หากเอ่ยถึง ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีเหตุการณ์รุนแรง มีการซุ่มยิง วางระเบิดโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเหตุการณ์สะเทือนขวัญประชาชนมากที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่คือ เหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุยิงรถตู้สายเบตง ฆ่าผู้โดยสารชาวไทยพุทธที่บริสุทธิ์จำนวน 8 ราย เกิดขึ้นในวันที่ 14 มีนาคม 2550 ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามจะเข้ามาแก้ไข โดยใช้งานด้านยุทธการและยุทธศาสตร์ ตามแนวพระราชดำริ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เพื่อให้เหตุการณ์ดังกล่าวบรรเทาลง และคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
ร.อ.พรรษา พุทธผล ผบ.ร้อย ร.1542 รับผิดชอบพื้นที่ 9 หมู่บ้าน ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา กล่าวว่า ทางร้อย ร.1542 ภายใต้คำสั่งของ พ.ท.วรเดช เดชรักษา ผบ.ฉก.ยะลา 14 ได้ทำการเข้าสู่หมู่บ้านโดยพยายามใช้งานมวลชนเป็นหลัก แต่ได้ถูกตอบโต้จากกลุ่มก่อความไม่สงบ จำเป็นต้องกดดันด้วยงานด้านยุทธการ จนทางเจ้าหน้าที่ได้ปะทะกับทางหัวหน้ากลุ่มแกนนำคือ นายมุสลิม มะสัน เสียชีวิตภายหลังการปะทะ และได้จับกุม นายยูนุ มะแอ
ซึ่งเป็นแกนนำระดับปฏิบัติการ จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่อีกหลายครั้ง ที่ทำให้แกนนำแนวร่วมตัวสำคัญเสียชีวิตลง หมู่บ้านที่จัดตั้งเป็นหมู่บ้านก่อความไม่สงบ เมื่อขาดแกนนำหลักที่ค่อยควบคุมและชี้นำชาวบ้าน ทำให้ภายในหมู่บ้านเริ่มมีความเชื่อมั่นในอำนาจรัฐ และก็ต้องให้โอกาสผู้หลงผิดกลับมาร่วมพัฒนาบ้านเมือง พัฒนาหมู่บ้าน ให้กลับสู่สันติสุขเป็นปกติ
“ทุกวันนี้เราได้แนวร่วมยอมกลับตัวกลับใจมาช่วยเหลือ ให้เบาะแสและการเคลื่อนไหวและที่ซ่องสุม จึงออกลาดตระเวนป้องปรามป้องกันให้ชาวบ้านในพื้นที่ เมื่อรู้เส้นทางหลบหนีและที่อยู่อาศัย ก็สามารถปิดล้อมตรวจค้น จับกุม ทำลายกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ได้ เมื่อเขาเปลี่ยนใจวางอาวุธเข้ามาร่วมมือก็สามารถให้โอกาสเขาได้ จะไม่มีความรุนแรง ดำเนินตามกฎหมาย หากไม่ยอมวางอาวุธก็ต้องใช้ความรุนแรงเพื่อให้เกิดสันติสุขกับพื้นที่”
ผบ.ร้อย ร.1542 กล่าวอีกว่า ทางหน่วยได้เข้าไปพุดคุยกับผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา โดยประสานทุกฝ่าย ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ในการร่วมกันสร้างความสงบสุขในพื้นที่ ให้โอกาสชาวบ้านที่เคยเป็นแนวร่วม ที่เคยส่งเสบียง เก็บอาวุธ กระสุน เวชภัณฑ์ ที่คอยให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ได้กลับมาพัฒนาหมู่บ้าน มอบของเหล่านี้ให้กับเจ้าหน้าที่ ทำให้ตอนนี้กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ไม่สามารถเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ได้ จะอาศัยพื้นที่ป่าเขาหลบซ่อนอยู่ หรือจะเข้าไปในหมู่บ้านอื่นที่ยังให้การสนับสนุนต่อไป ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบจะพยายามใช้งานมวลชนประกอบกับยุทธวิธี ทั้งยุทธการและยุทธศาสตร์ ตามแนวพระราชดำริ เพื่อให้เกิดสันติสุขในหมู่บ้านอื่นๆ ติดตามมาต่อไป
ร.อ.พรรษา พุทธผล ผบ.ร้อย ร.1542 รับผิดชอบพื้นที่ 9 หมู่บ้าน ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา กล่าวว่า ทางร้อย ร.1542 ภายใต้คำสั่งของ พ.ท.วรเดช เดชรักษา ผบ.ฉก.ยะลา 14 ได้ทำการเข้าสู่หมู่บ้านโดยพยายามใช้งานมวลชนเป็นหลัก แต่ได้ถูกตอบโต้จากกลุ่มก่อความไม่สงบ จำเป็นต้องกดดันด้วยงานด้านยุทธการ จนทางเจ้าหน้าที่ได้ปะทะกับทางหัวหน้ากลุ่มแกนนำคือ นายมุสลิม มะสัน เสียชีวิตภายหลังการปะทะ และได้จับกุม นายยูนุ มะแอ
ซึ่งเป็นแกนนำระดับปฏิบัติการ จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่อีกหลายครั้ง ที่ทำให้แกนนำแนวร่วมตัวสำคัญเสียชีวิตลง หมู่บ้านที่จัดตั้งเป็นหมู่บ้านก่อความไม่สงบ เมื่อขาดแกนนำหลักที่ค่อยควบคุมและชี้นำชาวบ้าน ทำให้ภายในหมู่บ้านเริ่มมีความเชื่อมั่นในอำนาจรัฐ และก็ต้องให้โอกาสผู้หลงผิดกลับมาร่วมพัฒนาบ้านเมือง พัฒนาหมู่บ้าน ให้กลับสู่สันติสุขเป็นปกติ
“ทุกวันนี้เราได้แนวร่วมยอมกลับตัวกลับใจมาช่วยเหลือ ให้เบาะแสและการเคลื่อนไหวและที่ซ่องสุม จึงออกลาดตระเวนป้องปรามป้องกันให้ชาวบ้านในพื้นที่ เมื่อรู้เส้นทางหลบหนีและที่อยู่อาศัย ก็สามารถปิดล้อมตรวจค้น จับกุม ทำลายกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ได้ เมื่อเขาเปลี่ยนใจวางอาวุธเข้ามาร่วมมือก็สามารถให้โอกาสเขาได้ จะไม่มีความรุนแรง ดำเนินตามกฎหมาย หากไม่ยอมวางอาวุธก็ต้องใช้ความรุนแรงเพื่อให้เกิดสันติสุขกับพื้นที่”
ผบ.ร้อย ร.1542 กล่าวอีกว่า ทางหน่วยได้เข้าไปพุดคุยกับผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา โดยประสานทุกฝ่าย ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ในการร่วมกันสร้างความสงบสุขในพื้นที่ ให้โอกาสชาวบ้านที่เคยเป็นแนวร่วม ที่เคยส่งเสบียง เก็บอาวุธ กระสุน เวชภัณฑ์ ที่คอยให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ได้กลับมาพัฒนาหมู่บ้าน มอบของเหล่านี้ให้กับเจ้าหน้าที่ ทำให้ตอนนี้กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ไม่สามารถเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ได้ จะอาศัยพื้นที่ป่าเขาหลบซ่อนอยู่ หรือจะเข้าไปในหมู่บ้านอื่นที่ยังให้การสนับสนุนต่อไป ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบจะพยายามใช้งานมวลชนประกอบกับยุทธวิธี ทั้งยุทธการและยุทธศาสตร์ ตามแนวพระราชดำริ เพื่อให้เกิดสันติสุขในหมู่บ้านอื่นๆ ติดตามมาต่อไป