ที่มา ประชาไท
นักกิจกรรมเสื้อแดงแต่งผีไปยื่นจดหมายถึงยิ่งลักษณ์ เร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ คืนความเป็นธรรมให้ผู้ต้องขัง
เวลา 11.30 น. วันที่ 11 ก.ค. 54 เครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตย (คกป.) ได้เดินทางมา ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ นายกรัฐมนตรี โดยเนื้อหาจดหมายได้แสดงความยินดีต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง และสามารถเป็นแกนในการจัดตั้งรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตยได้ ในจดหมายได้ระบุว่าชัยชนะของพรรคเพื่อไทยมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ ในการต่อต้านรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 ซึ่งการรัฐประหารดังกล่าวได้ส่งผลเสียต่อระบบนิติรัฐ และกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นรัฐบาลใหม่จะต้องวางแผนแก้ไขอย่างรอบคอบรอบด้าน รวมทั้งฟื้นฟูกระบวนการยุติธรรมของประเทศให้กลับมามีฐานะความเป็นกลาง ให้ได้รับความเชื่อถือด้วยการปลอดจากการเมือง
ส่วนกรณีผู้บาดเจ็บจากการชุมนุมทางการเมือง รัฐบาลต้องเร่งหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ พร้อมฟื้นฟูจิตใจครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่นักโทษทางการเมือง และคดีที่เกี่ยวข้องกับการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง รัฐบาลต้องผลักดันให้เกิดความยุติธรรมตามหลักนิติรัฐ และรัฐต้องสนับสนุนให้มีการประกันตัวตามหลักสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน เพื่อเปิดโอกาสให้ต่อสู้คดีความตามกระบวนการยุติธรรม
ในการยื่นหนังสือครั้งนี้ทั้ง นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนในการรับหนังสือ
จดหมายเปิดผนึก
ถึงว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บัดนี้ เป็นที่แน่นอนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับความเห็นชอบจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศผ่านการเลือกตั้ง ให้มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล ตามกระบวนการของประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย ที่ผู้ใช้อำนาจรัฐจะต้องมีที่มาจากอำนาจของประชาชน เรา ในฐานะประชาชนผู้สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตย ขอแสดงความยินดีกับพรรคเพื่อไทยและคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการประชาธิปไตย ไม่ข้ามขั้นตอน ไม่แสวงหาอำนาจรัฐโดยคิดพึ่งพาอำนาจพิเศษนอกระบบใดๆ ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างยิ่ง นั่นคือ การต่อต้านรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ประชาชนไทยได้ตัดสินแล้วว่าจะไม่ยอมรับการแทรกแซงของกำลังอำนาจนอกระบบการเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่อาศัยพลังอำนาจพิเศษได้ถูกประชาชนปฏิเสธและต้องตกจากเวทีอำนาจไปในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ความเสียหายที่เกิดจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ยังหาได้รับการเยียวยาไม่ ประเทศไทยสูญเสียระบบนิติรัฐ กระบวนการยุติธรรมถูกนำมารับใช้การเมือง ประชาชนจำนวนมากบาดเจ็บ สูญเสียชีวิต หลายร้อยคนถูกจับกุมคุมขังโดยไร้ซึ่งสิทธิพื้นฐานของพลเมือง การปะทะทั้งทางความคิดและทางกายภาพของผู้เห็นต่างทางการเมือง เป็นปัญหาหลักที่รัฐบาลใหม่จะต้องวางแผนแก้ไขอย่างรอบด้านและยั่งยืน
ในระยะยาว รัฐบาลจะต้องฟื้นฟูกระบวนการยุติธรรมของประเทศให้กลับมามีฐานะเป็นกลางได้รับความเชื่อถือดังเดิม ด้วยการดึงกระบวนการยุติธรรมให้ปลอดจากการเมือง
เฉพาะหน้า กรณีของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปราบปรามทางการเมือง รัฐบาลจะต้องเร่งการสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ เยียวยาฟื้นฟูชีวิตจิตใจครอบครัวของผู้ได้รับผลกระทบ ให้สามารถมีชีวิตต่อไปได้ตามปกติ
กรณีของนักโทษการเมือง ซึ่งหมายถึงทั้งผู้ต้องหาคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง และคดีที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นทางการเมือง รัฐบาลจะต้องผลักดันให้เกิดความยุติธรรมต่อผู้ต้องหาทั้งหมดตามหลักนิติรัฐ ในเบื้องต้นรัฐบาลควรสนับสนุนให้มีการประกันตัวตามหลักสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน เปิดโอกาสให้มีการต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรมต่อไป
ปัญหาหลักของประเทศคือวิกฤติความยุติธรรม ต้องใช้อำนาจรัฐที่ได้มาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเร่งด่วน
ประชาชนจงเจริญ