นักวิชาการดาหน้าดักคอแผนชั่ว ยุยงให้เกิดปฏิวัตรัฐประหารอีกรอบ ระบุทำเศรษฐกิจ-การเมืองถอยหลังไปเหมือนเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย กล่าวถึงกระแสข่าวปฏิวัติ ที่มีการพูดกันหนาหูมากขึ้นรวมไปถึงการพูดจาบนเวทีพันธมิตรฯ ที่คล้ายเป็นการส่งสัญญาณ สอดรับกับ พล.อ.สะพรั่ง กัลยาณมติร ว่าการพูดรับส่งเรื่องปฏิวัติขนาดนี้ คงเป็นการพูดเฉยๆ เหมือนหมาเห่าใบตองแห้ง เพราะเงื่อนไขที่จะดึงให้ทหารทำการปฏิวัตินั้นไม่มี
นอกจากนี้อำนาจของทั้งสองคนก็ไม่มากพอที่จะคุมเกมการเมืองขนาดนั้น การจะเกิดเหตุการณ์เหมือน 19 กันยายนหรือไม่นั้น ไม่สามารถเดาได้ แต่ขอเรียกร้องเสียก่อนว่า แนวคิดดังกล่าวไม่ควรทำให้เกิดขึ้น เพราะกระบวนการการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่ถูกที่ควรยังมีหนทางอยู่
“การรัฐประหารไม่ใช่วิถีทางที่นานาอารยะเขาทำกัน ประเทศที่เจริญแล้วไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้ การเมืองของไทยจะยิ่งถอยหลังเข้าคลอง นอกจากนี้ยังเป็นการริดรอนสิทธิของประชาชนในประเทศ ทางที่ดีควรปล่อยให้ระบบการเมืองทำการแก้ไขด้วยตัวของมันเอง”
ทางด้านรศ.ประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กลุ่มถึงการชุมนุมของพันธมิตรฯ ว่าการชุมนุมว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศมหาศาล ทั้งระบบเศรษฐกิจ และการลงทุนภายในประเทศ เพราะเสถียรภาพของรัฐบาลมีน้อย จากนั้นสุขภาพจิตของคนไทยก็จะย่ำแย่ เพราะไม่มีความสุข และเบื่อหน่ายการเมือง ทุกวันนี้การเมืองไทยย่ำอยู่กับที่เหมือน 30 ปีก่อน ทั้งๆที่น่าจะไปได้ไกลกว่านี้ เพราะมีรัฐประหารเป็นปฐมบทของความขัดแย้ง