WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, May 31, 2008

“จักรภพ” โชว์สปิริต ประกาศลาออกรักษา “สมัคร –รัฐบาล”

“ผมเป็นเพียงเหยื่อ” สุภาพบุรุษสายล่อฟ้า ยืดอกป้อง “รัฐนาวา” ให้อยู่รอด ยืนยันพร้อมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม หวังลดเงื่อนไขพันธมิตรฯ จ้องล้มรัฐบาล ลั่นจะไม่ยอมให้ “ปชป.-พันธมิตร” ใช้วิชามารชี้นำประเทศ หนังสือถึงมือนายกฯ วันนี้ มีผลต้นสัปดาห์หน้า

วันนี้ (30 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.20 น. นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งแล้วที่ทำเนียบรัฐบาล โดยให้เหตุผลว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตนได้แถลงชี้แจงถึงคำบรรยายที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 ว่าเป็นการปาฐกถาเชิงวิชาการ เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา

ซึ่งขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจอีกครั้ง ว่าไม่มีเจตนาหมิ่นเบื้องสูง แต่มาถึงวันนี้มีกระบวนการกดดันรัฐบาลจากกลุ่มบุคคลและพรรคการเมือง เพื่อโค่นล้มรัฐบาลจึงเห็นว่า เพื่อว่าเพื่อรักษาเรือลำใหญ่ จึงจำเป็นต้องสละตำแหน่ง และขอยืนว่า จะต่อสู้ทางคดีต่อไป โดยไม่ได้หวังว่าจะได้ความเป็นธรรมจากกระบวนยุติธรรมเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อสร้างบรรทัดฐานขจัดฉ้อฉลให้หมดสิ้นไปจากสังคม โดยจะยื่นใบลาออกในวันนี้ ให้มีผลในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อจะได้สะสางงาน และเตรียมส่งไม้ให้กับผู้รับผิดชอบต่อจากผมด้วยความราบรื่น

“ผมมีความบริสุทธิ์ใจและไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร ในบัดนี้ก็คิดแบบนี้อยู่ ผมไม่มีเจตนาใดๆ ในการหมิ่นเบื้องสูง คำบรรยายเป็นวิชาการต่อที่ประชุมเปิดกว้าง ก่อนเป็นรัฐมนตรี 10 เดือน ผมจะต่อสู้คดีโดยไม่หวังความยุติธรรมสำหรับตนเอง แต่จะวางบรรทัดฐานให้สังคม ฉ้อฉลได้ยากขึ้น ลำพังผมคนเดียว ผมไม่ถอย แต่ 3 วันตกหนักที่นายกรัฐมนตรี มีเสียงร่ำลือรัฐประหาร ในกระบวนการวิชามาร ผมเป็นเพียงเหยื่อรายเดียว เพราะเรื่องที่เขาจับไปโยงกับระดับ ผมมีความจำใจ รักษาขุนไว้ให้รอด ผมจึงจำเป็นถอด ขอลาออกจาก รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ” นายจักรภพ กล่าว

พร้อมยืนหยัดว่าจะต่อสู้กับพรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ทำตัวเป็นเจ้าขอและชี้นำประเทศไปเสียทุกเรื่อง เมื่อเห็นว่าภาระไปตกหนักอยู่ที่รัฐบาล โดยเฉพาะนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กระทั่งเกิดเสียงร่ำลือว่าจะมียึดอำนาจซ้ำ โดยใช้ตนเป็นเครื่องมือทางการเมือง จึงมีความจำเป็นต้องรักษาขุนเพื่อปกป้องรัฐบาล

โดยหวังว่า การลาออกในครั้งนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ จะยุติการเคลื่อนไหวเพื่อกดดันรัฐบาล และขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้โอกาสตัดสินใจจนถึงวินาทีสุดท้าย รวมทั้งขอโทษผู้สนับสนุนการลาออกครั้งนี้ไม่ใช่ความท้อถอย แต่เป็นหมากทางการเมือง ทั้งนี้ ตนจะไม่ใช้เวทีมวลชน หรือเวทีของกลุ่มแนวร่วมประชิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปก.) ในการตอบโต้หรือเป็นพื้นที่เพื่อชี้แจงในกรณีดังกล่าว

แถลงเปิดใจ “สุภาพบุรุษสายล่อฟ้า” - นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ความว่า

“เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมได้แถลงข่าวกับท่านทั้งหลายไปแล้วครั้งหนึ่ง เพื่ออธิบายถึงข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการหมิ่นเบื้องสูง ผมได้อธิบายไปว่า มีความบริสุทธิ์ใจ และมีเจตนาที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไรในการบรรยายที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อเกือบ 1 ปีที่ผ่านมาแล้ว และที่สำคัญก็คือว่า ได้บอกผ่านพี่น้องสื่อมวลชนไปยังพี่น้องประชาชนด้วยว่า ผมมีแนวทางในการต่อสู้กับความฉ้อฉลในครั้งนี้อย่างไร ขอเรียนว่า ในบัดนี้ผมก็ยังคิดอย่างนั้นอยู่ และจะไม่เปลี่ยนแปลงความคิดนี้เลย ผมไม่มีเจตนาใดๆ ในการหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งก็จะได้พิสูจน์ทราบในกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมายกันต่อไป

คำบรรยายเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 นั้น เป็นคำบรรยายทางวิชาการ ต่อที่ประชุมซึ่งเปิดกว้างต่อคนทั้งหลาย ไม่มีการหลบเร้น และเป็นคำบรรยายที่เกิดขึ้นมานานถึง 10 เดือน ก่อนที่จะได้รับพพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเป็นรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นจึงอยากเรียนในประเด็นแรกว่า ผมจะต่อสู้ในคดีนี้ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยไม่ได้หวังเพียงความยุติธรรม และความเป็นธรรมสำหรับตนเองเท่านั้น แต่หวังไปถึงว่า ผมจะมีส่วน ไม่มากก็น้อย ในการวางบรรทัดฐานบางอย่างเพื่อให้สังคมนี้ฉ้อฉลน้อยลง ทำลายกันด้วยวิชามารได้ยากขึ้น และหวังว่าจะทำให้เกิดแสงสว่างทางปัญญามากขึ้นด้วย

เพราะฉะนั้น ลำพังตัวผมคนเดียว ผมไม่ถอยแน่ เพราะผมไม่อาจปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มพันธมิตรฯ ทำตัวเป็นพระเจ้าที่ชี้นำประเทศนี้ได้ แต่ในช่วง 3 วันที่ผ่านมานี้ ทุกอย่างกลับไปตกหนักอยู่ที่ท่านนายกรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นธรรม ในที่สุดก็เกิดกระแสข่าวที่ไม่เป็นมงคลขึ้นมากมาย ทั้งความมุ่งหมายที่จะโค่นล้มรัฐบาล ทั้งในรัฐสภา และนอกรัฐสภา เสียงร่ำลือในเรื่องการยึดอำนาจรัฐประหาร และการไล่รุกเข้ามาเรื่อยๆ ของผู้เล่นต่างๆ ตามแผนที่วางกันไว้แล้วของคนภายนอก

ในขบวนการวิชามารทั้งหมดนี้ อยากจะเรียนว่า “ผมเป็นเพียงเหยื่อ” รายเดียวในทั้งหมดเท่านั้น แต่ก็มีความร้อนแรงมาก เพราะเรื่องที่เขาจับนั้นไปโยงกับสถาบันระดับสูง ผมจึงสรุปในใจว่า ผมมีความจำเป็นต้องรักษาขุนไว้ให้รอด เพื่อประชาธิปไตยจะได้ชัยชนะในบั้นปลาย

จะสังเกตว่าในช่วง 3 วันนี้ มีข่าวออกมาทั้งบนดินและใต้ดิน ทั้งข่าวว่า ผมเสี้ยมผู้ใหญ่ในฟากรัฐบาลให้ชนกันเพื่อตัวจะได้อยู่รอด ข่าวว่ามีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ก็เลยไม่ยอมลุกขึ้นจากเก้าอี้ ข่าวเหล่านี้เป็นความสามานย์ที่คนกุข่าวจะต้องชดใช้บาปกรรมของตนเองในไม่ช้านี้ แต่ก็เป็นตัวอย่างว่า คนในฟากรัฐบาลเราเองบางครั้งก็เผลอสายตาสั้นไปร่วมแห่กับฝ่ายตรงกันข้ามเขาด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งที่มีความสำคัญและเป็นบทเรียนสำหรับคราวนี้ก็คือ พุทธภาษิตที่ว่า "วินาศกาเล วิปริตพุทธิ" เมื่อถึงคราววินาศ ปัญญาย่อมวิปลาสไปนั้น ต้องไม่พยายามให้เกิดขึ้น

เมื่อเรื่องนี้ไม่เป็นไปตามหลักเหตุผล แต่เป็นเกมอำนาจล้วนๆ แล้วท่านนายกรัฐมนตรีก็เป็นผู้ได้รับผลดังกล่าวนั้น ผมจึงต้องตัดสินใจถอดตนเองออกจากเกมอำนาจนี้ เพื่อรักษาเรือลำใหญ่ไว้ให้รอด ผมจึงขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดนี้ และจะได้ยื่นใบลาออกในวันนี้ โดยให้มีผลในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อจะได้สะสางงาน และเตรียมส่งไม้ให้กับผู้รับผิดชอบต่อจากผมด้วยความราบรื่น

การลาออกในครั้งนี้ น่าจะส่งผลให้คนหยุดพูดเรื่องการรัฐประหารกันเสียที และน่าจะมีผลยุติความเคลื่อนไหวของกลุ่มใดๆ ที่อ้างเหตุผลทางการเมืองมาเคลื่อนไหว ถ้าหากเกมนี้ยังดำเนินต่อไป โดยมุ่งตีเมืองขึ้นไปเรื่อยๆ ผมก็หวังว่ารัฐบาลจะตัดสินใจอย่างชัดเจนในการพิทักษ์บ้านเมืองให้พ้นจากมือของผู้ที่ไม่ปรารถนาดีเหล่านี้

ผมขอขอบพระคุณท่านนายกรัฐมนตรี ที่ท่านมีความเป็นสุภาพบุรุษตั้งแต่ต้นจนนาทีสุดท้าย ผมมีความศรัทธา มีความเคารพในวิธีทางการเมืองของท่านนายกรัฐมนตรี และจะยึดหลายอย่างในตัวท่านเป็นแบบอย่างในทางการเมืองต่อไป ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ใหญ่ ให้แนวทางที่เป็นสติปัญญาและความสว่างกับนักการเมืองรุ่นหลัง จะเรียกว่ารุ่นลูก รุ่นหลาน ก็ไม่ผิดจากความจริง ให้ได้รู้แนวทางที่จะเดินต่อไป ท่านนายกรัฐมนตรีมีความหมายและมีความสำคัญในการรักษาบ้านเมืองในระยะนี้ เพราะฉะนั้นเหตุใดก็ตามที่จะนำไปสู่ผลกระทบต่อตัวท่านโดยตรง ผมจะยอมไม่ได้

นี่คือเหตุผลที่เมื่อวันจันทร์ ผมได้แถลงที่นี่ว่าผมจะสู้ต่อไป แต่มาวันนี้ถึงได้กลับเป็นการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เหตุผลก็ง่าย สั้นๆ นิดเดียวครับ เราต้องรักษาท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไว้ให้รอดในระยะนี้ เพื่อประชาธิปไตยจะได้รอดในระยะยาว

และสุดท้าย ผมต้องขอกล่าวคำนี้ครับ “ผมขอโทษผู้สนับสนุนตัวผมเอง” ซึ่งคงจะทำให้ท่านผิดหวังที่มีวันนี้เกิดขึ้น หวังว่าเมื่อท่านฟังเหตุผลตั้งแต่ต้นมาจนบัดนี้แล้ว ท่านก็คงพลอยเข้าใจไปด้วย ว่าผมไม่ได้มีความคิดที่จะลาออก ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมจะพิสูจน์ตนเองในทางกฎหมายต่อไป และจะวางบรรทัดฐานไม่ให้คนมาใช้เรื่องแบบนี้เพื่อการทำลายกันได้ง่ายเหมือนที่เกิดกับตัวผมเองอีกด้วย

เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ขอให้ผู้สนับสนุนทุกท่านได้ทราบว่า ไม่ใช่ความอ่อนแอ ทดท้อ ไม่ใช่การถอยเพื่อที่จะถอดใจทั้งสิ้น นี่เป็นเพียงขั้นตอนทางการเมือง ซึ่งเราต้องรักษาส่วนรวมไว้เท่านั้นเอง ขอโทษท่านผู้สนับสนุนถ้าหากทำให้ท่านผิดหวัง แต่ในระยะยาวแล้วท่านจะไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ขอบคุณมากครับ”