เอ็นบีที 31 พ.ค.-นายกรัฐมนตรีออกรายการชี้แจงสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง ยืนยัน สามารถดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศได้ แนะให้กลุ่มผู้ชุมนุมหาที่รวมตัวกันใหม่หรือยุติการชุมนุม เพราะถ้าไม่ยุติ จะใช้กำลังตำรวจ-ทหารดำเนินการพร้อมรับผิดชอบทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ออกรายการ “นายกฯชี้แจงสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง” ว่า รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งและทำงานมาจะครบ 4 เดือนแล้วแต่อาจเกิดปัญหาบ้าง เพราะเป็นช่วงรอยต่อกับการรัฐประหาร และได้ทำงานอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน มั่นใจว่าจะทำงานให้บ้านเมืองได้และเข้าได้กับข้าราชการทุกกระทรวง สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เกิดจากการที่มีคนไม่พอใจ ไม่อยากเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่เป็นการแก้ไขตามกรอบของกฎหมายด้วยการให้ส.ส.และส.ว.ยื่นญัตติแก้ไข จึงเป็นการไม่ถูกต้องที่กลุ่มพันธมิตรจะใช้เหตุผลเรื่องนี้มาเป็นตัวจุดชนวนการชุมนุม ซึ่งการปิดถนน หากเข้ามาล้อมทำเนียบรัฐบาลได้ ก็จะทำให้เสียภาพพจน์ของประเทศ อีกทั้ง มีการอ้างไปถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งที่ไม่เป็นความจริง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯ ได้มีการพูดจาหยาบคายโจมตีตนเอง และตนไม่ใช่คนที่จะยอมได้ทุกอย่าง หากมีการหมิ่นประมาทก็จะฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้ง การปิดถนนราชดำเนิน เพื่อชุมนุมคัดค้านตามสิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่ส่งผลให้เกิดความเดือร้อนกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการจราจรติดขัด และการตั้งกลุ่มรักษาความปลอดภัยพร้อมเครื่องป้องตัวนั้น เห็นว่าไม่สมควร เพราะไม่ได้อยู่ในสถานกาณ์รุนแรงหรือรบกับใคร ทั้งนี้ เห็นว่าแกนนำผู้ชุมนุมต้องการให้เหตุการณ์กลับไปเหมือน 19 กันยายน 2549 โดยหวังให้มีใครมายึดอำนาจ แต่ในฐานะที่ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำงานและมีความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกับผู้นำเหล่าทัพและดูแลฝ่ายความมั่นคง ยืนยันว่าจะไม่มีรัฐประหารเกิดขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมามีแนวคิดจะลดความรุนแรงของสถานการณ์การเมืองด้วยการทำประชามติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และต้องฟังความเห็นของประชาชน หากเห็นว่าไม่ควรแก้ไขก็จะยุติทันที พรรคพลังประชาชนพรรคเดียวไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่ต้องฟังเสียงของสภาด้วย คนที่สนับสนุนรัฐธรรมนูญปี 2550 อย่าหลับหูหลับตาเชื่อว่ารัฐธรรมนูญดีอย่างเดียว ทั้งที่สามารถแก้ไขได้ และพรรคพลังประชาชนได้หาเสียงไว้กับประชาชนไว้แล้วว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ อีกทั้ง ที่ผ่านมาทุกส่วนก็เคยกล่าวไว้ว่าสามารถแก้ไขได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“คนเป็นนายกฯ นิ่งเฉยให้ด่าทอ ผมไม่ได้ดีขนาดนั้น คนต้องใช้ถนนราชดำเนินเป็นเส้นทางเดินทางก็ต้องได้รับความเดือดร้อน อยากถามว่าบ้านเมืองที่ชุลมุนวุ่นวายอยู่ในขณะนี้ แกนนำพันธมิตรทั้ง 5 คนคิดอะไรอยู่ ตกลงจะขับไล่รัฐบาลหรือหาเหตุ อยากถามย้อนกลับไปว่า รัฐบาลเข้าตามตรอกอออกตามประตู มาจากการเลือกตั้ง มีหน้าที่แก้ไขปัญหาบ้านเมือง มีสิทธิที่จะทำให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยความสงบเรียบร้อย และผมไม่เครียดเรื่องการชุมนุม การกล่าวอ้างว่าจะผมจะทำให้ประเทศเป็นสาธารณรัฐนั้น ไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมาทำงานสนองพระเดชพระคุณมาตลอด จึงไม่มีแนวคิดดังกล่าว การพูดที่ไม่มีเหตุผลจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะมีการฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท”นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมกำลังทหาร-ตำรวจไว้พร้อมจะทำให้การชุมนุมออกจากบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์แล้ว ซึ่งไม่ใช่การข่มขู่หรือท้าทาย แต่ต้องการอยากให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลสามารถจะดูแลประเทศชาติบ้านเมืองให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยได้ ขอให้สื่อช่วยนำเสนอข้อมูลข่าวสารในแง่ดี ไม่ส่งผลกระทบหรือสร้างความเสียหาย เพราะทุกเรื่องจะถูกขยายไปยังต่างประเทศ ทำให้ภาพพจน์เสียหาย เศรษฐกิจชะงัก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่เป็นตัวสำคัญและสร้างรายได้
“ผมอยากให้ประชาชนสบายใจ คนที่เข้าร่วมชุมนุมก็อยากให้กลับบ้าน เพราะไม่มีเหตุผลที่จะร่วมชุมนุมต่อแล้ว การโจมตีหรือจะชุมนุมต่อ สามารถทำได้ แต่ต้องไม่ใช่ที่สะพานมัฆวานฯ ขอให้ไปหาสถานที่ที่ไม่สร้างความเดือดร้อนกับประชาชน จะชุมนุมเป็นปีก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่รื้อ ตำรวจก็จะไปรื้อ ที่พูดอย่างนี้ แสดงให้รู้ว่ารัฐบาลจะรับผิดชอบทุกอย่างกับทุกสิ่งที่ทหาร –ตำรวจทำ”นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2008-05-31 11:50:58