ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
![]() |
และยังยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่งอย่างเด็ดขาด
เป็นไปตามที่กุนซือพรรคประธิปัตย์ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เคยโอบอุ้มก่อนหน้านี้ว่าให้ทำงานต่อไป
โฆษกหัวหน้าพรรคอ้างว่าคดียังไม่ถึงศาล ไม่จำเป็นต้องลาออก
ชวนให้นึกถึงคดีที่ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ถูกกล่าวหา อยู่ในขั้นพนักงานสอบสวนเหมือนกัน
หนนั้นคนของประชาธิปัตย์ทั้งพรรคกางกฎหมาย ยึดกุมหลักการ จี้ให้ปลด ให้ลาออกอย่างแข็งขัน
กรณีของนายกษิต เมื่อดูจากโพลของบางสำนัก ร้อยละ 60.6 เห็นควรให้ลาออก อีกร้อยละ 39.4 เห็นว่าไม่ควรลาออก
มีการลงรายละเอียดถึงขนาดระบุว่าเกินกว่าครึ่งของหรือร้อยละ 54.1 กลุ่มที่เห็นว่าควรลาออก ให้ลาออกหลังประชุมอาเซียนซัมมิต
ขณะที่อีกร้อยละ 45.9 ระบุควรลาออกทันที
โพลสำนักเดียวกันนี้ ยังสอบถามกรณีการใช้สนามหลวงจัดแซยิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย
ผลการสำรวจระบุว่าร้อยละ 81.4 ไม่เห็นด้วย มีเพียงร้อยละ 18.6 เท่านั้นที่เห็นด้วย
โพลดังกล่าวระบุว่าสำรวจในวันที่ 7 ก.ค. จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,283 ครัวเรือน ใน 17 จังหวัด
จะบอกว่าเป็นโพลถล่มข้างไหนจึงไม่ถนัด
สำหรับนายกษิต ก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์อย่างเท่เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2552 ว่าถ้าหากถูกดำเนินคดีที่ร่วมบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ
"ผมจะไม่อยู่ในเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะผมไม่ยึดติดกับเก้าอี้ ผมไม่เป็นรัฐมนตรี ผมก็ต้องไปสู้กับสิ่งที่มันเลวร้ายกเฬวรากในวงการเมือง ก็ต้องสู้ต่อไป
"ไม่กังวลใจ เพราะไม่ได้รับอามิสสินจ้างอะไรใครมาเพื่อจะได้เก้าอี้ เกาะตำแหน่ง เมื่อมีหมายเรียกมาก็ต้องต่อสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม และไปต่อสู้บนท้องถนนต่อไป"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหากถูกหมายเรียกกรณีการยึดสนามบินสุวรรณภูมิจะทำอย่างไร
นายกษิตกล่าวว่า "ถ้ากระบวนการยุติธรรมเป็นกระ บวนการยุติธรรม ผมก็เคารพ ผมไม่ยึดติดกับเก้าอี้ เมื่อมีหมายเรียกมา ผมต้องไปศาล ผมก็ต้องลาออกจากตำแหน่ง"
บังเอิญว่าวันนี้ นายกษิตจำคำพูดของตัวเองไม่ได้เแล้ว
เหมือนกับที่เฉไฉ เอาตัวรอดไปดื้อๆ กรณีออกมาพูดถึงการยึดทำเนียบรัฐบาลว่าสนุกมาก อาหารดี ดนตรีเพราะ
หรือแม้แต่การคะนองด่าผู้นำประเทศเพื่อนบ้านว่าเป็นกุ๊ย เป็นไอ้นักเลงข้างรั้ว
วันนี้ก็อีกเช่นกัน ที่ประชาธิปัตย์ยังคงรักษาสองมาตร ฐานต่อไป