ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
สมิงสามผลัด
"ขนาด แค่ลูกเดินหายไปพ้นจากสายตาไม่กี่ก้าว นายอภิสิทธิ์ยังตกใจ แต่ดิฉันต้องสูญเสียลูกสาวไปไม่มีวันได้คืน มันต่างกันหรือไม่ จึงอยากฝากไปถึงนายอภิสิทธิ์ ให้คิดถึงหัวอกคนเป็นแม่ที่ต้องสูญเสียลูกไป คิดถึงญาติพี่น้องของ 91 ศพที่ตายไป เขาจะรู้สึกอย่างไร คิดบ้างไหม"
อ่าน คำให้สัมภาษณ์ของนางพะเยาว์ อัคฮาด แม่ของน้องเกด เหยื่อ 6 ศพวัดปทุมฯ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา แล้วเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่มากขึ้น
เปรียบเปรยได้เห็นภาพชัดเจนจริงๆ !!
เข้าใจเลยว่าทำไมแม่ของน้องเกดยังไม่หยุดเคลื่อนไหวทวงความยุติธรรม
ทำไมยังไม่เลิกเรียกร้องให้เอาผิดกับคนออกคำสั่งจนตายไป 91 ศพ
เพราะแม่น้องเกดเห็นว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นต้องมีคนรับผิดชอบ
และยังเห็นว่านายอภิสิทธิ์ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบตรงนี้!
ความจริงแม่น้องเกดและคนเสื้อแดงแทบหมดหวังกับการทวงความยุติธรรม 91 ศพไปแล้ว
การเรียกร้องเรื่องคดีความที่ผ่านมาไม่มีผลต่อต่อมความรับผิดชอบของนายอภิสิทธิ์เลย
การจัดรำลึกครบรอบการสลายม็อบ 1 เดือน 2 เดือน แม้กระทั่ง 8 เดือนก็ไม่ได้เปลี่ยนใจนายอภิสิทธิ์ให้มาสนใจถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น
กระทั่งคนเสื้อแดงปรับแผน หันไปพึ่งเวทีโลก
การเคลื่อนไหวที่ผ่านมานับว่าได้ผลดีทีเดียว
องค์กรนานาชาติหันมาให้ความสนใจคดีความของคนเสื้อแดง
องค์กรสิทธิมนุษยชนโลกก็ประณามการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนในเมืองไทยเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา
คนเสื้อแดงเดินมาถูกจุดแล้ว
ยุทธการ "โลกล้อมอภิสิทธิ์" ได้ผลทันตาเห็นจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมหลักฐานเตรียมยื่นฟ้องศาลอาญาโลกคดีรัฐบาลใช้กำลังสลายม็อบ
การที่แกนนำนปช.เข้ายื่นหนังสือต่อตัวแทนเลขาฯยูเอ็นเมื่อครั้งมาเยือนเมืองไทย
การที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ออกมาบอกว่าเตรียมจะไปให้ข้อมูลการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อคณะกรรมการสภาของสหรัฐ
การที่นำคดี 91 ศพไปเดินสายร้องตามสถานทูตหลายแห่งในไทย
หรือการที่นำสำนวนคดีสังหารช่างภาพชาวญี่ปุ่นไปมอบให้สถานทูตญี่ปุ่น
ทั้งหมดนี้ทำให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์สั่นไหวพอสมควร
และจะยิ่งสั่นคลอนมากขึ้น
หากศาลโลกรับไต่สวนคดี 91 ศพสลายม็อบแดงขึ้นมาจริงๆ