ที่มา ประชาไท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ก.ค. กลุ่มคนเสื้อแดงนับร้อยคน นำโดย นายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เดินทางมาชุมนุมที่หน้ากระทรวงการต่างประเทศ ด้านถนนพระราม 6 เพื่อกดดันให้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหมายเรียกในคดีบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.1 จำนวน 1 กองร้อยเฝ้าระวังป้องกันเหตุวุ่นวาย
นายจรัล ระบุว่า ถ้านายกษิตอยู่ในตำแหน่งอาจจะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หากภายหลังพิสูจน์ว่าบริสุทธิ์ก็สามารถกลับเข้ามารับตำแหน่งได้ตามเดิม เพื่อสร้างมาตรฐานการเมืองใหม่ ในระบอบประชาธิปไตยตามที่นายกษิต เคยประกาศเรียกร้องไว้ แต่ถ้านายกษิต ยังยืนกรานอยู่ในตำแหน่งและรัฐบาลยังให้การสนับสนุนนายกษิตต่อไปอีก ถือเป็นการกระทำที่ปลิ้นปล้อนหน้าด้าน ไร้ยางอาย อย่างยิ่ง เพราะไม่รักษาคำพูดของตนเอง และไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน ดังนั้นขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เคร่งครัดดำเนินคดีเอาผิดทั้งทางแพ่งและอาญากับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตยที่บุกยึดสนามบินต่างๆ อย่างจริงจัง
ทั้งนี้ ระหว่างการชุมนุมผู้ชุมนุมบางส่วน นำโดย นายวรัญชัย โชคชนะ ได้ช่วยกันเผาหุ่นจำลองนายกษิต และเหยียบแผ่นกระเบื้องที่มีรูปนายกษิต เป็นการประท้วง ก่อนสลายการชุมนุมอย่างสงบ
ปรัชโครงสร้าง นปช.
วันเดียวกัน ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว สถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น แกนนำคนเสื้อแดง หรือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายชินวัฒน์ หาบุญพาด, นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ร่วมกันแถลงข่าว
โดยนายวีระกล่าวว่า จากผลการประชุมของแกนนำคนเสื้อแดงวันที่ 7-8 กรกฎาคมที่ จ.กาญจนบุรีที่ผ่านมา มีมติว่า เพื่อการดำเนินการและการเคลื่อนไหวเป็นเอกภาพมากขึ้น ขอเปลี่ยนชื่อจาก แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เป็น แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน โดยมีตนเป็นประธาน นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ เป็นที่ปรึกษา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นโฆษก ที่เหลือเป็นกรรมการ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติร่วมกันว่า จากเดิมกรณีการล่ารายชื่อเพื่อถวายฎีกาขออภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นไปเฉพาะส่วนของรายการความจริงวันนี้เป็นเจ้าภาพนั้น ให้กลับมารวมเป็นการดำเนินการร่วมกัน โดยทำกันอย่างมีเอกภาพ ซึ่งจะประกอบด้วย นปช.ทุกหน่วยร่วมมือกัน
นายมานิตย์กล่าวว่า การถวายฎีกาไม่ใช่การขออภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นลักษณะของการถวายฎีการ้องทุกข์ของประชาชน โดยยกกรณีตัวอย่างของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ถูกดำเนินการอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งแล้วแต่พระราชวินิจฉัย
ด้าน นพ.เหวงกล่าวว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของ นปช.นับจากนี้จะเป็นเอกภาพมากขึ้น และยืนยันว่าเราไม่มีความแตกแยก ส่วนกรณีของนายสุรชัย แซ่ด่าน ที่มีความเห็นไม่ตรงกันก่อนหน้านี้ก็ไม่มีอะไร นายสุรชัยยืนยันที่จะทำงานร่วมกัน
นายณัฐวุฒิเผยว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปในการจัดทำหลักสูตรอบรมและสัมมนาแกนนำคนเสื้อแดงแต่ละจังหวัด เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนตามกรอบนโยบายเร่งด่วนเฉพาะหน้าทั้ง 6 ข้อ และจะเร่งดำเนินการทำบัตรสมาชิก นปช.แดงทั้งแผ่นดินขึ้นทั่วประเทศ โดยจัดทำให้ฟรี เพื่อความสะดวกในการติดต่อมวลชนสัมพันธ์คนเสื้อแดงทั่วประเทศ
นายชินวัฒน์กล่าวว่า ข่าวการจัดแซยิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณที่ท้องสนามหลวง เมื่อเจ้าของวันเกิดประสานผ่านมายังนายนพดล ปัทมะ ว่าไม่อยากเห็นความขัดแย้ง ประกอบกับไม่อยากให้คนไม่หวังดีโยงไปยังสถาบัน ซึ่งคำแนะนำนี้ตนเชื่อและขอทำตาม ยืนยันว่างานจัดวันเกิดที่ กทม.ยังคงมีอยู่ แต่เปลี่ยนเพียงสถานที่เท่านั้น ส่วนจะเป็นที่ใดตนไม่ขอเปิดเผยเพราะพวกมารคอยจ้องอยู่ ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวจะมีการเป่าเค้กที่ใหญ่ที่สุด มีประธานในงาน แต่ไม่ขอบอกว่าใครที่ใส่หน้ากาก พ.ต.ท.ทักษิณเป่าเค้ก รวมถึงการแจกจ่ายหน้ากาก พ.ต.ท.ทักษิณแก่ผู้มาร่วมงานด้วย
ที่มา: เว็บไซต์ไทยรัฐและไทยโพสต์