WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, July 5, 2009

ด้าน!กษิตเกาะเก้าอี้แน่น กระบอกเสียงโจรยิ่งดิ้นยิ่งรัดคอ เปิด3หลักฐานประหารหัวโจกก่อการร้าย

ที่มา Thai E-News




โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
5 กรกฎาคม 2552

อาหารไม่ดีดนตรีไม่ไพเราะซะแล้ว กษิตหนีหน้านักข่าวหลังโดนออกหมายคดีโจรก่อการร้ายยึดสนามบิน แต่คนใกล้ชิดยันด้านอยู่ต่อไม่ต้องแสดงสปิริตหยุดทำงาน ทั้งที่เคยลั่นสัญญาไว้โดนหมายเรียกจะลาออกไปเป็นแก๊งข้างถนน กระบอกเสียงกลุ่มโจรก่อการร้ายแถด้านๆไม่ได้ปิดสนามบินแต่ผอ.สุวรรณภูมิปิดเอง และไม่ได้ก่อการร้ายพกไปแค่มือตบ ยิ่งดิ้นยิ่งรัดคอเปิด3หลักฐานโทนโท่ทั้งแถลงการณ์ยึดสนามบิน,หลักฐานบุกปิดหอการบินและหลักฐานพิธีส่งมอบคืน ส่วนคดีก่อการร้ายไทยลงนามสนธิสัญญากับนานาชาติไว้ ชี้ชัดใครทำให้ท่าอากาศยานสากลปิดบริการหยุดชะงักลงเข้าฐานความผิดก่อการร้ายสากล โทษหนักประหารชีวิต "เส้นใหญ่หนุนหลัง"ก็ต้องโดนด้วย





ด้าน!รัฐมนตรีอาหารดีดนตรีเพราะไม่แสดงสปิริตหลังตร.ฟันคดีโจรก่อการร้ายยึดสนามบิน

ภายหลังแกนนำกลุ่มโจรก่อการร้ายพันธมิตรทั้ง 25 คน ถูกตำรวจออกหมายเรียกในข้อหาก่อร้าย กรณีชุมนุมปิดสนาบินสุวรรณภูมิ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นมี นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมอยู่ด้วยนั้น เวบไซต์ผู้จัดการASTV กระบอกเสียงของกลุ่มโจรก่อการร้ายพันธมิตรรายงานว่า ล่าสุด จากการติดต่อสอบถาม นายกษิต ทางโทรศัพท์ นายกษิตปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ เนื่องจากยังติดภารกิจอยู่ที่ประเทศกาตาร์

ขณะที่ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ นายกษิต ทราบเรื่องที่ถูกออกหมายเรียกแล้ว และพร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย โดยยืนยันว่า จะไม่มีการหยุดปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด เพราะได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีแล้ว โดย นายกษิตมีกำหนดกลับประเทศไทยในอีก 1-2 วันนี้ และยืนยันว่า จะเดินทางไปรายงานตัวกับพนักงานสอบสวนอย่างแน่นอน

เพื่อไทยทวงสัญญาให้แมนๆหน่อยที่เคยพูดว่าจะออกหากถูกหมายเรียก

เช้าวันนี้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลาออกจากตำแหน่ง หลังถูกหมายเรียกในคดีที่มีส่วนร่วมกับการชุมนุมปิดสนามบินของกลุ่มพันธมิตร เพื่อความสง่างาม ในการทำหน้าที่ โดยเฉพาะ การเป็นตัวแทนของประเทศในการเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน และคดีดังกล่าวยังถือเป็นคดีร้ายแรง เนื่องจากเป็นการกระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และนายกษิตก็เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีหากมีหมายเรียก

มติชนรายงานว่า นายกษิตเคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่23ก.พ.ที่ผ่านมา หากถูกออกหมายเรียกจะทำอย่างไรต่อไป ว่า "ก็ไม่เป็นไร กระบวนการยุติธรรมก็ต้องให้การเคารพ ผมก็จะไม่อยู่ในเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะผมไม่ยึดติดกับเก้าอี้ ผมไม่เป็นรัฐมนตรีผมก็ต้องไปต่อสู้กับสิ่งที่มันเลวร้ายกะเลวกะราดในวงการการเมือง ต่อไป ไม่กังวลใจ เพราะเราไม่ได้รับอามิสสินจ้างอะไรใครมา เพื่อที่จะได้เกาะเก้าอี้ เกาะตำแหน่ง เพื่อทะนงตนในสังคม ผมทำในหมวกในไหนก็ได้ในสิ่งที่ถูกต้อง"

ผู้สื่อข่าวถามว่าแล้วถ้าโดนหมายเรียกจริงๆจะเป็นอย่างไรต่อไป นายกษิตกล่าวติดตลกว่า ก็ต้องออกไปต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมซึ่งตนให้การเคารพ ไปต่อสู้บนท้องถนนต่อไป

กระบอกเสียงโจรก่อการร้ายแถไม่ได้ยึดสนามบินไม่ได้ก่อการร้าย เจอแฉหลักฐานทนโท่กลับ

กระบอกเสียงกลุ่มโจรก่อการร้ายพันธมิตรยังได้นำเสนอข่าว เรื่อง“พันธมิตรฯ ไม่ได้ก่อการร้าย” คำยืนยันจากทนาย-อดีตอธิบดีตำรวจ โดยสรุปเป็นการอ้างแบบด้านๆว่าพันธมิตรไม่ได้ปิดสนามบิน แต่ทางผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิสั่งปิดเองเพื่อป้ายสีพันธมิตร และไม่ได้เป็นการก่อการร้ายเพราะมีแต่มือตบ ไม่ได่พกอาวุธร้ายแรงไป

อย่างไรก็ตามไทยอีนิวส์เคยรายงานไปก่อนหน้านี้ว่า มีหลักฐานโทนโท่อยู่อย่างน้อย3เรื่องว่ากลุ่มโจรก่อการร้ายพันธมิตรปิดสนามบิน และมีกฎหมายสากลที่ไทยไปลงนามไว้และมาออกกฎหมายรองรับว่าพฤติการณ์ที่ทำให้การให้บริการของท่าอากาศยานสากลหยุดชะงักลงมีฐานความผิดก่อการร้ายสากลต้องระวางโทษหนักถึงประหารชีวิต

เปิดหลักฐานโทนโท่3ประเด็นที่โจรก่อการร้ายยิ่งดิ้นยิ่งรัดคอ

สำหรับหลักฐานโทนโท่ที่กลุ่มโจรก่อการร้ายพันธมิตรสร้างและทิ้งหลักฐานไว้ประกอบด้วย

1.แถลงการณ์พันธมิตร ฉบับที่ 26/2551สั่งปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งออกในเวลา21.57 น.ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2525 ตอนหนึ่งระบุว่า

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับการชุมนุม และเพิ่มมาตรการอารยะขัดขืนโดยการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อยื่นคำขาดผ่านพี่น้องประชาชนทั่วประเทศและทั่วโลกไปยังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคณะรัฐบาลให้ลาออกจากตำแหน่งโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข
(ดูรายละเอียดแถลงการณ์ คลิ้กที่นี่ )

ส่วนแถลงการณ์ฉบับเดียวกันที่ออกเป็นภาษาอังกฤษ( ดูรายละเอียด คลิ้กที่นี่ )ระบุว่า

The People’s Alliance for Democracy is left with no choice but to step up its peaceful rally by blocking off access to the Suvarnabhumi Airport. This is considered to be an ultimatum for Somchai Wongsawat and the Cabinet to resign immediately and without any condition.

2.พันธมิตรทำพิธีส่งมอบสนามบินสุวรรณภูมิคืนทอท.

ปรากฎหลักฐานเป็นข่าวไปทั่วโลกว่า หลังจากตุลาการรัฐธรรมนูญสั่งยุบ3พรรคการเมืองในวันที่ 2 ธันวาคม2551แล้ว มีผลให้รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องสิ้นสุดลง ในค่ำวันนั้นพันธมิตรประกาศยุติการชุมนุม และในช่วงสายวันที่ 3 ธันวาคม ก็มีพิธีส่งมอบสนามบินสุวรรณภูมิคืน

มติชนรายงานข่าวว่า ในเวลา09.20 น.วันที่ 3 ธันวาคม 2551 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)ได้ดำเนินการส่งมอบพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิคืนอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว โดยพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพธม.เป็นตัวแทนในการส่งมอบพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ อ่านแถลงการณ์ของพันธมิตร พร้อมส่งมอบพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิคืนให้กับนายวุฒิพันธ์ วิชัยรัตน์ ประธานกรรมการบริษัทท่าอากาศไทยฯ เพื่อจะได้เปิดใช้สนามบินได้อย่างเต็มรูปแบบต่อไป โดยพิธีนี้กระทำขึ้นต่อเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์

ปัญหามีอยู่ว่า หากพันธมิตรไม่ได้ยึดไม่ได้ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ผอ.ท่าอาศยานสุวรรณภูมิเป็นคนสั่งปิดเอง ทำไมพันธมิตรจะต้องมีพิธีส่งมอบคืนด้วยเล่า..?

3.หลักฐานมือขวาจำลองเข้าควบคุมหอบังคับการบิน

มีภาพข่าวหลักฐานร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ หัวหน้าการ์ดสันติอโศก มือขวาพลตรีจำลอง บุกเข้าไปปิดหอบังคับการบิน เพื่อควบคุมไม่ให้มีการบิน และขนส่งสินค้าทางอากาศ คลิ้กชมหลักฐาน ที่นี่ และ ที่นี่

กฎหมายระบุคนยึดสนามบินสากล และคนหนุนหลังมีโทษหนักประหารชีวิต

ส่วนการที่โจรก่อการร้ายพันธมิตรอ้างว่าพวกตนไม่ได้ทำผิดฐานก่อการร้ายนั้น แสดงถึงการแถด้านๆเช่นกัน ทั้งนี้จากการที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาจะพบว่ามีความแตกต่างระหว่างคดียึดสนามบินสุวรรณภูมิกับคดียึดสนามบินดอนเมือง โดยคดียึดสนามบินสุวรรณภูมิมีข้อหาก่อการร้ายและทำให้การบริการท่าอากาศยานชะงักลง ส่วนคดียึดสนามบินดอนเมืองไม่มีแจ้งข้อหานี้

จากการตรวจสอบพบว่า ไทยได้ลงนามในพิธีสารเพื่อการปราบปรามการกระทำรุนแรงอันมิชอบด้วยกฎหมาย ณ ท่าอากาศยานสากล ซึ่งให้บริการการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( อ่านรายละเอียด คลิ้กที่นี่ )และมีผลใช้บังคับสำหรับประเทศไทยเมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นต้นมา โดยมีข้อตกลงในพิธีสารนี้ที่สำคัญว่า

พิจารณาเห็นว่า การกระทำรุนแรงอันมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัย ของบุคคล ณ ท่าอากาศยานซึ่งให้บริการการบินพลเรือนระหว่างประเทศ

๑ ทวิ บุคคลหนึ่งบุคคลใดกระทำความผิด หากได้กระทำดังต่อไปนี้อย่างมิชอบด้วยกฎหมายและโดยเจตนา โดยใช้เครื่องมือ วัสดุ หรืออาวุธใด ๆ
(ก) กระทำการอันรุนแรงต่อบุคคล ณ ท่าอากาศยานซึ่งให้บริการการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเหตุให้หรือน่าจะเป็นเหตุให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสหรือความตาย หรือ

(ข) ทำลาย หรือทำความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยาน ซึ่งให้บริการการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือต่ออากาศยานที่ไม่ได้ให้บริการ ซึ่งจอดอยู่ ณ ท่าอากาศยานนั้น หรือทำให้การบริการของท่าอากาศยานหยุดชะงักลง หากการกระทำนั้นเป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตราย ต่อความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานนั้น"


เมื่อรัฐบาลไทยได้ลงนามในพิธีสารดังกล่าวแล้ว ก็ได้มีการออกกฎหมายรองรับคือ พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2521 แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2538 (รายละเอียดคลิ้กที่ ลิ้งค์ )ระบุว่า

มาตรา 6 ทวิ(1) ผู้ใด
(1) กระทำการประทุษร้ายผู้อื่นในท่าอากาศยานที่ให้บริการการบินพลเรือนจนเป็นเหตุให้หรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้อื่นนั้นรับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตายหรือ
(2) ทำลาย หรือทำให้เสียหายอย่างร้ายแรงต่อสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยานที่ให้บริการการบินพลเรือน หรือต่ออากาศยานที่ไม่อยู่ในระหว่างบริการและอยู่ในท่าอากาศยานนั้น หรือทำให้การให้บริการของท่าอากาศยานหยุดชะงักลง

ทั้งนี้ โดยใช้กลอุปกรณ์ วัตถุ หรืออาวุธใด ๆ และการกระทำนั้นเป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยานนั้น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี


มาตรา 11(2) ผู้ใดเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดตามมาตรา 5 มาตรา 6 หรือมาตรา 6 ทวิ ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับตัวการ

อย่างไรก็ตามในการออกหมายเรียกแจ้งความดำเนินคดีของตำรวจครั้งนี้พบว่า ไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อ"ผู้สนับสนุน"ให้กระทำความผิดตามที่สังคมสงสัยว่ามี"เส้นใหญ่"ให้การหนุนหลังแต่อย่างใด

ลำดับเหตุการณ์221วันดองคดีโจรก่อการร้ายยึดสนามบิน ก่อนได้ฤกษ์ดำเนินคดี
-

ค่ำวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551
พันธมิตรยึดสนามบินสุวรรณภูมิ
-13 มกราคม 2552 พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร.เผยคดีคืบหน้า 70 %จะออกหมายจับพันธมิตรภายใน1เดือน
-13 กุมภาพันธ์ 2552 ครบ1เดือนที่จงรักพูด ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
-18 กุมภาพันธ์ 2552 รัฐบาลย้ายตำรวจคุมคดียึดสนามบินเข้ากรุ พล.ต.อ.จงรักพ้นหน้าที่ในการคุมคดี สุเทพ เทือกฯเข้าคุมเอง
-20 กุมภาพันธ์ 2552 พล.ต.ท.ฉลอง สนใจผบช.ภาค1เผยคดีคืบหน้า80%
-21 เมษายน 2552 พล.ต.ท.ฉลองเผยคืบหน้า95%แล้ว เหตุที่ช้าเพราะเป็นคดีก่อการร้ายโทษถึงประหารชีวิต ส่วนคดีเสื้อแดงจับรวดเร็วเพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดผลร้ายขึ้น
-23 เมษายน 2552 อภิสิทธิ์กล่าวต่อที่ประชุมสภาว่า รัฐบาลไม่ได้มี2มาตรฐานระหว่างสีแดงจับเร็ว สีเหลืองจับช้าอย่างที่วิจารณ์กัน ขณะที่จตุพร พรมพันธุ์โต้ตอนนี้มี3มาตรฐานแล้ว คือเสื้อแดงจับไว เสื้อเหลืองออกหมายเรียกก่อนแต่ช้า ส่วนเสื้อสีน้ำเงินของเนวินไม่ทำอะไรเลย แถมรัฐบาลอ้างว่าเป็นอาสาสมัครช่วยรัฐบาลอีก...
27 เมษายน 2552พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้รับมอบหมายให้คุมคดีพันธมิตรยึดสนามบิน และคดีพันธมิตรบุกสภาเมื่อ7ตุลาคม2551 เผยว่า คาดว่าไม่เกินเดือนพฤษภาคมจะสรุปสำนวนได้
9 พฤษภาคม 2552พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ปฏิเสธว่าไม่ได้2มาตรฐานกรณีสลายม็อบเสื้อแดงกับเพิกเฉยกรณีเสื้อเหลืองยึดสนามบิน โดยอ้างว่าตอนยึดสนามบิน รัฐบาลมีคำสั่งให้ตำรวจเป็นหลัก ทหารบกเป็นผู้ช่วยอยู่อันดับ3 แต่กรณีเสื้อแดงตอนสงกรานต์นั้น ทหารอยู่เฉยไม่ได้ คนตีกันสองฝ่าย ที่ตีกันระหว่าง “เหลือง-แดง” ผมอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ เราไม่ได้สลายการชุมนุม แต่ทำให้สถานการณ์สงบเรียบร้อย
-25 พฤษภาคม 2552 6เดือนผ่านไป พล.ต.ท.วุฒิเผยว่า เบื้องต้นได้มีการเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาตั้งแต่บุกรุกจนถึงข้อหาก่อการร้ายสากล ซึ่งคาดว่าประมาณปลายเดือน พ.ค.จะมีความคืบหน้าในการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่เกี่ยวข้อง
-27 พฤษภาคม 2552 พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้ดูรายงานการประชุมที่ พล.ต.ท.วุฒิมาประชุม ไม่พบว่ามีการตั้งข้อหาก่อการร้ายแต่อย่างใด
3 มิถุนายน 2552พล.ต.ท.วุฒิ อ้างว่าตำรวจทำคดีเต็มที่แล้ว แต่เหตุที่ล่าช้าเนื่องจาก กรมขนส่งทางอากาศ กระทรวงคมนาคมยังไม่ได้สรุปความเสียหายว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ มายังพนักงานสอบสวน เพื่อใช้ประกอบสำนวนการสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลที่เกี่ยวข้อง
12 มิถุนายน 2552 ผบ.ตร.ส่งรายงานคดีสำคัญ17คดีให้สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯทราบ ซึ่งใน 17 คดีสำคัญนี้ไม่มีคดียึดสนามบินรวมอยู่ด้วยแต่อย่างใด

1 กรกฎาคม 2552 พล.ต.ท.วุฒิเผยว่า ได้รับหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษและพยานหลักฐานเพิ่มจากกรมขนส่งทางอากาศแล้ว จึงคาดว่าจะดำเนินคดีโดยออกหมายเรียกพันธมิตรได้ภายในกลางเดือนกรกฎาคมนี้

4 กรกฎาคม 2552เป็นเวลา221วัน หรือ7เดือนกับ9วัน ตำรวจเพิ่งออกหมายเรียกดำเนินคดียึดสนามบิน ซึ่งมีโทษหนักถึงประหารชีวิต