* ส่อพิรุธบิ๊ก ปชป.ขนคนหนุนพันธมิตร
แฉ! ม็อบป่วนเมืองที่แท้พวกหาเงินเข้ากระเป๋า ไถเงิน “ประชัย เลี่ยวไพรัตน์” 30 ล้านบาท ชุมนุมยืดเยื้อ 3 วัน แต่ถูกปฏิเสธหน้าหงาย แถมยังถูกถอนโฆษณา ยกเลิกเช่าเวลา ASTV หมดเกลี้ยง เผยวิธีหาเงินแสนง่าย อ้างเป็นค่าโฆษณาทางสื่อโทรทัศน์ในเครือ ด้าน NBT แฉซ้ำหัวคะแนนขนคน 500 จาก จ.เพชรบุรี ร่วมหนุนม็อบ ส่อบิ๊ก ปชป. มีเอี่ยว ระบุวางแผนป่วน เคลื่อนคนไปหน้าสภาวันนี้ หวังให้เกิดการประจันหน้า ไม่สำนึกยังใส่เสื้อเหลืองอ้าง “กู้ชาติ” ไม่เลิก
ท่ามกลางความคิดเห็นที่แตกต่างในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ล่าสุดรัฐบาลได้ตกลงใจให้มีการจัดทำประชามติ เพื่อเพิ่มความสบายใจและการรับฟังเสียงจากประชาชนในการแก้ไข รธน. อีกทั้งยังสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของกลุ่มที่ออกมาคัดค้านการทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพรรคประชาธิปัตย์ด้วยนั้น
แต่กลับปรากฏว่ากลุ่มคนเหล่านี้ก็ยังคงดึงดันคัดค้าน โดยอ้างเหตุผลใหม่ขึ้นมาอีก ซึ่งสอดรับกับกระแสข่าวที่อ้างว่าการชุมนุมของคนเหล่านี้เป็นเพียงเหตุผลบังหน้า แต่แท้ที่จริงแล้ว การเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเพราะฝีมือของสื่อชั่ว และธุรกิจเลวบางค่ายที่เสียผลประโยชน์
ไถเงิน 30 ล้านหนุนม็อบชุมนุม
ในช่วงสายของวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กลุ่มพันธมิตรฯ ได้มีการนัดหมายชุมนุมกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แม้ว่าผู้คนจะบางตากว่าราคาคุย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็พยายามที่จะปิดถนนบางส่วน เพื่อปักหลักการชุมนุมยืดเยื้อที่มีการกำหนดเอาไว้อย่างน้อย 3 วัน 3 คืน พร้อมทั้งตั้งรถเวที 2 คันขวางถนนด้านขาเข้าจนต้องปิดการจราจรโดยปริยาย
มีการกำหนดกิจกรรมที่จะปักหลัก ในบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจนถึงเช้า แล้วจะเคลื่อนขบวนไปยังรัฐสภาเพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนั้นจะเคลื่อนมายังทำเนียบรัฐบาล กดดันการทำงานของรัฐบาล และปักหลักปิดถนนที่แยกมิสกวัน ดังที่เคยทำมาแล้วเมื่อการชุมนุมยื้ดเยื้อก่อนการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
นอกจากนี้ยังมีข่าวอ้างว่าก่อนมีการชุมนุม ได้มีการประสานงานไปยัง นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ แห่งค่ายทีพีไอ เพื่อขอการสนับสนุนเป็นเงิน 30 ล้านบาท สำหรับการชุมนุม 3 วัน แต่ได้รับการปฏิเสธ
สนับสนุนม็อบผ่านโฆษณา ASTV
ขณะเดียวกันแหล่งข่าวจากทีพีไอ ยังระบุด้วยว่า ที่ผ่านมาทีพีไอ เคยช่วยเหลือพันธมิตรฯ ผ่านการให้โฆษณาทาง ASTV แต่ในตอนนี้ได้ถอนโฆษณาทั้งหมดแล้ว รวมทั้งยกเลิกการเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมทาง ASTV ด้วย
ทั้งนี้ รายงานข่าวยังระบุว่าเป็นที่รู้กันดีว่าในการเคลื่อนขบวนของพันธมิตรฯ ทุกครั้ง จะมีผู้สนับสนุนการชุมนุม ผ่านทางการโฆษณาทาง ASTV ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือผู้จัดการ และมีการคิดค่าใช้จ่ายในราคาเต็ม ทั้งที่ในความเป็นจริงแม้ไม่มีการถ่ายทอดการชุมนุม ทาง ASTV ก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังกล่าวอยู่แล้ว
ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นทำให้สื่อค่ายผู้จัดการได้รับผลประโยชน์จำนวนมาก เช่นเดียวกับการจัดจำหน่ายเสื้อ หนังสือ และซีดี ในการชุมนุมครั้งที่ผ่านๆ มา ที่ทำเงินได้จำนวนมหาศาล
ม็อบกร่อยไม่สมราคาคุย
ขณะเดียวกันมีราคาคุยจากแกนนำพันธมิตรฯ อย่าง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ว่าจะมีคนร่วมชุมนุมไม่น้อยกว่า 3 หมื่นคน และ นายสนธิ ลิ้มทองกุล เองก็ประกาศว่าจะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย นัยว่าจะต้องต้อสู้กันให้ถึงขั้นแตกหัก แต่ก็กลับปรากฏว่าแม้จะมีข่าวการระดมคนจากทุกสารทิศ กลับมีผู้ร่วมการชุมนุมเพียงไม่กี่พันคน
วันเดียวกันนี้ในช่วงข่าวภาคเที่ยง และข่าวภาคค่ำ สถานีโทรทัศน์ NBT รายงานด้วยว่าได้มีการขนคนเข้าร่วมการชุมนุมจาก จ.เพชรบุรี ประมาณ 500 คน เดินทางโดยรถบัส 5 คัน โดยอ้างว่าเป็นหัวคะแนนพรรคการเมืองเก่าแก่พรรคหนึ่ง
โดยมีการออกไปตระเวนหาผู้ที่จะมาร่วมการชุมนุมตั้งแต่วันที่ผ่านมา และมีการนัดหมายเดินทางในเวลา 08.00 น. ที่ลานโพธิ์ ประตูเมือง จ.เพชรบุรี ซึ่งเปนที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์เดิม
ในขบวนมีรถเบนซ์สีดำ หมายเลขทะเบียน 2ฮ-3141 กทม. ขับตามมา ในรถมีผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 50 ปี นั่งมาด้วย ว่ากันว่าเป็นหัวคะแนนของนักการเมืองดัง และยังมีรถอีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กง-43 ราชบุรี ขับนำหน้าด้วย
ลือบิ๊ก ปชป.ขนคนช่วยหนุน 500
โดยที่รถบัสดังกล่าวได้มาจอดส่งคนลงที่หน้าสภาทนายความบนถนนราชดำเนิน และรถบางคันได้ไปจอดรออยู่ในท้องสนามหลวง
ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวระบุว่าจะมีแกนนำพรรคการเมืองระดับรองหัวหน้าพรรค เป็นธุระจัดหาคนมาร่วมการชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้รายงานข่าวยังระบุว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ มีเป้าหมายที่จะชุมนุมยืดเยื้อให้ถึงเช้าและจะเคลื่อนคนไปยังหน้ารัฐสภา เพื่อกดดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจะเคลื่อนมายังทำเนียบรัฐบาลกดดันการทำงานของรัฐบาล และจะยึดพื้นที่แยกมิสกวันเพื่อปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่ใช้ชุมนุมขับไล่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก่อนการปฏิวัติ
ระดมตำรวจคุมเข้มกว่าพันนาย
ด้านการดูแลความสงบเรียบร้อย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) กล่าวถึงมาตรการดูแลการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เชื่อมั่นว่าจะดูแลสถานการณ์ได้ โดยเตรียมกำลังตำรวจไว้กว่าพันนาย ทาง บก.น.6 ซึ่งดูแลพื้นที่รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จะตั้งกองอำนวยการส่วนหน้าไว้ที่บริเวณหลังร้านอาหารเมธาวลัยศรแดง ส่วน บก.น.1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ด้านทิศเหนือ ได้ตั้งกองอำนวยการไว้ที่วัดบวรนิเวศวิหาร นอกจากนี้ ได้จัดเตรียมห้องสังเกตการณ์ของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ที่จะเดินทางไปตรวจดูความเรียบร้อย โดยได้จัดเตรียมห้องเรียนของโรงเรียนสตรีวิทยาไว้ 1 ห้องด้วย
สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะใช้ในการดูแลความสงบเรียบร้อย ประกอบด้วย กำลังตำรวจ บก.น.1 จำนวน 1 กองร้อย ตำรวจ บก.น.6 จำนวน 1 กองร้อย ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 จำนวน 1 กองร้อย ตำรวจคอมมานโดกองปราบปราม จำนวน 1 กองร้อย นอกจากนี้ ก็จะขอกำลังหน่วยสนับสนุนทางอากาศมาประจำอยู่ที่ ตชด. อีก 1 กองร้อย รวมทั้งได้ประสานด้านการข่าวกับหน่วยข่าว ของกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งได้มีการประชุมร่วมกันแล้ว เหตุการณ์โดยทั่วไป เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ห่วงเคลื่อนม็อบส่อประจันหน้า
"ตำรวจต้องพยายามป้องกันอย่างเต็มที่ ในการรักษาความปลอดภัย ทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มต่อต้านที่ชุมนุมบริเวณท้องสนามหลวง โดยจะพยายามที่จะไม่ให้เผชิญหน้ากัน"
ส่วนที่มีข่าวระบุว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะเคลื่อนขบวน พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็ได้พูดคุยกับตัวเทนของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าหากมีความจำเป็นจะเคลื่อนขบวน ก็ไม่อยากให้ทำความเดือดร้อน เพราะวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม ก็จะเป็นวันเปิดทำการ เด็กนักเรียนก็จะเปิดเทอม อย่างไรก็ตามในเรื่องการตัดสินใจต่างๆ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น. เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ซึ่งจะรับผิดชอบสั่งการต่างๆ แทนตน
ตรวจเข้มหวั่นพันธมิตรปาขี้
"ตำรวจได้พยายาม ขอความร่วมมือ จากทุกฝ่าย ทั้งพันธมิตรฯ และฝ่านต่อต้าน ว่าหากยังเป็นห่วงชาติบ้านเมือง ก็ขอให้ชุมนุมอยู่ในกรอบของกฎหมาย การขัดแย้งทางความคิดก็ว่ากันไป แต่การใช้กำลังเป็นเครื่องตัดสิน ไม่ใช่สิ่งที่ดี จะทำให้ชาติบ้านเมือง แย่ลงไปอีก ซึ่งเชื่อว่าทุกคนคงเข้าใจ และอยากฝากไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุม อย่าซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาดื่ม จะครองสติไม่อยู่ ปัญหาต่างๆ ก็จะตามมา”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการประสานขอกำลังจากทหารหรือไม่ พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า ส่วนหนึ่งตำรวจจะขอกำลังสนับสนุนเรื่องการข่าวเท่านั้น ส่วนเหตุการณ์ต่างๆ ตำรวจสามารถรับมือได้ อย่างไรก็ตาม ได้ประสาน กทม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลตัวหนอนตามทางเท้า เพื่อป้องกันไม่ได้ให้กลุ่มผู้ชุมนุมไปงัดนำมาขว้างปาใส่กัน ขณะเดียวกันก็เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบหนังสติ๊ก หรือ สิ่งปฏิกูล เพื่อป้องกันไม่ให้นำมายิงหรือขว้างปาใส่กันอีกด้วย
ตำรวจห่วงพันธมิตรเคลื่อนไปสภา
ทางด้าน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เตรียมเจรจากับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อไม่ให้ปักหลักยืดเยื้อหรือเคลื่อนขบวน หลังที่ประชุมมีการประเมินสถานการณ์มีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ มีท่าทีที่จะเคลื่อนขบวนไปกดดันที่หน้ารัฐสภา
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังไม่มีรายงานการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลหรือมือที่ 3 เข้ามาป่วน พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้มีการปรับแผนให้มีความรัดกุมมากกว่าคราวที่แล้ว โดยจะมีการคุมเข้มตรวจสกัดอาวุธหรืออุจจาระที่แอบเตรียมนำเข้ามาขว้างปาในกลุ่มผู้ชุมนุม
ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เจรจากับกลุ่ม นปก.ที่ชุมนุมต่อต้านกลุ่มพันธมิตรอยู่ที่ท้องสนามหลวง เพื่อไม่ให้เคลื่อนขบวนเข้ามาเผชิญหน้าป้องกันเหตุบานปลาย
ม็อบต้านชุมนุมแยกคอกวัว
ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่มีความเห็นที่แตกต่าง และไม่เห็นด้วยกับการออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมอย่างไร้เหตุผลของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งได้ออกมารวมตัวกันคัดค้านการกระทำที่จะส่งผลเสียหายต่อชาติบ้านเมืองดังกล่าว
อย่างเช่น กลุ่มพลังประชาธิปัตย์ต่อต้านพันธมิตรและกลุ่มธรรมาธิปไตยประมาณ 20 คน รวมตัวชุมนุมต่อต้านการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา
โดยมีการติดตั้งเครื่องขยายเสียงขนาดเล็กปราศรัยโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมนำหุ่นจำลองแกนนำพันธมิตรมาตั้งไว้โดยประกาศจะเผาหุ่นจำลองดังกล่าว
เช่นเดียวกับที่ท้องสนามหลวง มีการจัดตั้งเวทีในนามของสภาสนามหลวงต่อต้านพันธมิตร เผด็จการ และความไม่เป็นธรรม ได้มีประชาชนที่ให้ความสนใจร่วมชุมนุมจำนวนมาก
แฉจ้างทหาร 200 นายคุ้มกัน
ทางด้าน นายสุชาติ นาคบางไทร กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ กล่าวว่าได้ทราบข้อมูลว่ากลุ่มพันธมิตรฯ มีการจ้างทหารมาจำนวน 200 นาย โดยให้ค่าจ่ายหัวละ 2 พันบาท นอกจากนี้ยังกล่าวต่อไปว่า ในช่วงเย็นจะมีการเคลื่อนพลไปรวมตัวกันที่ สี่แยกคอกวัว เพื่อจะไปรวมกับกลุ่มของนายวรัญชัย โชคชนะ ที่ได้มีการเปิดเวทีอยู่ตรงบริเวณ อนุสาวรีย์ 14 ตุลาคม
นอกจาก 2 เวทีนี้ ก็ยังได้มีอีก 1 เวทีอยู่กลางสนามหลวง เป็นเวทีของกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ที่ได้การปราศรัยในช่วงเย็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ดี กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ หลายกลุ่ม ได้เคลื่อนไปรวมตัวกันบริเวณสี่แยกคอกวัว และในช่วงเย็นยังเกิดการกระทบกระทั่งกับกลุ่มพันธมิตรฯ จนมีการบาดเจ็บเล็กน้อย เนื่องจากมีการขว้างปาสิ่งของใส่กัน
อย่างไรก็ดี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 ได้ประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะไม่รุนแรงอย่างที่คิด หลังจากพบว่ามีคนร่วมการชุมนุมเพียงประมาณ 3 พันคนเศษ และเชื่อว่าจะไม่มีการชุมนุมยืดเยื้ออย่างที่พยายามจะให้เป็น โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสับเปลี่ยนกำลังตลอดเวลา และหากมีเหตุการณ์รุนแรงก็จะมีการเสริมกำลังตำรวจ ตชด. เข้ามาด้วย
ยังใส่เสื้อเหลือง-อ้างกู้ชาติไม่เลิก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าผู้ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงสวมผ้าพันคอสีเหลือง ระบุข้อความกู้ชาติ และพากันใส่เสื้อเหลือง ทั้งยังมีป้ายผ้าข้อความเกี่ยวโยงไปถึงพระพี่นางฯ ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ซึ่งทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เป็นความพยายามที่จะแอบอิงสถาบันเบื้องสูง ทำให้ผู้คนรู้สึกว่ายืนอยู่ข้างสถาบันหรือปกป้องสถาบัน
ซึ่งเป็นประเด็นที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ได้เคยถูกเตือนไว้ท้ายคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ขณะเดียวกันการชุมนุมของกลุ้มพันธมิตรฯ มีการล่ารายชื่อเพื่อขอให้วุฒิสภาถอดถอนประธานสภาผู้แทนราษฎร ส.ส. และ ส.ว. ที่ร่วมลงนามเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย
ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำแผงเหล็กมากั้นเตรียมไว้บริเวณสี่แยกคอกวัวเพื่อป้องกันเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรและฝ่ายต่อต้านแล้ว