ที่มา ประชาไท
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 กรกฎาคม 2552 ที่โรงแรมลีการ์เดนส์ ถ.นิพัทธ์อุทิศ 2 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กลุ่มทนายความเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสงขลา ร่วมกับ เครือข่ายประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคใต้ ได้จัดเวทีเสวนาเรื่อง “ความจริง วิกฤตประชาธิปไตย” โดยมี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยร่วมเสวนา และถือโอกาสเปิดตัวพ็อคเก็ตบุคส์ในชื่อเดียวกันในภาคใต้เป็นที่แรก โดยบรรยากาศนั้นมีกลุ่มคนเสื้อแดงจากจังหวัดในภาคใต้ตอนล่างทยอยมาร่วมงาน
โดยก่อนที่จะเริ่มงาน ปรากฏว่า มีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทราบข่าวได้ทยอยเดินทางมารวมตัวหน้าโรงแรมประมาณ 100 คน พร้อมชูป้ายข้อความ เพื่อแสดงออกให้กลุ่มเสื้อแดงยุติการเคลื่อนไหว โดยมีกำลังตำรวจจำนวนหนึ่งสังเกตการณ์ดูแลความเรียบร้อย ซึ่งสถานการณ์ไม่ได้มีความรุนแรงแต่อย่างใด โดยผู้จัดงานได้โดยให้นายจาตุรนต์เดินทางเข้าโรงแรมตั้งแต่ก่อนเที่ยง โดยใช้ประตูด้านอื่นแทน
ขณะเดียวกัน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2/2552 เรียกร้องให้สมุนของระบอบทักษิณ ยุติการเคลื่อนไหวที่สร้างความแตกแยกให้แก่คนสงขลา ประเทศชาติ และสร้างความระคายพระยุคลบาทต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเดินหน้าล่ารายชื่อถวายฎีกาขอนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศโดยไม่ต้องรับโทษ
นายจาตุรนต์ ฉายแสง เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ทำให้ถูกปิดกั้นทางสื่อหลักมาโดยตลอด จึงอาศัยการเขียนหนังสือและเดินทางไปพบปะผู้คนต่างจังหวัด เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่เดินทางมาเปิดตัวหนังสือ ซึ่งเลือก อ.หาดใหญ่ เป็นที่แรกของภาคใต้ เพื่อเสนอความคิดและมุมมองในการแก้ปัญหาบ้านเมือง เพราะมองเห็นว่าปัจจุบันบ้านเมืองยังไม่เป็นระบอบประชาธิปไตยเพราะมีปัญหาที่รัฐธรรมนูญ ทำให้ผู้ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งสามารถล้มรัฐบาลได้ แล้วยังกำหนดรัฐบาลใหม่ และครอบงำการทำงานของรัฐสภาอีกด้วย
ในส่วนแนวคิดการล่ารายชื่อถวายฎีกาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ แต่ขอให้ทุกฝ่ายดำเนินการตามสิทธิและอยู่ภายใต้กฎหมาย ถ้าใครทำผิดก็ฟ้องร้องกันตามกระบวนการกันเอง เพราะตนเองไม่เกี่ยวข้องอะไร จึงไม่ทราบรายละเอียด และไม่สนใจจะทำเรื่องนี้
ส่วนนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ เปิดเผยถึงเรื่องการล่ารายชื่อขออภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า จากที่เคยมีความแตกต่างทางความคิดกับ นายวีระ มุสิกพงศ์ นั้น ล่าสุด ได้เข้าใจกันแล้วว่าเนื้อหาของฎีกานั้นจัดเป็นฎีการ้องทุกข์ทั่วไป ไม่ใช่ฎีกาอภัยโทษอย่างที่เข้าใจในช่วงแรก และไม่เห็นด้วย เพราะต้องให้คนในครอบครัวเป็นคนยื่นขออภัยโทษให้นักโทษเด็ดขาด แต่ฎีกาทั่วไปนั้นมีเนื้อหาแสดงถึงการร้องทุกข์ต่อพระมหากษัตริย์
นายสุรชัย ยังกล่าวต่อด้วยว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นนั้นทักษิณเป็นแค่ปลายเหตุของปัญหา แต่ต้นเหตุคือกลุ่มอนุรักษ์นิยม ซึ่งมีระบอบอำมาตยาธิปไตย และพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวแทน และกลุ่มทุนโลกาภิวัตน์ ซึ่งมีพรรคไทยรักไทย เป็นตัวแทน
หลังการเสวนา นายจาตุรนต์ ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า การเสวนาครั้งนี้ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนกรณีที่มีผู้มาชุมนุมนั้น จากการสังเกตจากข้อความที่ปรากฏในป้ายและการออกแถลงการณ์ เห็นว่าเป็นการเข้าใจผิด เพราะเขาไม่ได้มาล่ารายเซ็น แต่มาแจกลายเซ็นให้กับคนที่มาซื้อหนังสือ ซึ่งไม่รู้ว่าเข้าใจผิดอะไรไป เพราะไม่เกี่ยวกับเขา และเขาก็ไม่ได้พูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณด้วย จึงไม่เสียใจกับเหตุการณืที่เกิดขึ้น
“มีสิ่งที่ผมดีใจอยู่ก็คือ ครั้งนี้ไม่เกิดความรุนแรงขึ้นมา และผมก็จะไม่แนะนำอะไรไป เพราะถ้าสิ่งที่เขาประท้วงเกี่ยวกับเรื่องของผม ผมก็ต้องกลับไปคิด แต่นี่ไม่เกี่ยวกันเลย” นายจาตุรนต์ กล่าว