ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
การที่ม็อบพันธมิตรฯ โดนข้อหาหนักมาก จากปฏิบัติการ"อาหารดี ดนตรีเพราะ" บุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิกับดอนเมืองพร้อมกัน
จึงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ขื่อแปบ้านเมืองต้องมาถึงจุดนี้
แม้ข้อกฎหมายที่นำมาตั้งข้อหากับแกนนำพันธมิตรฯทั้งหลาย จะฟังร้ายแรง มีเรื่องของการก่อการร้ายอยู่ด้วย
หลายคนอาจมีมโนภาพในใจ การก่อร้ายน่าจะเป็นการใช้กองกำลังติดอาวุธเข้าไปยึดสนามบิน
ไม่ใช่เดินตบเท้าเข้าไปตั้งเวที แล้วก็กินๆ นอนๆ ฟังเพลงกันแบบที่พันธมิตรฯทำเสียหน่อย
แต่ก็อย่าลืมว่าความโกลาหลที่เกิดกับประเทศไทยในเวลานั้น เป็นเรื่องร้ายกาจรุนแรงที่คนในชาติรับไม่ได้
นานาชาติก็ออกแถลงการณ์ประณามจนอื้อฉาวไปทั่วโลก
โดยบรรทัดฐานของคนทั่วไป ไม่ว่าจะคนไทยเองหรือคนต่างชาติ
ย่อมมองว่า"ลูกบ้าเที่ยวล่าสุด"ครั้งนั้นของพันธมิตรฯ เป็นความเสียหายที่ต้องมีคนชดใช้
การเสนอข่าวช่วงนั้น ธุรกิจที่ต้องพึ่งพาการขนส่งและการคมนาคมระหว่างประเทศ โชว์ตัวเลขความเสียหายออกมาอุตลุด
จะใช้ข้ออ้างทำนองว่า ผู้นำฝ่ายตรงข้ามทำความเสียหายร้ายแรงไว้มากกว่า ย่อมไม่ถูกต้อง
หากคดีนี้ล่มไปดื้อๆ จากอำนาจการเมือง หรืออะไรก็แล้วแต่
ประเทศไทยจะยิ่งจมปลัก กู่ไม่กลับ
เพราะฝ่ายม็อบนปช. จะไม่มีทางยอมรับความอยุติธรรมเช่นนั้นได้
แล้วจะออกฤทธิ์ออกเดชเขย่าประเทศกันไปไม่รู้จบ
จะเดินถอยหลังเป็น"มูนวอล์ก"กันไปอีกนานแค่ไหน ก็ยากจะรู้
แม้ตัวพันธมิตรฯเอง ก็ไม่ควรคิดแม้แต่เสี้ยวนาที
ว่าอำนาจการเมืองที่เปลี่ยนมือ จะช่วยให้ตัวเองอยู่รอดปลอดภัยได้
ใครเกลียด "ทักษิณ" ก็ต้องทำตัวให้ฉีกจาก "ทักษิณ"
จากนี้จึงเห็นว่า
เมื่อพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนออกมาเป็นเช่นนี้
ไม่ว่านักการเมืองซีกประชาธิปัตย์ ที่บางคนอาจถือว่าตัวเองเป็นแนวร่วมกับพันธมิตรฯ
รวมไปถึงตัวผู้ต้องหาทั้งหลายที่เป็นพันธมิตรฯเอง
ไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์อะไรให้มากความ
มีอะไรจะใช้ต่อสู้แสดงความบริสุทธิ์ ก็นำไปใช้ในชั้นศาลให้เต็มที่
ชี้แจงต่อศาลว่าสิ่งที่ทำไปนั้น ไม่ใช่การก่อการร้าย แต่เป็นการก่อการดี หวังดีต่อประเทศ อะไรก็ว่ากันไป
ถึงจะตกเป็นผู้ต้องหา ก็ยังไม่ได้แปลว่าต้องโดนโทษประหารชีวิต หรือติดคุกกันยาวแน่นอนแล้ว
ยังมีขั้นตอนอีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม แค่โดนคดีก็มีผลกระทบบางอย่างตามมาทันที
นายกษิต ภิรมย์ ที่เคยประกาศจะลาออกจากเก้าอี้จะทำเช่นไร?
นายสนธิ ลิ้มทองกุล จะปลีกวิเวกต่างประเทศยาวได้อย่างไร?