WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, December 21, 2010

iLaw: นักสิทธิฯ ค้านแก้กฎหมายให้เจ้าหน้าที่ทำละเมิดไม่ต้องขึ้นศาลปกครอง

ที่มา ประชาไท

ที่มา: http://ilaw.or.th/node/648

เมื่อ วันที่ 20 ธันวาคม 2553 เวลาประมาณ 9.30 น. ตัวแทนเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนและองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางเข้าพบตัวแทนคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เทเวศน์ เพื่อยื่นหนังสือแสดงความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของ เจ้าหน้าที่ พ.ศ. ... ที่คณะกรรมการกฤษฎีกากำลังอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็น

ปัจจุบันมี พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 บังคับใช้อยู่ ซึ่งกำหนดว่าในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทำให้ประชาชนเสียหาย ประชาชนสามารถฟ้องร้องหน่วยงานของรัฐให้จ่ายค่าชดเชยได้ที่ศาลปกครอง แต่พบปัญหาการบังคับคดีในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทำให้รัฐได้รับความเสีย หายเพราะศาลปกครองยังไม่มีระบบบังคับคดีที่ชัดเจน และปัญหาในทางเทคนิคอื่นๆ อีกหลายประการ คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงดำเนินการร่างกฎหมายความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ขึ้นมาใหม่ โดยประเด็นที่หลายฝ่ายจับตามองคือร่างฉบับใหม่กำหนดให้การพิจารณาคดีเป็น อำนาจของศาลยุติธรรมหรือศาลแพ่งแทนที่อำนาจศาลปกครอง ดูรายละเอียด คลิกที่นี่

เครือ ข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนและองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนจึงได้ทำความ เห็นคัดค้านยื่นต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนอำนาจพิจารณาคดีให้เป็นของศาลยุติธรรม เพราะกรณีความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่เป็นเรื่องทางปกครอง ไม่ใช่เรื่องทางแพ่ง การกำหนดเช่นนี้อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก่อให้เกิดความสับสน ทั้งยังทำให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้ยากลำบากขึ้น

นางสาวพูน สุข พูนสุขเจริญ ผู้ประสานงานฝ่ายวิชาการเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า การโอนอำนาจในการพิจารณาคดีจากศาลปกครองไปยังศาลยุติธรรมเป็นระบบกล่าวหาจะ ทำให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิได้ยากลำบากมาก เนื่องจากคู่ความมีสถานะไม่เท่าเทียมกัน ทำให้ความสามารถในการหยิบยกประเด็นขึ้นมาต่อสู้และโอกาสในการเข้าถึงพยาน หลักฐานน้อยลง ขณะที่กระบวนการพิจารณาของศาลปกครองเป็นระบบไต่สวนเปิดโอกาสให้ศาลสามารถ แสวงหาข้อเท็จจริงได้กว้างขวางกว่า หากถูกโอนไปยังศาลยุติธรรมจริงจะทำให้หลายคดีไม่สามารถเรียกร้องความเป็น ธรรมได้

นางสาวพูนสุข ยังกล่าวอีกว่า หน่วยงานรัฐมีปัญหาในการเรียกชำระเงินคืนจากเจ้าหน้าที่ซึ่งกระทำความผิด แต่การแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยโอนคดีมายังศาลยุติธรมเป็นการแก้ไขปัญหาไม่ถูก จุดและจะทำให้เกิดปัญหาในกระบวนการยุติธรรมมากยิ่งขึ้น

นายโกมล จิรชัยสุทธิกุล ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายปกครอง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นตัวแทนคณะกรรมการกฤษฎีกาออกมารับหนังสือ พร้อมแสดงความเห็นว่า ประเด็นนี้มีเสียงคัดค้านมาจากหลายฝ่าย ขณะนี้อยู่ในระหว่างรับฟังความคิดเห็น ซึ่งคณะกรรมการร่างกฎหมายจะรวบรวมและนำไปพิจารณาอีกครั้งในเดือนมกราคมปี หน้า (2554)