WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, July 7, 2009

ความพยายามทำลายประชาธิปไตยและทักษิณมาสามปีนั้นได้ผลดังนี้

ที่มา thaifreenews

เขียนโดย Bugbunny
วันอังคารที่ 07 กรกฏาคม 2009 เวลา 21:22 น.

alt
ความ พยายามทำลายประชาธิปไตยและทักษิณของพวกอมาตยาธิปไตยหรืออีกนัยหนึ่ง แนวร่วมของพวกเผด็จการศักดินาอำมาตย์ของประเทศนี้ มาร่วมสามปีนั้นได้ผลคือ๑. สามารถปลุกให้คนรักประชาธิปไตยและรักทักษิณสลัดทิ้งความวิตกกังวลทั้งหลาย ออกมาเปิดเผยตัวกันชัดเจนได้อย่างมากมายที่สุด ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนการกดหัวให้กลัวทหาร ความคิดที่ว่าเรื่องของคนอื่นไม่ใช่เรื่องของเรา การเคารพนบนอบต่อผู้ใหญ่ทั้งหลาย ฯลฯ เป็นสิ่งปรกติที่เคยล้างสมอง สร้างความมึนชาทางการเมืองให้กับคนธรรมดาของประเทศนี้มานานแสนนาน
อ่านต่อ และแสดงความคิดเห็น
๒. สามารถสร้างจิตใจที่รักประชาธิปไตย ต่อต้านความอยุติธรรมและไม่เท่าเทียมกันในสังคม เรียกร้องความถูกต้องที่ควรจะเป็น ฯลฯ เป็นการจัดตั้งทางความคิดในหมู่ประชาชนจำนวนมากที่สุดให้เกิดขึ้นในเมืองไทย ยุติการถือว่าเรื่องบ้านเมืองไม่ใช่หน้าที่ของพวกไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน เพียงสามปีที่ผ่านมานั้น ประชาธิปไตยงอกงามในความคิดของประชาชนยิ่งกว่าเจ็ดสิบเจ็ดปีของการอภิวัฒน์ 2475 เสียอีก มีคนใส่คอนแทคส์เลนส์สังคมการเมืองจนเห็นอะไรชัดเจนขึ้นเพิ่มมากมายไปทั่ว๓. สามารถทำให้คนไทยส่วนใหญ่ได้ยอมรับว่าประชาธิปไตยกินได้ เพราะชีวิตในระบอบเผด็จการประชาธิปไตยหลอกลวง กับประชาธิปไตยแบบเปิดกว้างของรัฐธรรมนูญสองฉบับนั้น มันต่างกันชัดเจนมาก ได้รู้กันว่า อุปสรรคของการมีชีวิตที่ดีขึ้นนั้น มาจากการหวงแหนประโยชน์ส่วนตัวที่มีอยู่มากมายอยู้แล้วของพวกอมาตยาธิปไตย การกระทำของพวกเขาเที่ยวนี้ อาจจะกลายเป็นการฆ่าห่านทองคำ จนทำให้เสียไข่ทองคำที่มีให้ทุกวัน เหลือแต่เนื้อห่านที่กินได้แค่มื้อเดียวก็หมดกันไปเปล่า ๆ๔. สามารถสร้างกลุ่มก้อนทางการเมืองภาคประชาชนที่มีพลังกดดันทางการเมืองสูง มากอย่างกลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่มนี้แตกต่างจากกลุ่มคนเสื้อเหลืองหรือกลุ่มพันธมิตรที่มีลักษณะม็อบจัด ตั้งอย่างสมบูรณ์ มีเงินทุน มีพวกอมาตยาธิปไตยเป็นเส้นสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แต่เสียงของคนเสื้อแดงกลับดังมาก มีการจัดตั้งกว้างขวางทุกหย่อมหญ้ากลายเป็นพลังการเมืองที่เข้มแข็ง ตัวเองเคยคิดว่า เมืองไทยมีกลุ่มที่ถือว่าเป็นพรรคการเมืองอย่างที่จำกัดความในทางรัฐศาสตร์ คือการรวมตัวกันของคนที่มีอุดมคติทางการเมืองตรงกัน อยู่เพียงสองพรรคเท่านั้น คือ คณะราษฎร และ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย พรรคอื่นนั้นถือว่าเป็นแค่ พรรคพวก เพราะรวมตัวกันโดยการรู้จักมักคุ้นเป็นพรรคพวกกันทั้งสิ้น ตอนนี้ขอเพิ่มอีกพรรคคือ พรรคคนเสื้อแดงสรุป ได้ว่าผลงานกว่าสามปีของพวกอมาตยาธิปไตยนั้น ได้ช่วยทำให้พลังภาคประชาชนเข้มแข็งยิ่งขึ้น ส่วนตัวเองกลับต่ำเตี้ยถลำลึกลงไปทุกที รัฐบาลพรรคอมาตยาธิปัตย์ ก็ขับเคลื่อนประเทศไปในทางที่ต้องการไม่ได้ กลุ่มที่จัดตั้งกันก็อ่อนล้าลงไปทุกวัน แม้แต่กลุ่มตุลาการวิบัติ กองทัพ ฯลฯ ประชาชนก็ไม่ได้สนใจ อยากทำแบบไหนก็ทำไป แม้จะใช้กระสุนก็ไม่กลัว แต่กลับมีลูกล่อลูกชน ถอยไปตั้งหลักแล้วรุกกลับอีกแนวรบแทน เพราะเรียนรู้กันแล้วว่า การเอาปืนมายิงสู้กันเพียงแนวทางเดียว หรือแค่เรียกร้องความเมตตาปราณีอย่างเดียวนั้น มันไม่เพียงพอสำหรับชัยชนะ สังคม ไทยวันนี้เปลี่ยนไปจากยุคก่อนมากแล้ว วิธีการเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมในโลกมีมากมาย และย่อมเหมาะกับแต่ละพื้นที่เท่านั้น เอาแนวทางที่เหมาะสมมาผสมผสานใช้กันดีกว่า อยากเสนอว่า เสรีภาพจักสมปองต้องมาจากการต่อสู้ นั้นจริง แต่ควรสู้กันให้หลากหลาย อย่ายึดติดกับศาสดาคนใดหรือแนวทางใดจนเกินไป พอแนวทางต่างกันบ้างก็ตั้งแง่กันทันที ช่วยกันหยุดคิด แล้วบรรจงประเมินกันให้ชัดว่าแนวทางที่อาจจะแตกต่างไปบ้างนั้นมันจะทำให้ เกิดผลอะไรขึ้นบ้างกันน่าจะดีกว่า