ที่มา มติชน
แม้จะเสียงสั่นเป็นบางช่วง และเหลือบดูสคริปต์เป็นบางครั้ง
แต่การแถลงข่าวเปิดตัวครั้งแรกของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ก็แฝงคมทางการเมืองที่ไม่ธรรมดา
ทีมการเมืองพรรคเพื่อไทยต้องการใช้การแถลงข่าวเปิดตัวครั้งนี้ปิด "จุดอ่อน" ของ "ยิ่งลักษณ์" ที่ถูกมองว่าเป็นละอ่อนทางการเมือง
หรือการเป็น "นอมินี" ของ "ทักษิณ ชินวัตร"
พร้อมกับชูจุดเด่นเรื่องประสบการณ์การทำงานเพื่อสร้างภาพเปรียบเทียบกับ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"
"ยิ่ง ลักษณ์" เริ่มต้นการเปิดตัวด้วยการเล่าประวัติชีวิตของตนเองว่าอยู่ในครอบครัวที่ทำ ธุรกิจ และเป็นนักการเมือง จึงคุ้นเคยกับเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่เด็ก
นอกจากนั้นยังเรียนจบคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เพื่อจะบอกว่าเธอเรียนด้าน "การเมือง" มาโดยตรง
ส่วนประสบการณ์การทำงาน ก็ทำงานมาทั้งธุรกิจสิ่งพิมพ์ (สมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง) โทรทัศน์ โทรคมนาคม และอสังหาริมทรัพย์
ทั้งหมดเพื่อบอกว่าเธอไม่ใช่ "ละอ่อน" ทางการเมืองและการทำงาน
ในการแถลงครั้งนี้ "ยิ่งลักษณ์" หลีกเลี่ยงการเอ่ยชื่อ "ทักษิณ" แต่ใช้คำว่า "พี่ชาย" แทน
รวม ทั้งไม่เอ่ยชื่อบริษัทที่ทำงานทั้งที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น "เอไอเอส" หรือ "เอสซี แอสเสท" เพราะคงประเมินแล้วว่าไม่เป็นผลบวกมากนักเนื่องจากเป็นธุรกิจของตระกูลชิน วัตรทั้งในอดีตและปัจจุบัน
เธอสรุปว่าทุกธุรกิจที่ทำมา คือ การบริการลูกค้าหรือประชาชน
จากนั้น "ยิ่งลักษณ์" ก็เล่าประสบการณ์ตอนเป็น "ซีอีโอ" ในการช่วยเหลือลูกค้า "เอไอเอส" ในเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547
"ดิฉัน ทราบอย่างเดียวว่าในฐานะที่เป็นผู้ นำองค์กร เราจะทำอย่างไรให้ประชาชนหรือลูกค้าสามารถติดต่อกับญาติหรือเจ้าหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิในครั้งนั้นให้รอดชีวิต นี่ก็เป็นหนึ่งงานที่ดิฉันภาคภูมิใจในการช่วยเหลือประชาชน"
ก่อนสรุปแบบให้คนคิดถึงผลงานการช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์ "น้ำท่วม" ที่ผ่านมาของรัฐบาล "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"
"จากงานบริการดังกล่าว ทำให้ดิฉันรู้ว่าทุกข์หรือความเดือดร้อนของลูกค้านั้นรอไม่ได้ ต้องได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วและทันที"
1 ดอก...
"ยิ่งลักษณ์" เล่าถึงความรู้ที่หลากหลายที่ได้จากพ่อและ "พี่ชาย" ที่มอง "ไปข้างหน้า" และ "ทางเลือกใหม่" เสมอ เพื่อแสดงถึงวิสัยทัศน์ของตนเอง
จากนั้นจึงปรับโหมดเข้าสู่เรื่องการตัดสินใจรับตำแหน่ง "ปาร์ตี้ลิสต์" หมายเลข 1
"ยิ่ง ลักษณ์" เริ่มจากเหตุการณ์หลังการรัฐประหารที่ทำให้เข้าใจธรรมชาติการเมืองมากขึ้น และพบว่า 5 ปีผ่านไปประชาชนก็ยังคิดถึง "พี่ชาย" และนโยบายในอดีต
"ประชาชน ยังให้ความอบอุ่น เมตตากับครอบครัว ดิฉันจึงรู้สึกว่าครอบครัวจึงเป็นหนี้ประชาชน และเป็นเหตุผลใหญ่ที่ตัดสินใจมาทำงานด้านการเมือง"
พอเข้าสู่เรื่องการเมือง "ยิ่งลักษณ์" ก็พูดจาภาษาการเมืองทันที ทั้งคำว่า "รับใช้ประชาชน-การปรองดอง-มองข้ามความขัดแย้ง-แก้ความทุกข์ยากของประชาชน"
และ "ไม่คิดแก้แค้น แต่คิดแก้ไข"
ก่อนตบท้ายการแถลงข่าวด้วยประโยคสำคัญที่เหมือนต้องการสอนวิชา "สุภาพบุรุษ" ให้กับ "บุญยอด สุขถิ่นไทย" ที่ออกมาเล่นเรื่อง "ครอบครัว" ของ "ยิ่งลักษณ์"
"ดิฉันพร้อมที่จะรับการพิสูจน์ต่อสาธารณชน ภายใต้กติกาและมารยาทที่เป็นธรรม"
เสียบกลับอีก 1 ดอก
แม้จะเป็นแค่ "ยกแรก" ของ "ยิ่งลักษณ์" แต่เธอก็โชว์จะเขี้ยวคมทางการเมืองให้เห็น
แม้จะเป็นสคริปต์ที่เตรียมมาและเสียงสั่นเป็นบางครั้ง
แต่ก็น่าจับตามองว่าระยะเวลา อีกเกือบ 2 เดือนบนเวทีการหาเสียงเลือกตั้งจะเปลี่ยนบุคลิกที่สุภาพอ่อนน้อมของ "ยิ่งลักษณ์" หรือไม่
บางทีเราอาจได้เห็น "ยิ่งลักษณ์" คนใหม่
"สวยประหาร"