WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, August 16, 2009

ถ้าไม่มีผลงาน ต่อให้ทุ่มเงินโฆษณาแค่ไหน .. ก็ไม่มีผลงานอยู่ดี

ที่มา Thai E-News


โดย คุณ ลมเปลี่ยนทิศ
ที่มา เวบไซต์ ไทยรัฐ
15 สิงหาคม 2552

ทุกรัฐบาล เมื่อถูกประชาชนวิจารณ์ว่า ไม่มีผลงาน ก็มักจะออกมาแก้ตัวว่า รัฐบาลมัวแต่ทำงานหนัก มีผลงานดีๆ มากมาย แต่ประชาสัมพันธ์ไม่เป็น คนเลยไม่รู้ ทั้งๆ ที่สื่อทีวีและวิทยุทั้งหมด ก็เป็นสื่อของรัฐบาลร้อยเปอร์เซ็นต์

ล่าสุด รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ก็เหมือนกัน ผลงานรัฐบาล 6 เดือนที่ผ่านมา ได้คะแนนแค่สอบผ่าน หรือใช้ได้ ก็ออกมาแก้ตัวว่า ประชาสัมพันธ์อ่อน

นายชุมพล กาญจนะ ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไป ทาบทาม นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้มาเป็น "โฆษกรัฐบาล" บอกว่า ที่ต้องยกเครื่องกองงานโฆษกรัฐบาล ก็เพราะรัฐบาลมีนโยบายดีๆมากมาย แต่กองงานโฆษกสื่อสารออกไปให้ประชาชนรับทราบน้อยมาก

รัฐบาลนี้อ่อนประชาสัมพันธ์จริงหรือ

คำตอบของผมก็คือ ไม่จริง

เมื่อสองวันนี้เอง บริษัทวิจัยสื่อโฆษณา เอซี นีลสัน เพิ่งรายงาน ตัวเลขการโฆษณาผ่านสื่อในรอบเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า

สำนักนายกรัฐมนตรี มีการใช้เงินโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ สูงสุดเป็นอันดับ 3 ของยอดโฆษณาทั้งหมด เป็นเงินกว่า 160 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสองเท่าจากเดือนมิถุนายน ที่ใช้เงินโฆษณาไป 76 ล้านบาท

แค่สองเดือน สำนักนายกรัฐมนตรี ใช้เงินโฆษณาไปแล้วกว่า 236 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ใช้ไปเท่าไรแล้ว ใครอยากรู้ คงต้องไปขอข้อมูลจาก เอซี นีลสัน

ยอดการใช้เงินโฆษณาของ สำนักนายกรัฐมนตรี อยู่ใน อันดับ 3 รองจาก ยูนิลิเวอร์ และ พีแอนด์จี มากกว่า ไบเออร์ รถยนต์โตโยต้า โคคาโคลา และมากกว่า เอไอเอส ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่เกือบเท่าตัว

เห็นไหมว่าสำนักนายกฯ ใช้เงินโฆษณามากมายขนาดไหน แม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่เอกชนยังสู้ไม่ได้

แล้วจะมาบอกว่า รัฐบาลอ่อนประชาสัมพันธ์ ได้อย่างไร

นี่แค่งบโฆษณาของหน่วยงานเดียวเท่านั้น ยังไม่นับเงินโฆษณาของกระทรวงต่างๆ ที่ทุ่มงบโฆษณากันอีกมากมาย รวมทั้ง กรุงเทพมหานคร มีการโฆษณาตามสื่อทุกวัน โดยมี รัฐมนตรี และผู้ว่าฯ กทม. เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณากันตรงๆ เลย

นอกจากนี้ รัฐมนตรีแต่ละคน ยังมีการใช้งบ จ้างเอเยนซีโฆษณา และจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ แยกเป็นส่วนตัวอีกต่างหาก ขนาด รัฐมนตรีว่าการ กับ รัฐมนตรีช่วย ก็ยังจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์แยกกันเลย ของใครของมัน เพื่อใช้เผยแพร่งานของตัวเอง เพื่อให้เข้าถึงสื่อและมวลชนให้มากที่สุด ตรงนี้ไม่รู้ใช้งบประมาณไปอีกกี่ร้อยล้านบาท

จ้างประชาสัมพันธ์มืออาชีพมาทำงานกันมากมายขนาดนี้ แล้วยังจะมาบอกว่า รัฐบาลอ่อนเรื่องการประชาสัมพันธ์ คงฟังไม่ขึ้น

เมื่อนับรวมเม็ดเงินทั้งหมด ที่รัฐบาลใช้ไปในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาล ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาแล้ว ผมประเมินคร่าวๆ ว่า น่าจะไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 160 กว่าล้านบาท

ด้วยเม็ดเงินโฆษณาประชาสัมพันธ์ขนาดนี้ คะแนนนิยมของรัฐบาล น่าจะพุ่งขึ้นไปสูงลิ่ว แต่ผลที่ออกมา กลับตรงกันข้าม ประชาชนรับรู้ผลงานของรัฐบาลแค่ไม่กี่เรื่อง นักธุรกิจและนักวิชาการ ให้คะแนนรัฐบาลแค่สอบผ่านด้วยความเกรงใจ

สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้รัฐบาลเข้าใจก็คือ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ถูกต้อง จะต้องมีผลงานที่ดีเป็นรูปธรรมจับต้องได้เป็นตัวตั้ง การโฆษณาประชาสัมพันธ์จึงจะได้ผล ไม่ใช่การขายฝันด้วยนโยบาย เหมือนตอนหาเสียง มันคนละเรื่องเดียวกัน

ถ้าไม่มีผลงาน ต่อให้ทุ่มเงิน โฆษณามากกว่านี้หลายเท่า ก็ไม่มีผลงานอยู่ดี

ถ้ารัฐบาลมีผลงานเมื่อไร ไม่ต้องเสียเงินไปโฆษณาประชาสัมพันธ์แม้แต่บาทเดียว แค่บอกเล่าผ่านสื่อที่มีอยู่เท่านั้น ประชาชนย่อมรู้สึก และรับรู้ได้เองว่า นี่คือผลงานของรัฐบาลอย่างแท้จริง.