WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, May 29, 2008

คนขี้ขลาด ถอนญัตติแก้ไข รธน.

ดูจะเป็นเสียงเรียกร้องที่เกิดหนาหูขึ้น นั่นก็คือ การขอให้ ส.ส. หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ ส.ว. หรือสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 164 คน ที่ยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถอดถอนรายชื่อออก เพื่อให้ญัตติดังกล่าวนี้ตกไป

โดยรายงานข่าวล่าสุด มีผู้ขอถอดถอนรายชื่อแล้ว 22 คน แบ่งเป็นจาก ส.ว. 20 คน จาก ส.ส. 2 คน พร้อมมีรายชื่อซ้ำซ้อน หักลบกลบกันแล้ว ปัจจุบันยังคงมี ส.ส. และ ส.ว. ร่วมสนับสนุนทั้งสิ้น 134 คน

คือเกินอยู่ 8 เสียง จาก 126 เสียง ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ที่ให้สิทธิ ส.ส. และ ส.ว. ลงชื่อร่วมกัน เพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ตามมาตรา 291 คือ 1 ใน 5 ของ 2 สภารวมกัน 630 เสียง

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. และ ส.ว. ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเช่นกัน ที่ไม่จำเป็นต้องทำตามมติของพรรคต้นสังกัดก็ได้

นั่นก็คือ ทั้งการยื่นญัตติและการถอดถอนชื่อออก เป็นไปตามดุลพินิจของ ส.ส. และ ส.ว. แต่ละคนนั่นเอง...

แต่ก็ดูพิกล เมื่อข้อเรียกร้องดังกล่าวนี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง สอดรับกับการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวข่มขู่ของ “กลุ่มพันธมิตร พันธมาร” ที่สื่อเผด็จการช่วยกันประโคมข่าวให้ดูประหนึ่งจะกลายเป็นความวุ่นวายของบ้านเมือง...???

ทั้งที่การออกมาแสดงอิทธิฤทธิ์ อิทธิเดช ของแก๊งข้างถนนนี้ ต่างก็รู้อยู่แก่ใจว่า คือการเรียกร้องให้คงระบอบอำมาตยาธิปไตย ที่กลุ่มทหารเผด็จการจงใจปล้นอำนาจอธิปไตยไปจากประชาชน เมื่อ 19 กันยายน 2549 และตราระบอบนี้เอาไว้...

ให้ชัดก็คือ กลุ่มแก๊งกวนเมืองนี้ กำลังปกป้องอำนาจนิยมเผด็จการเอาไว้นั่นเอง...!!!

ขณะเดียวกัน ก็ยังมีเสียงเล็ดลอดปูดข่าวออกมาจาก ผู้เฒ่า “เสนาะ เทียนทอง” หัวหน้าพรรคประชาราช หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยว่า

เขาได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชาชนแล้วหลายคน และมีความประสงค์จะให้ถอนรายชื่อออกมาทั้งหมด เพื่อให้ญัตตินี้ตกไป

รวมทั้งยังอ้างถึงอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เห็นควรให้ถอนญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ออกมาเช่นกันด้วย ทั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ปัจจุบันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองแล้ว

อย่างไรก็ตาม หากจะกล่าวกันตรงๆ การยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 นับเป็นความชอบธรรมยิ่ง เพราะรัฐธรรมนูญ 2550 มีที่มาจากการใช้กำลังทางทหารเข้ายึดอำนาจ แล้วให้กลุ่มพวกพ้องตัวเองช่วยกันร่างขึ้นมา

ขณะเดียวกัน พรรคพลังประชาชน ที่เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล ได้รับเสียงท่วมท้นจากประชาชนทั่วประเทศ ด้วย สัญญาประชาคมที่จะเข้ามาแก้ไขรัฐธรรมนูญโจรฉบับนี้

จึงไม่มีเหตุผลใดทั้งสิ้นที่จะต้องถอดถอนญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ออกมาจากรัฐสภา

เนื่องจากเป็นความชอบธรรมตามที่กล่าวมาแล้ว...
ประเด็นสำคัญจึงมาอยู่ที่ว่า อะไรคือสาเหตุที่มีการถอดถอนรายชื่อออกไปบ้างแล้ว ซึ่งหากเป็นมุมมองเก่าๆ แล้วก็คงไม่พ้น “ความกลัว ความหวั่นไหว และผลประโยชน์”

หนึ่ง...อาจเป็นเพราะหวั่นไหวต่อคำขู่ของกลุ่มแก๊งข้างถนน ที่อาจสร้างสถานการณ์นำพาไปสู่ความวุ่นวายของบ้านเมืองไม่รู้จบ จึงหวังให้ญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญตกไปก่อน เพื่อลดกระแสกดดันลง

หนึ่ง...อาจเป็นเพราะยังคงกลัวกำลังกองทัพ กลัวการใช้กำลังทางทหารเข้ายึดอำนาจอีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นภัยต่อตัวเองและครอบครัวในวันข้างหน้า

หรือหนึ่ง...อาจเป็นเพราะอามิสสินจ้าง ซึ่งไม่อยากพูดถึง เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผู้แทนของปวงชน ทั้งที่ในอดีต อุบัติการณ์พฤติกรรมเหล่านี้ เคยเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่จะอย่างไรก็ตาม อยากขอเตือน...อยากขอให้สำนึกว่า การได้เข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร ด้วยการรับเลือกมาจากประชาชน ในช่วงการต่อสู้ระหว่างระบอบเผด็จการกับระบอบประชาธิปไตยนั้น

เป้าหมายสำคัญคือ ฟื้นฟู และนำระบอบประชาธิปไตยกลับคืนสู่อ้อมอกของประชาชน...

อย่าให้เสียรังวัด...อย่าให้เสียชื่อของความเป็นผู้แทนของประชาชน...อย่าลืมสัญญาประชาคมที่ให้ไว้เมื่อคราวหาเสียง...อย่าให้ประชาชนสิ้นศรัทธา

และอย่าลืมหันหลังกลับไปดูว่า ที่ได้รับเลือกตั้งมาด้วยเสียงท่วมท้นนั้น ประชาชนก็ยังคงยืนเป็นแผงให้การสนับสนุนอย่างไม่เสื่อมคลาย และพร้อมร่วมต่อสู้กับอำนาจเผด็จการอย่างไม่ถดถอย

ที่สำคัญ อย่าให้ใครมาตราหน้าได้ว่า แค่นี้ก็เป็น ส.ส. “ขี้ขลาด” เสียแล้ว...

พร ภัทร (แทน)