WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, January 16, 2011

จากม๊อบพระราชทาน...สู่ขอทานข้างทำเนียบ พันธมิตรกำลังกลายเป็นสินค้าหมดอายุ

ที่มา thaifreenews

โดย poonnook

เมื่อพูดถึงพันธมิตร..คนทั่วไปก็มักจะนึกถึงภาพของกลุ่มมวลชนจำนวนมากมายหลายหมื่นคนที่รวมตัวกันเพื่อขับไล่รัฐบาลท่านนายกทักษิณ ขินวัตร, นายกสมัคร สุนทรเวช, และท่านนายกสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของพันธมิตรก็คือ นำมวลชนจำนวนมากเข้าไปบุกยึดสถานีโทรทัศน์ NBT, ทำเนียบรัฐบาล, และสนามบินสุวรรณภูมิ มาแล้ว.. ในช่วงเวลาที่พันธมิตรกำลัง Peek สุดๆ นั้น ถึงขั้นใช้อาวุธไล่ทำร้าย และเอาปืนไล่ยิงประชาชนกลางถนน กลางวันแสกๆ กันเลยทีเดียว.. ซึ่งจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถนำเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษได้สักคดีเดียว..

เมื่อถามว่า “พันธมิตร” คือใคร และประกอบด้วยมวลชนกลุ่มใดบ้าง..คำตอบที่ควรจะตอบได้ก็คือ
1. มวลชนที่เป็นแนวร่วมของพรรคประชาธิปัตย์ส่วนมากมาจากภาคใต้..ส่วนภาคอื่นมีประปราย
2. มวลชนกลุ่มสันติอโศก
3. มวลชนผู้เป็นประชาชนพลังอันบริสุทธิ์ที่รักความยุติธรรม.. แต่หลงเชื่อคำหลอกลวงของ สนธิ ลิ้มทองกุล
4. ทหารที่ถูกเกณฑ์มาเข้าร่วมในม๊อบเพื่อเป็นกองกำลังติดอาวุธ


เหล่านี้คือมวลชนที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “พันธมิตร” ประกอบกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล และสันติอโศก มีเครือข่ายสื่อทีวีและหนังสือพิมพ์เป็นของตนเอง ดังนั้นพันธมิตร จึงไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มมวลชนธรรมดา แต่เป็นมวลชนจัดตั้งพื้นฐาน ที่ได้รับการจัดตั้งทางความคิดจากสื่อในเครือของ ASTV และสันติอโศก

และเมื่อ กลุ่ม “มือที่มองไม่เห็น, อำนาจนอกรัฐธรรมนูญ, พรรคประชาธิปัตย์” ต้องการล้มรัฐบาลที่เป็นของประชาชนคือ รัฐบาลพรรคไทยรักไทย กลุ่มอำนาจเหล่านี้ก็ยืมมือนายสนธิ ลิ้มทองกุล และมวลชนสันติอโศก ซึ่งเป็นมวลชนจัดตั้ง มาปลุกกระแสมวลชนบริสุทธิ์ให้ได้รับความจริงผสมความเท็จ.. สร้างความวุ่นวายภายในประเทศตั้งแต่ปี 2547 โดยขณะนั้นอาจหาญถึงขั้นที่เรียกตนเองว่า “ม๊อบพระราชทาน” มีผ้าพันคอสีฟ้า และเสื้อสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์

ปฏิเสธไม่ได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์กับพันธมิตร และสันติอโศก ถือได้ว่าเป็นมวลชนกลุ่มเดียวกันที่รวมตัวเรียกว่า “พันธมิตร” โดยในระยะแรกมีเป้าหมายเดียวกันก็คือ “ล้มรัฐบาลพรรคไทยรักไทย และเครือข่ายของท่านนายกทักษิณ ทั้งหมด” โดยกลุ่มหนึ่งทำงานอยู่ในสภา (คือประชาธิปัตย์) และอีกกลุ่มทำงานอยู่นอกสภา (คือพันธมิตร) และแน่นอนว่าเป็นเป้าหมายหรือความต้องการสูงสุดของ “มือที่มองไม่เห็นที่สยายอำนาจครอบประเทศไทยนี้อยู่ด้วยเช่นกัน” ดังนั้นการกล่าวอ้างของกลุ่มพันธมิตรว่าเป็น “ม๊อบพระราชทาน” หรือการแสดงอำนาจบาตรใหญ่ด้วยการบุกยึดสถานที่ต่างๆ โดยไม่มีความผิดนั้น จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปตามแผนการยึดอำนาจไปจากประชาชนตามพิมพ์เขียวที่ได้ทำเอาไว้..

ปูนนก

Re:

โดย poonnook

เมื่อทุกอย่างสำเร็จลงปัจจุบันอำนาจรัฐมาอยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีอำนาจหนึ่งเข้ามาแทรกตรงกลางระหว่าง พันธมิตรกับประชาธิปัตย์คือ อำนาจของนักการเมืองกลุ่มของภูมิใจไทย ซึ่งมีนายเนวิน ชิดชอบ เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง.. พันธมิตร และสันติอโศกซึ่งไม่มีกลุ่มการเมืองในสภาอยู่เลยก็กลายเป็น “สินค้าหมดอายุ” ไปในทันที..

การต่อรองผลประโยชน์จากสิ่งที่พันธมิตรได้ทำงานนอกสภามาตลอดหลายปี.. กลายเป็นภาระ และสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้ามาแย่ง “กระดูกชิ้นใหญ่” ของรัฐบาลประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย ไปในทันที.. คำกล่าวที่ว่า “ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร” ยังคงเป็นความจริงและใช้ได้เสมอ.. ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลประชาธิปัตย์จะเห็นได้ว่าบทบาทของ “พันธมิตร” เริ่มลดความสำคัญลงตามลำดับ.. ประกอบกับมวลชนบริสุทธิ์ที่เป็นประชาชนผู้รักความเป็นธรรมแท้ๆ เริ่ม “ตาสว่าง” มากขึ้นหลังจากเหตุการณ์วันที่ 19 พ.ค. 2553 เป็นต้นมา..

ปรากฏการณ์ 7 คนไทยที่ถูกจับในดินแดนกัมพูชา แสดงให้เห็นชัดถึงความต้องการที่จะขจัดกลุ่มพันธมิตรออกไปจากเส้นทางผลประโยชน์ทางการเมืองของพรรค ประชาธิปัตย์.. ดังนั้นจึงไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจแม้แต่น้อยที่วันนี้ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ที่เป็นพันธมิตรตัวเอ้.. (ที่เคยนำพลพรรคปิดเส้นทางถนนมิตรภาพที่โคราชมาแล้ว) นั้น จะไม่สามารถระดมประชาชนให้ออกมาร่วมได้ดังแต่ก่อนเสียแล้ว.. นอกจากกลุ่มมวลชนจัดตั้งที่มีอยู่ในมือคือ “สันติอโศก” เท่านั้นเพราะถูกพรรคประชาธิปัตย์ “ลอยแพ” แล้วนั่นเอง และการ “ลอยแพ” ที่พูดถึงนี้ อันตรายถึงชีวิตทีเดียว

ดูเหมือนว่า “ม๊อบพันธมิตรอันยิ่งใหญ่ในอดีต” กำลังจะกลายเป็นตำนาน และรอยด่างในประวัติศาสตร์ไทย ที่จะจางหายไปตามกาลเวลา... เสือไม่ยอมทิ้งลายของมันฉันใด..พันธมิตรโดยการนำของสนธิ ลิ้มทองกุล ก็คงจะไม่ยอมถูกทิ้งให้กลายเป็น “สิ้นค้าหมดอายุ..ที่ต้องถูกลอยแพ” ฉันนั้น ขึ้นอยู่กับว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล จะใช้เวลาใดที่จะทิ้ง “ไพ่เด็ด” ใบสุดท้ายที่ตนถืออยู่ในเมือออกมานั่นเอง.. และเมื่อถึงเวลานั้น “อำนาจนอกรัฐธรรมนูญคงจะต้องสั่นสะเทือนจนถึงราก” แน่นอน

ปูนนก