เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา พลเมืองในโลกไซเบอร์ร่วมกันออกล่าชื่อออกแถลงการณ์ เรียกร้องความรับผิดชอบจากนายเทพไท เสนพงศ์ และพรรคประชาธิปัตย์ หลังออกมาระบุชื่อ 29 เว็บไซต์ที่ส่อเค้าว่าหมิ่นเบื้องสูง ชี้ไม่ตรวจสอบข้อมูล แต่ต้องการกดดันฝ่ายตรงข้ามโดยใช้ข้อหาหมิ่นฯ เป็นเครื่องมือทางการเมือง ย้ำ พื้นที่บนเน็ตเปิดรับความเห็นแม้จะเห็นต่าง โดยคนเล่นเน็ตจะช่วยกันตรวจสอบดูแลด้วยตัวเอง
การล่ารายชื่อนี้ ทำผ่านเว็บไซต์ล่ารายชื่อออนไลน์ http://gopetition.com/online/19589 และถูกส่งต่อกระจายออกไปทางอีเมลและบล็อกต่างๆ บนจุดยืนสองประการ คือ หนึ่ง เห็นว่าสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างต้องได้รับการปกป้อง โดยถ้อยคำตอนหนึ่งในแถลงการณ์ระบุว่า “ความเคารพและมีความเข้าใจอันดีต่อกัน การเอาใจเขามาใส่ใจเรา เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ในสังคมที่ผู้คนมีความแตกต่างหลากหลาย และหนทางเดียวที่จะนำเราไปสู่การเรียนรู้ที่จะเข้าใจและเคารพกันได้ คือสภาพสังคมที่เอื้อให้ทุกๆ คนมีสิทธิเสรีภาพในแสดงออกด้วยความรับผิดชอบอย่างเต็มที่”
ประเด็นที่สอง คือ ผู้เล่นเน็ตไม่เห็นด้วยกับการนำสถาบันกษัตริย์มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง แถลงการณ์ระบุว่ารายชื่อเว็บไซต์และเว็บล็อกหลายแห่งที่ถูกระบุชื่อ นำเสนอข้อมูลทางวิชาการอย่างมีเหตุผล การกล่าวหาเว็บไซต์ทั้ง 29 นั้น มาจากการเหมารวมของนายเทพไท ที่ขาดการตรวจสอบข้อมูล และกดดันเพื่อปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นโดยไม่เลือกวิธีการ และถือเป็นการปลุกปั่นนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อทำลายฝั่งตรงข้าม
โดยแถลงการณ์นี้ ลงนามบุคคลในสถานะต่างๆ ซึ่งใช้อินเทอร์เน็ต อาทิ บล็อกเกอร์ คนเล่นเน็ต ฯลฯ ช่วงท้ายแถลงการณ์มีถ้อยคำระบุว่า “เชิญชวนชาวอินเทอร์เน็ตและพลเมืองทุกคน ให้ยึดมั่นในสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างเท่าเทียมและรับผิดชอบ และร่วมกันตรวจสอบดูแลและปกป้องพื้นที่อินเทอร์เน็ต ให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้แสวงหาปัญญาและยอมรับความคิดอันหลากหลายของเพื่อนมนุษย์ ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยกับความคิดเหล่านั้นหรือไม่ก็ตาม”
//////////////////////////////////////////////////////////////
แถลงการณ์จาก
ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและสื่อพลเมือง
ผู้สนับสนุนสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
29 พฤษภาคม 2551
เรื่อง ขอเรียกร้องความรับผิดชอบจากนายเทพไท เสนพงศ์ และ พรรคประชาธิปัตย์ และขอเชิญชวนพลเมืองทุกคนร่วมกันปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
ตามที่นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเปิดเผยรายชื่อ 29 เว็บไซต์* ว่าเป็นเว็บไซต์อันตรายที่ส่อเค้าหมิ่นเบื้องสูง พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศจัดการ ตามข่าวทางสื่อมวลชนทั่วไป ความแจ้งแล้วนั้น พวกเราดังมีรายนามข้างท้ายมีความเห็นต่อกรณีดังกล่าว ดังต่อไปนี้
1. เราเห็นว่าสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายต้องได้รับการเคารพและปกป้อง สังคมประชาธิปไตยทุกสังคม ที่ปรารถนาความสงบสุข สันติภาพและความสมานฉันท์ จำเป็นต้อง ส่งเสริม และ ปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนอย่างเต็มที่
เหตุเพราะความเคารพและความเข้าใจอันดีต่อกัน “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคมที่ผู้คนมีความแตกต่างหลากหลาย และหนทางเดียวที่จะนำเราไปสู่การเรียนรู้ที่จะเข้าใจและเคารพกันได้ คือสภาพสังคมที่เอื้อให้ทุกๆ คน มีสิทธิเสรีภาพในแสดงออกด้วยความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ประตูที่จะนำไปสู่ความยอมรับเคารพซึ่งกันและกัน จะถูกปิดตาย เมื่อปากและใจของเราถูกบังคับให้ปิดลง
2. เราไม่เห็นด้วยกับการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง รายชื่อเว็บไซต์และเว็บล็อกส่วนใหญ่ที่ถูกระบุชื่อ มิได้นำเสนอข้อมูลหรือเนื้อหาที่หมิ่นพระมหากษัตริย์ หลายแห่งนำเสนอข้อมูลทางวิชาการอย่างมีเหตุมีผล การกล่าวหาเว็บไซต์ต่างๆ เหล่านั้นอย่างเหมารวมของนายเทพไท เสนพงศ์ จึงเป็นความผิดพลาด ขาดการตรวจสอบข้อมูล เป็นการกดดันเพื่อปิดกั้นความคิดเห็นของคนอื่นโดยไม่เลือกวิธีการ เป็นการปลุกปั่นนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการทำลายฝ่ายตรงกันข้าม รวมทั้งเป็นการก่อความแตกแยกของคนภายในชาติ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้แสดงให้เห็นถึงการขาดจิตวิญญาณประชาธิปไตย
พวกเราดังมีรายนามข้างท้ายนี้ขอเรียกร้องให้นายเทพไท เสนพงศ์ และพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว และหยุดการใส่ร้ายป้ายสีเว็บไซต์หรือบุคคลอื่นอย่างไม่เป็นธรรม รวมทั้งหยุดกดดันหรือสร้างกระแสให้มีการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ โดยทันที
และเนื่องด้วยการกระทำเช่นนายเทพไท เสนพงศ์ ในครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการใช้ข้อหาหมิ่นพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือในการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของฝ่ายอื่นๆ และแม้การกระทำเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ แต่เราก็ยังพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าวอยู่เสมอ จากทั้งหน่วยงานรัฐ นักการเมือง และสื่อมวลชน เราจึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดพฤติกรรมดังกล่าวด้วยเช่นกัน
พร้อมกันนี้ พวกเราขอเชิญชวนชาวอินเทอร์เน็ตและพลเมืองทุกคน ให้ยึดมั่นในสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างเท่าเทียมและรับผิดชอบ และร่วมกันตรวจสอบดูแลและปกป้องพื้นที่อินเทอร์เน็ต ให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้แสวงหาปัญญาและยอมรับความคิดอันหลากหลายของเพื่อนมนุษย์ ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยกับความคิดเหล่านั้นหรือไม่ก็ตาม
ขอแสดงความนับถือ
(ผู้ลงชื่อ)