ต่อให้คนระดับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี นักการเมืองรุ่นเก๋าลายคราม ใหญ่คับฟ้ามาจากไหน ถ้าเข้ามานั่งในที่ประชุมสภา จะต้องกล่าวคำๆนี้
แสดงความเคารพประธานสภาผู้แทนราษฎร
นี่คือสิ่งการันตีสถานภาพของคนเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ศักดิ์สิทธิ์ไม่ธรรมดา
และนี่น่าจะเป็นแรงจูงใจอันดับต้นๆ กับการปรากฏชื่อของนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร
นอกเหนือไปจากงานรูทีน รับมือฝ่ายค้านเขี้ยวลากดินอย่างพรรคประชาธิปัตย์
อีกตัวอย่างที่เห็นกันหมาดๆ ฉายา “ตี๋กร่าง” ของนายสุชาติ ตันเจริญ ก็ลบเลือนไปจากความทรงจำของสาธารณะ เพราะอานิสงส์จากการนั่งพักฟื้น แค่ในตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย
อาศัยความสุขุมลุ่มลึก ทำหน้าที่ได้เข้าตา
“ตี๋กร่าง” ฟอกตัวเนียนไปเลย
โดยสภาพที่ไม่แตกต่างจากนายสุชาติเมื่อครั้งโดนมรสุมถล่มแก๊งกลุ่ม 16 สถานการณ์ เดียวกันกับภาพยามนี้ของนายยงยุทธ ก็สะบักสะบอมจากวิบากกรรมอันแสนสาหัส
บอบช้ำในฐานะไอ้ห้อยไอ้โหนคู่กาย “นายใหญ่”
อยากหาที่นั่งพัก หลบลมร้อนสบายๆ
โดยเหตุผลที่ยกมาเอ่ยอ้างกันตรงๆก็คือ รู้ตัวว่าเป็นสายล่อฟ้า ถ้าไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงหนึ่งกระทรวงใดก็เสี่ยงเป็นจุดล่อเป้า
โดนรุมทึ้งไม่เป็นอันทำงาน
พูดอีกก็ถูกอีก โดยสถานภาพของขุนศึกสายตรงลอนดอน หากนายยงยุทธนั่งทำงานฝ่ายบริหารเป็นรัฐมนตรีกระทรวงหนึ่งกระทรวงใด
หนีไม่พ้นความหวาดระแวง
กับผลงานในอดีตแค่นั่งในกระทรวงเกรดบี คุมงานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ยังมีการระดมพลกองทัพอาสาสมัครของกรมป่าไม้ออกมาตั้งท่าบู๊กับม็อบไล่ “ทักษิณ” ซะได้ นับประสาอะไรถ้าไปนั่งอยู่ในกระทรวงที่มีเครื่องไม้เครื่องมือ
ต้องเฝ้ากันไม่ละสายตา
แต่ในทางตรงกันข้าม นายยงยุทธหักมุมมานั่งในตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ลดโทนฮาร์ดคอร์มาเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุมลุ่มลึก
เปลี่ยนอารมณ์มาเล่นบทนุ่มนวล
อาการตั้งแง่หวาดระแวงก็คงลดดีกรีลงไป
เหนืออื่นใด กับการตอบโจทย์ 5 ข้อของฝ่ายต่อต้านอำนาจเก่า ที่พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินยื่นเงื่อนไขเข้าร่วมรัฐบาล
โจทย์ข้อแรก ชื่อ “สมัคร สุนทรเวช” การันตีความจงรักภักดี
“ยงยุทธ ติยะไพรัช” ก็จะมาทำข้อสอบตอบโจทย์ข้อที่สองในเรื่องของ “สมานฉันท์”
แว่วๆว่าจะมีเซอร์ไพรส์
ท่าทีของ “ไอ้โหน” ขาบู๊คู่กายนายใหญ่จะหายไปพร้อมๆกับบทฮาร์ดคอร์ เหลือแค่ “ยงยุทธ” ในมาดประธานสภาฯ ที่มีลีลานุ่มนวล
พูดจาด้วยภาษาดอกไม้
แต่ทั้งหมดทั้งปวง ก็ไม่ลืมภารกิจหลัก การปลดล็อกโทษดองเค็มให้กับสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ตามธงที่นายสมัคร ได้ประกาศตั้งแต่อยู่ในมุ้ง
ส่งสัญญาณชัดมาตั้งแต่วันที่โดดร่วมวงกับลูกข่ายไทยรักไทย
โดยความค้างคาใจของคนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่รู้สึกว่าตัวเองมีส่วนผิด และต้องแสดงความรับผิดชอบ ในฐานะที่เป็นต้นเหตุให้เพื่อนที่กอดคอร่วมพรรคไทยรักไทยด้วยกันมาต้องพลอยรับเคราะห์กรรม ติดบ่วงโทษแบนทางการเมือง
ไม่เป็นธรรมกับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง
อย่างช้าในสมัยประชุมสภาฯที่สอง ต้องมีเรื่องของการนิรโทษกรรม
แน่นอนเกมล้มเดิมพันสำคัญ จำเป็นต้องใช้คนที่ทุ่มให้ “นายใหญ่” ทั้งตัวอย่าง “ยงยุทธ”
รับมุกส่งไม้กันได้เร็ว.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คอลัมน์ ข่าวการเมือง(วิเคราะห์)