บ่ายวันนี้ สมาพันธ์ประชาธิปไตย ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้พันธมิตรฯเคารพรัฐธรรมนูญ 2550 และหยุดสร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหาร โดยระบุว่าในเมื่อพันธมิตรฯ ยืนยันมีท่าทีเห็นด้วยกับ รธน. 50 อย่างเต็มเปี่ยมจึงต้องเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะมาตรา 63,68 และ 113
มาตรา63ในรัฐธรรมนูญ2550ได้รับรองเสรีภาพในการชุนนุมไว้ แต่ต้องเป็นการชุนนุม โดยปราศจากอาวุธ การที่พันธมิตรฯไปบังคับเอาไม้เบสบอลจำนวนมากคืนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ต้องการให้มีสิ่งที่เป็นอาวุธในที่ชุนนุมแสดงให้เห็นชัดเจนว่าพันธมิตรฯมีเจตนาที่นำมาไว้ใช้เป็นอาวุธ เป็นการขัดกับรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง และยิ่งมีการทำร้ายคนเมาสุราในที่ชุนนุมอย่างรุนแรง รวมทั้งการประกาศกร้าวว่าจะทำร้ายผู้ที่มาต่อต้านให้ถึงขั้นเข้าไอซียู (หอบริบารผู้ป่วยอาการสาหัส) ด้วยแล้ว ยิ่งแสดงชัดเจนว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯไม่ได้การรับรองจากรัฐธรรมนูญแม้แต่น้อย
มาตรา68ในรัฐธรรมนูญ2550ได้ระบุชัดเจนว่า บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ “เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้........มิได้ ดังนั้นการที่พันธมิตรฯประกาศโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนตามรัฐธรรมนูญนี้ เท่ากับพันธมิตรฯได้กระทำการอันขัดต่อมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญนี้แล้ว
และย่อมเข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา113ของประมวลกฎหมายอาญาที่กล่าวไว้ว่า “ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ยว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อ (1)........................(2) ล้มล้างอำนาจ........อำนาจบริหาร หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้.(3)..................................ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต
นอกจากนี้ จุดมุ่งหมายที่พันธมิตรฯ ชุมนุมเดินขบวนก็เพื่อ “ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยื่นถอดถอนสส.สว.ที่เข้าชื่อยื่นญัตติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ในขณะนี้ ญัตติของสส.สว.ดังกล่าวได้ตกไปแล้วเพราะจำนวนผู้เข้าชื่อยื่นญัตติมีไม่ถึง 126 เสียง เป้าหมายของพันธมิตรฯจึงบรรลุแล้ว
การยกระดับไปเป็นการ “ขับไล่รัฐบาลโดยข้อกล่าวหาร้ายแรงและเป็นเท็จที่ว่า มีขบวนการสร้างระบอบสาธารณรัฐขึ้นในประเทศไทยล้มล้างสถาบันกษัตริย์เพื่อเปลี่ยนให้เป็นประธานาธิบดี”ที่ไม่มีหลักฐานและเหตุผลเพียงพอ นั้นมีจุดมุ่งหมายเพียงเพื่อสร้างความวุ่นวายยุ่งเหยิงให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติบ้านเมืองอันอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดการยึดอำนาจรัฐประหารขึ้น ซ้ำรอยกับเหตุการณ์สองปีที่แล้วเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549
จึงเป็นสิ่งที่เปิดเผยให้เห็นธาตุแท้ของพันธมิตรฯที่มุ่งสร้างเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหารยึดอำนาจ เป็นการทำลายล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่เลวร้ายที่สุดสร้างความพินาศวอดวายให้กับประเทศที่ยับเยินอยู่แล้วให้หนักหน่วงยิ่งขึ้น
พันธมิตรฯ หยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่างได้แล้ว ท่านหมดความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวแล้ว
เพื่อไทย
Saturday, May 31, 2008
สมาพันธ์ปชต. จี้พันธมิตรฯ หยุดเคลื่อนไหวป่วนเมือง
“สมาพันธ์” ออกแถลงการณ์จี้พันธมิตรฯ หยุดการเคลื่อนไหว ยั่วยุประชาชน หวังให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงอีกครั้งในบ้านเมือง ระบุส่อผิด ม.63,68 และ 113 โทษถึงประหาร