ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวต่อว่า หากแกนนำทั้ง 5 คนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกจับกุม ก็พร้อมมอบตัวและจะประกันตัวออกมาต่อสู้ใหม่ ระหว่างนั้นเชื่อจะมีแกนนำรุ่นใหม่ขึ้นมาต่อสู้หรือปฏิบัติหน้าที่แทนอย่างแน่นอน เวลา 16.00 น. วันเดียวกัน นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อ่านแถลงการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 12 เนื้อหาระบุว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีสิทธิในการปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตลอดเวลาที่มีการชุมนุมก็ได้ทำอย่างสงบ อหิงสา และไร้อาวุธ การชุมนุมถือว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมตามมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 การสลายการชุมนุมโดยไร้กฎหมายและสภาวการณ์รองรับ ไม่สามารถทำได้ตามที่ศาลจังหวัดสงขลา เคยพิพากษาไว้ นายพิภพ กล่าวต่อว่า หากเจ้าหน้าที่รัฐจะสลายการชุมนุม ก็ต้องมีกฎหมายรองรับ ไม่เช่นนั้นจะไม่ยอมให้มีการใช้อำนาจในการสลายการชุมนุม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบครบถ้วนสามารถเข้ามาตรวจตราการชุมนุมได้ แต่จะไม่ยอมให้ผู้ใดทำร้ายผู้ชุมนุม และทำลายหรือเคลื่อนย้ายทรัพย์สินสิ่งของของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หากรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินหรือประกาศกฎอัยการศึก จะขอให้ผู้ชุมนุมทุกคนอยู่ในความสงบ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวด้วยว่า หากมีการสลายการชุมนุมโดยมิชอบ ขอให้ประชาชนร่วมกันต่อสู่กับความไม่ถูกต้องและร่วมกันขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดจนกว่าจะสำเร็จ และหากมีการจับกุมตัวแกนนำ ก็จะมีแกนนำรุ่นใหม่เพื่อสานต่องานต่อไป
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าววันนี้ (31 พ.ค.) กรณี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศแตกหักกับผู้ชุมนุม หากยังไม่เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว ว่า ไม่เกรงกลัวว่าจะถูกเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุม ยืนยันว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีสิทธิชุมนุมได้ตามกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม กลุ่มก็จำเป็นต้องป้องกันสตัวในทางสันติวิธี