่อ สมัคร สุนทรเวช ประดาบ เอาหัวเป็นเดิมพัน หากพลิกจากชื่อนี้เป็นชื่ออื่น รับรองได้ว่าประเทศไทย จะอยู่ต่ำใต้กว่าอิรัก และ อัฟกานิสถาน ในสายตาของชาวโลก จึงขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช เอาไว้แต่ตรงนี้เลยแล้วกัน
• พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อยู่ที่ไหน มารายงานตัวกับประชาชนผู้จ่ายภาษีเป็นเงินเดือน และเป็นเจ้านายของท่านด่วนที่สุด ก่อนที่จะหมดวาระ สิ้นอายุขัยตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ไปเสียก่อน อย่ากระทำตนเป็นคนขี้เกียจสันหลังยาว งานไม่มาทำแต่จะรับเงินเดือน กลับมาจากแสวงบุญตะวันออกกลางเมื่อไร ก็มาชี้แจงแถลงไขด้วยแล้วกันว่าเงินค่าตั๋วเครื่องบิน เป็นเงินภาษี หรือ เงินส่วนตัว
• ประดาบ อยากจะบอกว่า การไปแสวงบุญไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นหรอกท่านสนธิ ขอเพียงแต่อย่าได้ทำบาปเป็นนิตย์ อย่าได้โกหกเป็นกิจวัตร อย่าได้ทำชั่วเป็นนิสัย ก็เท่ากับว่าท่านได้ทำบุญอันยิ่งใหญ่ให้แก่ประเทศชาติและบ้านเมืองแล้ว คนทำร้ายบ้านเมืองอย่างท่านจัดเป็นคนบาปหนาสูงสุด ตายไปแล้วเกิดใหม่ ยังชำระล้างบาปไม่หมดสิ้นเลย เพราะฉะนั้นการไปแสวงบุญในต่างแดน ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย เว้นเสีย แต่ว่าจะไปโดยไม่กลับมาอีกเลย นั่นล่ะท่านจะได้บุญอักโข เพราะทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ
• พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร เข้าร่วมประชุมคมช. ครั้งสุดท้าย ที่บ้านพักรับรองกองทัพ อากาศ เพราะเหตุผลเดียวคือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ไม่มาร่วมด้วย แสดงให้เห็นถึงความรักที่มีต่อกันว่าเหลืออยู่ที่ระดับใดได้เป็นอย่างดี โชคดีที่ พล.อ.สนธิ เป็นมุสลิม จึงไม่ต้องตะโกนใส่หน้าแบบเต็มๆ คำว่า “ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ” เหลือเพียงแค่ “เงาไม่เหยียบ” เพียงคำเดียว
• พรรคชาติไทย เข้าร่วมรัฐบาล ให้จับตาดู เสรี วงศ์มณฑา ให้ดีว่า จะแอบดอดเข้ามาหากินกับโครงการไหนในรัฐบาล หรือไม่ โดยเฉพาะในกระทรวงที่พรรคชาติไทยกำกับดูแลใครมีหลักฐานเป็นพยาน จับปอบสูบงบประมาณแผ่นดินตัวนี้ มาลงโทษ ขอได้โปรดส่งมาที่ ประดาบ ด่วน จะได้ช่วยกันตามจิกตามจี้ตามบี้ให้ตายคามือ คิดเสียว่าทำบุญเพื่อประเทศชาติก็แล้วกัน
• ถ้ามันลำบากใจกันนัก ก็เป็นฝ่ายค้านจะดีไหม สามพ่อลูกศิลปอาชา อย่าทำให้เข้าตำรา “เกลียดปลาไหล กินน้ำแกง” จะได้ไหม แถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล ศิลปอาชาผู้พ่อ ก็ไม่ร่วม ถ่ายรูปที่ระลึกวันเปิดสภาฯ ก็หนีหน้าหายหัวทั้งสามคน โหวตเลือกประธานสภา ศิลปอาชาลูกสาว ก็บินหนีไปต่างประเทศ ลาประชุมตั้งแต่นัดที่หนึ่ง บางทีเป็นฝ่ายค้านน่าจะสบายใจด้วยกันทั้งทุกฝ่าย เห็นด้วยไหม?
• อยากได้อำนาจ อยากมีตำแหน่ง แต่ไม่อยากอยู่ร่วมด้วย ทำงานการเมืองมาสามสิบปี สปิริตต้องมี มารยาทต้องมี จริงไหม บรรหาร ศิลปอาชา เคยเป็นถึงนายกรัฐมนตรี มาแล้ว ควรรู้กติกามารยาทการอยู่ร่วมกันของรัฐบาลผสม และไม่ใช่รู้แล้วเก็บไว้คนเดียว ต้องสอนสั่งลูกๆ ด้วยว่าเป็นนักการเมืองต้องอดทน กลืนเลือดในปากได้โดยไม่ให้ใครเห็น
• น่าเห็นใจ “คุณหญิงหน่อย” อยู่ไม่น้อย ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังเกมปล่อยข่าวสกัด สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี อุตส่าห์เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่เงียบๆ กับสามีและลูก ยังถูกจับไปเป็นจำเลยของสังคมจนได้ รูปการณ์แบบนี้เข้าทำนองเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกแขวนคอ ประดาบ ก็ได้แต่ให้กำลังใจ คุณหญิงหน่อย อย่าเพิ่งท้ออย่าเพิ่งถอย
• พรรคพลังประชาชนแพ้หมดรูปในสนามกทม. “คุณหญิงหน่อย” ก็ช้ำใจพออยู่แล้ว ยังถูกชี้หน้ากล่าวหาว่าเป็นตัวปัญหา บั่นทอนความเจริญ ก้าวหน้าของว่าที่นายก รัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช แบบนี้ จะไม่ให้ชีช้ำหัวใจเป็นสองเท่าได้อย่างไร ลำพังแค่เด็กเล็กเด็กน้อยกล่าวให้ร้าย ยังพอทำใจได้ แต่หลังสุดถูก “นายใหญ่” ตวาดผ่านโทรศัพท์ สำทับให้ไปชี้แจงแถลงแก้ข่าว หัวใจของ “คุณหญิงหน่อย” จึงแหลกสลายทันทีเมื่อสิ้นสัญญาเสียงจากต่างแดน
• ถ้า ประดาบ เป็น “คุณหญิงหน่อย” จะไม่มัวนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ฝ่ายเดียว แต่จะท้าพิสูจน์ความจริง ด้วยการฟ้องหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และทุกคนที่ต้องสงสัยว่าให้ร้ายตัวเรา จะได้เอาความจริงออกมาจากปากคอลัมน์นิสต์น้อยใหญ่ทั้งหลายว่า ไปเอาข้อมูลจาก “ผู้หญิง” คนไหน มาเขียนเป็นตุ เป็นตะ ลากตัวออกมาพูดกันให้จะๆ ไปเลย จะได้รู้ว่า “ผู้หญิง” คนนั้น เป็นคนเดียวกับ “คุณหญิงหน่อย” หรือไม่
• แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ ไม่ใช่มีแต่คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์เท่านั้น ที่ปั่นเรื่องนี้ออกมาให้ประชาชนได้อ่านกันว่า มีคนในพรรคพลังประชาชน ไม่เห็นด้วยที่สมัคร สุนทรเวช จะเป็นนายกรัฐมนตรี ยังมีหัวหน้าพรรคการเมือง และแกนนำพรรคการเมืองอย่างน้อยสองพรรค ได้รับข้อมูลแบบเดียวกันจาก “ผู้หญิง” คนเดียวกัน ยังเลยเถิดไปถึงขั้นที่ว่า ทั้ง “นายใหญ่” และ “นายหญิง” ก็ไม่เอาเหมือนกัน
• ที่น่าประหลาดใจอีกเรื่องก็คือ ทำไมหนอ คอลัมนิสต์ทั้งหลาย เวลาเขียนเรื่องมีคนไม่เห็นด้วยกับ สมัคร สุนทรเวช จะเป็นนายกรัฐมนตรี จึงต้องเขียนให้ประชาชนคนทั่วไปเข้าใจว่า แหล่งข่าว หรือ คนให้ข่าว มีลักษณะใกล้เคียงกับ “คุณหญิงหน่อย” เหมือนกันทุกคน ทุกฉบับ ไม่รู้จักปกปิดรักษาแหล่งข่าว ตามจรรยา บรรณนักข่าว บ้างเลย
• เรื่องแบบนี้ จะเป็นจริงไปได้อย่างไร ในเมื่อ “คุณหญิงหน่อย” ถูกจับขังกรงอยู่ในบ้านเลขที่ 111 จะไปเจ้ากี้เจ้าการบัญชาเกมจะเอาคนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี เอาคนนี้เป็นรัฐมนตรีได้อย่างไร ถ้าพรรคพลังประชาชน ทำตามใจคุณหญิงหน่อย ก็เท่ากับเอามีดเชือดคอตัวเองเท่านั้นเอง ยิ่งถูกหาเหตุยุบพรรคอยู่ทุกนาทีแล้ว
• เพราะฉะนั้นหากเรื่องที่พูดกันมาปากต่อปาก เป็นเรื่องจริง พรรคพลังประชาชนก็ต้องทำสวนทางกับ “คุณหญิงหน่อย” ทุกเรื่อง เพื่อจะได้เป็นเหตุให้เชื่อได้ว่า คุณหญิงหน่อย ไม่ได้เข้ามายุ่มย่ามในพรรคพลังประชาชน
• ประดาบ เชื่อว่าเรื่องเข้าใจผิดแค่นี้ ไม่น่าจะเกินกำลัง ไม่เหนือกว่าฝีมือที่ “คุณหญิงหน่อย” จะทำความเข้าใจกับพี่น้อง ผู้คนที่เคยร่วมงานกันมา ให้ได้รู้ว่าในหัวใจของ “คุณหญิงหน่อย” ไม่ได้มีเจตนาชั่วร้ายใดๆ ทั้งสิ้น แม้แต่คมช.ทั้งคณะ “คุณหญิงหน่อย” ยังไปนั่งเจรจามาด้วยแล้ว
• ด้วยลีลาการเจรจาแบบเอาน้ำเย็นเข้าลูบ จนกระทั่งคมช.วูบไปหลายครั้ง แม้จะเจรจาภาพรวมไม่สำเร็จ จนกลายมาเป็นเหตุอายัดทรัพย์ตระกูลชินวัตร แต่ภารกิจบางเรื่องบางประการของคุณหญิงหน่อย ก็ลุล่วงไปด้วยดี เพราะฉะนั้นเรื่องเข้าใจผิดบ้าง ถูกบ้างที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จึงน่าจะทำความเข้าใจกันได้ ไม่ควรมาสาวไว้ให้กากินกันเองแบบนี้เลย
• ที่ ประดาบ เป็นห่วงเหลือเกิน ก็คือ การยื้อแย่งตำแหน่งรัฐมนตรี และ ตำแหน่งทางการเมืองที่มีอยู่จำนวนจำกัด ซึ่งไม่อาจจะรองรับความต้องการอันไม่จำกัดของผู้คนที่มีจำนวนมากมายเต็มพรรคพลังประชาชน หากการจัดสรรปันตำแหน่ง มีการเลือกที่รักมักที่ชัง คนมาทีหลังได้ก่อน คนมาก่อนได้แต่ยืนดู ไม่มีวัฒนธรรมการเข้าคิว ความสับสนอลหม่านก็จะเกิดขึ้นจนยากจะควบคุมได้
• เป็นธรรมดาของนักรบ เมื่อเข้าสู่สมรภูมิ รับใช้พรรค ต่อสู้เพื่อส่วนรวม ก็ย่อมจะต้องมีบาดแผลติดตัวจากคมศาสตราวุธของศัตรข้าศึก เหมือนกับเหล่าขุนทัพแดนอีสานที่ตีแหกด่านฝ่าวงล้อมของคมช. คว้าธงชัยมาได้เกือบ 100 ผืน ได้ส.ส.เกือบ 100 คน หากไม่ได้รับรางวัลอย่างสมน้ำสมเนื้อ วันข้างหน้าใครจะรบให้ ใครจะขายชีวิตให้กับสัญญาลมปาก กันอีก
• ลองมองย้อนกลับไปดู หากไม่มีขุนทัพแดนอีสานนับร้อยคน ที่แหกด่านเข้ามาจนถึงกลางเมืองหลวง ยึดอำนาจกลับคืนมาไว้ในมือได้อีกครั้ง ป่านนี้เหตุการณ์จะพลิกผันไปขนาดไหน ยังไม่กล้าคาดเดา ที่รอดมาก็ดีใจ ที่ตายไปในสนามรบ ก็อย่าได้ทอดทิ้งศพไว้กลางสมรภูมิ ควรจะดูแลเยียวยาให้สมเกียรติบ้าง เป็นกำลังใจแก่คนรุ่นหลังที่จะทำเพื่อพรรคต่อไป
• ที่จะลืมไม่ได้ ก็คือเหล่าขุนศึกสนามหลวง ที่วันนี้มีบาดแผลเต็มตัว มีคดีความติดตามตัวนับร้อยคดี แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชาชน โดยตรง แต่อานิสงส์ที่ นปก.สร้างไว้ ก็ตกแก่พรรคพลังประชาชน เป็นกอบเป็นกำ หากไม่นำมาพิจารณาประกอบ การตัดสินใจปูนบำเหน็จรางวัล ก็อาจจะถูกครหาได้เหมือนกัน
• ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ต่อสายถึงคนใกล้ตัวอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ที่อยู่ในต่างแดน ให้ช่วยเจรจาขอตำแหน่งรัฐมนตรีให้หนึ่งตำแหน่ง กระทรวงอะไรก็ได้ ใหญ่เล็กแค่ไหนได้ทั้งนั้น ขอเพียงแค่มีชื่อเป็นรัฐมนตรีสักครั้งในชีวิต ให้คุ้มกับเงินที่เสียไปมากกว่า 1,000 ล้านบาท แลกกับประสบการณ์ทางการเมือง
• ไม่น่าเชื่อ คนอย่างเจ้าพ่อทีพีไอ มีเงินแสนล้าน ก็จะต้องมีวันนี้ด้วยเหมือนกัน วันที่ต้องคุกเข่าเอาหัวโขกพื้นกล่าวสำนึกเสียใจกับอดีตของตนเองที่กระทำลงไป ต่อหน้าผู้อื่น เพราะความโกรธบังใจความแค้นบังตา กว่าจะรู้ตัวว่าไร้เดียงสาการเมือง ก็สายเสียแล้ว ที่เคยทะนงตัวว่าเป็นมังกรตัวหนึ่ง จึ่งรู้ตัวว่างูเขียวยังน่ากลัวกว่าตนเอง
• เรื่องเล่าตลกๆ ได้ฟังมาตั้งแต่ครั้งเด็กๆ มีคนสองคน คนหนึ่งมีประสบการณ์มากมาย คนหนึ่งมีเงินทองมหาศาล สองคนร่วมกันทำธุรกิจ วันหนึ่งธุรกิจเจ๊งจนต้องปิดกิจการ สองคนสำรวจความเสียหายและรายได้ของตนเองในรอบหนึ่งปีที่ร่วมธุรกิจกันมา ปรากฎว่า คนที่เคยมีเงินทองมหาศาล ได้รับประสบการณ์ไปมากมาย คนที่มีประสบการณ์มากมาย ได้รับเงินทองไปมหาศาล นิทานเรื่องนี้จบลงตรงที่ว่า เมื่อต้องแยกจากกันไป ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ได้ประสบการณ์การเมืองมากมาย ใน ขณะที่สมศักดิ์ เทพสุทิน ได้กำไรมหาศาล
• ลือกันหึ่ง ปิดกันให้แซ่ด เก้าอี้สมาชิกวุฒิสภาประเภทสรรหา 74 ตัว เคาะราคาครั้งที่หนึ่ง 20 ล้านบาทขาดตัว ใครอยากได้ติดต่อนายทหารใหญ่แห่งสำนักเลขาธิการคมช. ด่วน งานนี้ต้องรีบ เพราะมีจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย ไม่มีล็อตสอง เหมือนกับเก้าอี้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ประดาบ
จาก hi-thaksin