ที่มา ไทยรัฐ
ชี้อันตราย "เสื้อแดง" ล่าล้านชื่ออภัยโทษหัวหน้าใหญ่ "ทักษิณ"
หลังตกอยู่ในกระแสวิพากษ์วิจารณ์นานนับสัปดาห์
จากกรณีที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศจะใช้ท้องสนามหลวงรวมพลคนเสื้อแดงจัดงานแซยิดอายุครบ 60 ปี ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 กรกฎาคม
ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลายฝ่ายว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และอาจโดนครหาโจมตีว่าทำตัวเสมอเจ้า
ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณได้ออกมาเบรกการจัดงานแซยิดที่สนามหลวง โดยยกหูโทรศัพท์บอกผ่านมาทางนายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัว ที่ออกมาระบุว่า
พ.ต.ท.ทักษิณฝากขอบคุณประชาชนทุกคนที่ตั้งใจจะมาร่วมงานแซยิด 60 ปี แต่ไม่อยากให้ใช้ท้องสนามหลวงจัดงาน
เพราะรู้สึกไม่สบายใจที่มีหลายฝ่ายออกมาต่อต้าน และพยายามเชื่อมโยงไปถึงความไม่เหมาะสมและพาดพิงสถาบัน
จึงได้ขอร้องกลุ่มผู้จัดงานทบทวนเรื่องนี้ เพราะเกรงว่าจะไม่เหมาะสม อยากให้ประชาชนที่ตั้งใจจะจัดงานวันเกิดให้เปลี่ยนไปทำบุญที่วัดใกล้บ้านแทน
แค่ "ทักษิณ" ส่งสัญญาณผ่านคนใกล้ชิด
แผนการจัดงานแซยิดที่ท้องสนามหลวงก็ยุติลง
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ แม้มีเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะผู้ดูแลสถานที่ ออกมาประกาศชัดเจนว่า
กทม.ไม่เคยอนุญาตให้เอกชนรายใด เข้ามาใช้พื้นที่สนามหลวงจัดกิจกรรมที่เป็นลักษณะส่วนตัว
ดังนั้น จึงไม่อนุญาตให้กลุ่มคนเสื้อแดงใช้พื้นที่สนามหลวงจัดงานแซยิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเด็ดขาด
เพื่อป้องกันข้อครหาหรือถูกนำไปเป็นประเด็นโจมตีว่า บุคคลที่กำลังจะถูกจัดงานแซยิดให้นั้นทำตัวเสมอเจ้า
แต่แกนนำกลุ่มเสื้อแดงที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดงาน ก็ยังยืนยันแข็งกร้าวจะใช้วิธีการอารยะขัดขืน
ใช้พื้นที่ท้องสนามหลวงเป็นสถานที่จัดงานแซยิด 60 ปีให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
พร้อมเตรียมระดมพลคนเสื้อแดงมากันให้พรึบ โดยไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม ไม่สนใจกระแสทักท้วงจากฝ่ายใดทั้งสิ้น ใครขวางก็ไม่ยอม
แต่สุดท้าย พอ "ทักษิณ" ยกหูโทรศัพท์ส่งซิกผ่านคนสนิท ขอให้แกนนำกลุ่มเสื้อแดงยกเลิกการจัดงานแซยิดที่สนามหลวง
การเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ ก็ยุติลงทันที
เชื่อง เรียบร้อย สงบเสงี่ยม
ท่าทีกระเหี้ยนกระหือรือของแกนนำกลุ่มเสื้อแดงที่เคยประกาศกร้าวจะใช้สนามหลวงจัดงานแซยิด 60 ปีให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
วูบหายไปทันที
พร้อมกับเปลี่ยนแนวทางการจัดงานแซยิด มาเป็นการเชิญชวนคนเสื้อแดงไปทำบุญเลี้ยงพระที่วัดใกล้บ้านแทน
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือเป็นอีกความเคลื่อนไหวหนึ่งที่สะท้อนชัดเจนว่า ใครคือหัวหน้าใหญ่ตัวจริงของกลุ่มนปช. กลุ่มคนเสื้อแดง รวมไปถึงพรรคเพื่อไทย
ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้
ที่สำคัญ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นยังสะท้อนให้เห็นว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งนอกสภาและในสภา ภายใต้รูปแบบประชาธิปไตยสากล
แต่เนื้อหาจริงๆ กลับเป็นการสั่งการกดปุ่มได้ โดยคนเพียงคนเดียว
เหนืออื่นใด เมื่อสถานการณ์เดินมาถึงวันนี้ แม้จะมีการสั่งการให้แกนนำคนเสื้อแดงยกเลิกการจัดงานแซยิด 60 ปี ที่ท้องสนามหลวงไปแล้ว
เพื่อลดกระแสต่อต้านจากสังคมที่อาจส่งผลกระทบไปถึง "นายใหญ่"
แต่สำหรับอีกเรื่องหนึ่งที่ยังเป็นประเด็นร้อนแรง และยังไม่มีการสั่งการให้ยุติการดำเนินการ นั่นก็คือ
การที่แกนนำกลุ่ม นปช.เดินหน้าล่ารายชื่อประชาชนคนเสื้อแดง 1 ล้านคน ภายใน 1 เดือน
เพื่อยื่นถวายฎีกาขออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
ในคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาง
การเมือง ตัดสินพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดาฯ
ปมนี้ มีคำถามถึงท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และก็เป็นนายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ออกมาเฉลยคำตอบ
"พ.ต.ท.ทักษิณยังบอกเหมือนเดิม คือ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ปล่อยให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน"
ยังไม่มีสัญญาณที่จะให้แกนนำกลุ่มเสื้อแดงยุติ เปลี่ยนแปลงแผนการแต่อย่างใด
ทั้งๆที่ว่ากันตามจริงแล้ว ปมการเคลื่อนไหวล่ารายชื่อถวายฎีกาขออภัยโทษให้ "ทักษิณ"
ถือเป็นเรื่องใหญ่และร้อนแรงกว่าปมการการเคลื่อนไหว
จัดงานแซยิด 60 ปี ให้ พ.ต.ท.ทักษิณที่ท้องสนามหลวงหลายเท่านัก
ล่าสุด แกนนำกลุ่ม นปช.ออกมาประกาศโปรแกรมว่าจะแถลงจำนวนผู้ร่วมลงชื่อถวายฎีกาชุดแรกในวันที่ 15 กรกฎาคม โดยเชื่อว่าจะสามารถรวบรวมรายชื่อได้ถึง 1 ล้านรายชื่อ
เพราะถ้า 76 จังหวัด มีคนร่วมลงชื่อจังหวัดละ 15,000 คน หรือมีคนร่วมลงรายชื่อในแบบฟอร์มถวายฎีกาแค่ใบละ 4 คน เพียง 2,500 ใบ ก็ได้ 10,000 คน ถ้าแจกจังหวัดละ 5,000 ใบ เมื่อครบ 1 เดือนน่าจะได้รายชื่อเกิน 1 ล้านคนแน่นอน
และในวันที่ 31 กรกฎาคม จะยุติการล่ารายชื่อ หากได้ถึง
1 ล้านคน จะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
กำหนดการเคลื่อนไหวไว้เป็นขั้นเป็นตอน วางงานอย่างเป็นระบบ
โดยการเดินเกมดังกล่าว มีการจัดการผ่านแกนนำกลุ่ม นปช.
ในสาย "ความจริงวันนี้"
ผนวกกับการใช้ระบบหัวคะแนน กลไกจัดตั้งทางการเมืองของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในจังหวัดต่างๆเป็นตัวขับเคลื่อน
เดินสายกระจายแบบฟอร์มให้ประชาชนร่วมลงชื่อ
แน่นอน ด้วยเครือข่ายการจัดการอย่างเป็นระบบ บวกกับฐานมวลชนคนเสื้อแดงที่ยังรักและศรัทธา พ.ต.ท.ทักษิณ
การรวบรวมรายชื่อ 1 ล้านคน ไม่ใช่เรื่องยาก
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวล่ารายชื่อถวายฎีกาขออภัยโทษให้ "ทักษิณ"
โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงให้การสนับสนุน
แต่ก็มีคนในสังคมอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว
ในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้าฝ่ายที่มีความเห็นแย้งว่าไม่สมควรที่จะมีการอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ
ประกาศตั้งโต๊ะล่ารายชื่อประชาชนถวายฎีกาคัดค้านการอภัยโทษ
บ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้น
ที่สำคัญ หากเกิดสถานการณ์เช่นนั้น ก็เท่ากับว่าสถาบันสูงสุดที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ อยู่เหนือจากความขัดแย้งทั้งมวล
ต้องถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง
ซึ่งเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่งที่คนไทยจะกระทำ
"ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ" ขอชี้ว่า การที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเดินเกมล่ารายชื่อถวายฎีกาขออภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณในครั้งนี้
ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ส่งผลสะเทือนต่อโครงสร้างของประเทศไทยอย่างรุนแรง
เริ่มจากกระบวนการยุติธรรม สถาบันศาล โดยเฉพาะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณได้ป่าวร้องฟ้องนานาชาติว่า เขาถูกกระทำ ถูกรังแก กระบวนการยุติธรรมของไทยไม่น่าเชื่อถือ
โจมตีรุนแรงถึงขั้นระบุว่า เป็นกระบวนการยุติความเป็นธรรม
ทำให้กระบวนการยุติธรรมของไทย ถูกลดความเชื่อถือในสายตาของชาวต่างชาติบางส่วนที่ไม่เข้าใจสังคมไทย
อย่างลึกซึ้ง
ยิ่งมีการเคลื่อนไหวล่ารายชื่อถวายฎีกาขออภัยโทษให้ "ทักษิณ" ก็เท่ากับเป็นความพยายามที่จะตอกย้ำว่า
กระบวนการยุติธรรมของไทยมีปัญหา
ดิสเครดิตความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมไทย
ในขณะที่การบริหารของรัฐบาลก็จะสั่นคลอน เพราะเมื่อมีการล่ารายชื่อถวายฎีกา ก็จะมีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้าน
ส่งผลให้ความแตกแยกของคนในชาติยิ่งถ่างออกไป และมีแต่ความเกรี้ยวกราดใส่กัน
ทำให้การบริหารประเทศเดินหน้าไปไม่ได้ เพราะเมื่อนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีเดินทางไปปฏิบัติงานที่ไหนก็จะโดนกลุ่มเสื้อแดงต่อต้าน
ในขณะที่การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ การทำงานในสภาฯระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล ก็จะดำเนินไปแบบเป็นศัตรู
ตีรวน ขัดขา ขวางลำกันทุกเรื่อง ไม่ได้มองประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เน้นไปที่การชำระแค้นกันเป็นหลัก
เหนืออื่นใด สถาบันสูงสุดที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ และอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง
กำลังถูกดึงให้กระทบกระเทือนไปด้วย
จากสถานการณ์ที่เป็นผลกระทบจากการเดินเกมล่ารายชื่อถวายฎีกาขออภัยโทษให้ "ทักษิณ" ในครั้งนี้
ล่อแหลมที่จะทำให้โครงสร้างประเทศไทยตกอยู่ในอาการเดี้ยง
สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดกลียุคครั้งใหญ่.
"ทีมการเมือง"