ที่มา ข่าวสด
ทะลุคน ทะลวงข่าว
กษิต ภิรมย์/ วิทยา แก้วภราดัย / สุทัศน์ เงินหมื่น |
ส่งผลให้อุณหภูมิการเมืองร้อนฉ่าขึ้นตามไปด้วย
ร้อนขึ้นหลังจาก พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วยผบ.ตร. หัวหน้าคณะสอบสวนคดีม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิป ไตย(พธม.)บุกสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ออกหมายเรียก 36 แกนนำและแนวร่วมพันธมิตรฯ
ในข้อหาก่อการร้าย
1 ใน 36 ผู้ต้องหมายเรียกคือ นาย กษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ
ตามติดมาคือเสียงเรียกร้องจากสังคมให้นายกษิตลาออก
เพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง
มีพรรคฝ่ายค้านช่วยเตือนความจำ หยิบคำให้สัมภาษณ์ของนายกษิตเอง เมื่อ 23 ก.พ.ว่า
"หากผมเป็น 1 ใน 21 แกนนำพันธมิตรฯที่จะถูกออกหมายจับ ก็พร้อมจะลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะต้องให้ความเคารพกระบวนการยุติธรรม
"และหากผมไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว ก็จะไปต่อสู้กับสิ่งเลวร้ายในวงการการ เมืองบนถนนต่อไป"
และพุ่งเข้าใส่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะคนแต่งตั้ง
ว่าควรจะตัดสินใจปรับรมว.ต่างประ เทศออกได้
ยกกรณีของนายวิฑูรย์ นามบุตร อดีตรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ที่แสดงสปิริตลาออกจากกรณีปลากระป๋องเน่ามาเทียบเคียง
แต่คนโดนกระทุ้งยังเสียงแข็ง
ประกาศลั่นจะอยู่บนเก้าอี้ต่อไป จน กว่าคดีจะถึงชั้นศาล
โดยมีเพื่อนๆ พันธมิตรฯออกมาฮึ่มฮั่ม จะฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจและนายอภิสิทธิ์
ฐานตั้งข้อหาแรงไป
อีกหนึ่งเรื่องร้อนที่สะท้อนปัญหาภายใน
คล้อยหลังนายอภิสิทธิ์เปิดบ้านพิษณุ โลก ถกลับกับ นายเนวิน ชิดชอบ ตัวจริงของพรรคภูมิใจไทย โดยมีแกนนำพรรคอย่าง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ร่วมวง
ข่าว"โอ๋"ภูมิใจไทยเล็ดลอดออกมา ว่าจะทั้งทุ่มงบประมาณและมอบพื้นที่อีสานให้ภูมิใจไทยดูแลในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า
ตามมาด้วยการลงพื้นที่อีสานครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี เลือกเป้าที่บุรีรัมย์
พื้นที่ในการควบคุมเข้มแข็งของนายเนวิน
แทนที่จะเป็นอุบลราชธานี ฐานเสียงพรรคซึ่งมีแกนนำทั้ง นายวิฑูรย์ นามบุตร นายอิสสระ สมชัย
และนายสุทัศน์ เงินหมื่น อดีตรองหัวหน้าพรรคโควตาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อดีตส.ส.อุบลราชธานีหลายสมัย
เจ้าของวาทะ
"ชาวบ้านหวังให้คุณอภิสิทธิ์เป็นตัวของตัวเอง เพราะเขาเชื่อท่าน ไม่เชื่อบางคน
"ผมไปได้ทั่วภาคอีสาน ไปมาหมดแล้วทุกตำบล ขับรถไปได้หมดไม่ต้องดูแผนที่ เข้าใจดีว่าจะแก้ปัญหาให้คนอีสานได้อย่างไร
"พอมีข่าวว่าจะมอบให้พรรคอื่นดูแล ผมไม่ยอม เพราะเหมือนฮั้วประเทศชาติ"
เจ้าของวาจาคือ นายสุทัศน์ เงินหมื่น
ขย่มให้ระอุซ้ำว่า หากข้อตกลงดังกล่าวมีจริง จะลาออกจากพรรค
เพิ่มความร้อนเข้าไปอีกด้วยการกินข้าวกับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีต นายกฯจากขั้วเพื่อไทย
แกนนำทั้งหลาย ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี-หัวหน้าพรรค ไปจนถึงเลขาธิการ-ผู้จัดการรัฐบาล ต้องออกปากบอก ปัดปฏิเสธกันให้วุ่น
เคลียร์จบก็เหมือนยังไม่จบ
ออกมานอกพรรค งานก็หนักอก
โดยเฉพาะปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่แพร่กระจายแบบรั้งไม่อยู่
มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นนับร้อยคนแทบทุกวัน ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยในไทยเฉียด 3,000 คน
ผู้อยู่ในข่ายป่วยอาจจะมากกว่า 200,000 ราย
ที่ร้ายกว่านั้นคือมีคนทยอยเสียชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ
เสียงวิจารณ์คือมาตรการแก้ปัญหาของรัฐบาลชุดนี้อ่อนหัด เมื่อเทียบกับครั้งแก้ปัญหาโรคหวัดนกและโรคซาร์ส
วัดกึ๋นของรมว.สาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรคและส.ส. นครศรีธรรมราชหลายสมัย
โดยเฉพาะกับระดับของมาตรการรับมือปัญหาที่กลับมากลับไป
จากเข้มข้นสุดขีดในช่วงเริ่มต้น จู่ๆ ก็คลายมือระบุว่าก็แค่ไข้หวัดธรรมดา อัตราผู้เสียชีวิตไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์
โดยผู้เสียชีวิตเกิดจากภาวะแทรกซ้อนของโรคประจำตัว
แต่ล่าสุด โรคประจำตัวไม่มีก็เสียชีวิตได้ง่ายๆ
ขณะที่การระบาดยิ่งแพร่กระจายมากขึ้นกว่าเก่า
ถึงขั้นหารือกันว่าจะต้อง "ปิดประ เทศ" อย่างที่เม็กซิโกต้นตอของหวัดชนิดนี้เคยทำมาแล้วหรือไม่
คำถามอื้ออึงคือทำไม
ทำไมบุคลากรสาธารณสุข แพทย์ พยาบาล ที่เคยรับมือโรคอุบัติใหม่ได้ผล จึงกลายเป็นปวกเปียกเอาในหนนี้
สังคมเพ่งสายตาไปที่นายวิทยา ในฐานะเจ้ากระทรวง
ว่าจะรับผิดชอบอย่างไร
เพ่งไปที่นายกรัฐมนตรี ว่าจะคลี่คลายปัญหาใหม่ที่ถาโถมเข้ามาซ้อนปัญหาเก่าอย่างไร
ฤดูฝนนี้ไยจึงร้อนนัก